2 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ ว่าตั้งแต่มีการบรรลุข้อตกลงประนีประนอมทางการค้ากับสหรัฐ ระหว่างการเจรจาที่เมืองเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีนปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมด อย่างเคร่งครัดตรงข้ามกับสหรัฐ ที่เป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลงดังกล่าว โดยสหรัฐเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและการค้าฝ่ายเดียวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ความไม่แน่นอนและความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐกับจีน ยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

หากรัฐบาลวอชิงตันยังคงเดินหน้าแนวทางแบบนี้และยังไม่ยุติการเคลื่อนไหวเพื่อมุ่งทำลายผลประโยชน์ของจีน รัฐบาลปักกิ่งไม่ลังเลที่จะตอบโต้อย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของตัวเอง

โดย เงื่อนไขสำคัญของข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างสองประเทศ คือจีนลดภาษีให้สหรัฐ จาก 125% เหลือ 10% ส่วนสหรัฐลดภาษีให้จีนจาก 145% เหลือ 30% เป็นเวลา 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จุดชนวนความตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง โดยการกล่าวว่า จีนเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงโดยไม่มีการอธิบาย 

นายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลังสหรัฐ ย้ำว่า ผู้นำสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนต้องคุยกันเพื่อให้การหารือคืบหน้า กระบวนการส่งออกสินค้าสำคัญบางรายการจากจีนมายังสหรัฐกลับล่าช้าทั้งที่ตกลงกันแล้วระหว่างการเจรจาที่เมืองเจนีวา หนึ่งในนั้นคือ การอนุมัติการส่งออกแร่ธาตุหายาก ซึ่งอาจเป็นความล่าช้าตามขั้นตอนของจีนเองหรืออาจเป็นเจตนาและแสดงความหวังว่าประเด็นนี้จะได้รับการคลี่คลายในการหารือของผู้นำทั้ง2ประเทศ