2 มิถุนายน 2568 หญิงจีนแซ่หวัง วัย 26 ในกรุงปักกิ่ง เลี้ยงเพื่อนตัวน้อยสีเทาไว้ในที่ทำงาน มันคือ "สัตว์เลี้ยงปัญญาประดิษฐ์" (AI pet) ตัวเล็กๆ ที่ถูกเรียกว่า "โรเพ็ท" (ROPET) สัตว์เลี้ยงตัวนี้ของเธอมีขนนุ่มฟู ดวงตากลมโตสุดแบ๊วที่กระพริบได้ พร้อมผิวสัมผัสอันอบอุ่น มันยังสามารถเอียงหัวมาทางเธอ ส่งเสียงครางเบาๆ และเอาตัวมาซบ ราวกับลูกแมวที่ต้องการความรัก
แม้ว่าจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนสัตว์จริง แต่เจ้า ROPET สามารถตรวจจับผู้คน อาหาร และสิ่งของต่างๆ ได้ด้วยกล้องในตัว พร้อมตอบสนองผ่านการสบตา ส่งเสียง และทำท่าทาง ทั้งยังมีโหมดบุคลิกภาพ 8 แบบ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามการปฏิสัมพันธ์ของเจ้าของ
หวังกล่าวว่า ROPET ช่วยปลอบโยนเธอเวลาเครียด แถมไม่สร้างความวุ่นวายเหมือนสัตว์เลี้ยงจริง ทั้งยังพัฒนาโดยบริษัท คิวต์ เวิลด์ เทคโนโลยี จำกัด (Cute World Technologies Ltd.) ที่เธอเองมีส่วนร่วมในทีมออกแบบด้วย
โจวอวี้สู่ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน ผู้ร่วมก่อตั้ง ROPET กล่าวว่าสัตว์เลี้ยงเอไอถูกออกแบบมาเพื่อ "แข่งขัน" กับสัตว์จริง ในแง่ของการสัมผัสและการตอบสนองต่อผู้เลี้ยง พร้อมเสริมว่า สัตว์เลี้ยงเอไอส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อรับใช้มนุษย์ แต่ก็มีบางอย่างที่เหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ
จุดเด่นของ ROPET อยู่ที่ความง่ายในการดูแลและความสามารถในการตอบสนองทางอารมณ์ ผู้เลี้ยงไม่ต้องให้อาหารหรือพาพวกมันไปเดินเล่น ทั้งยังเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในเครื่อง เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ROPET เจาะกลุ่มลูกค้าผู้หญิงวัย 25-40 ปี และตอนนี้เริ่มได้รับความนิยมในต่างประเทศแล้ว นับตั้งแต่เริ่มพัฒนาในปี 2022 ROPET ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มระดมทุนต่างประเทศเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมียอดขาย 1,400 ชิ้นในยุโรปและอเมริกาเหนือ และมียอดขายอีก 8,000 ชิ้นในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเกาะไต้หวันของจีน โดยคาดว่าจะเปิดตัวเต็มรูปแบบในจีนแผ่นดินใหญ่ในปีหน้า
โจวอวี้สู่ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน ผู้ร่วมก่อตั้ง ROPET โพสท่าถ่ายภาพร่วมกับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงเอไอที่ตนพัฒนาขึ้น ในกรุงปักกิ่งของจีน
สัตว์เลี้ยงเอไอสำหรับเด็กก็กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน โดยเฉพาะเบเบี้แอลฟา (BabyAlpha) หุ่นยนต์สุนัขสี่ขาที่พัฒนาโดยบริษัทจีนในหนานจิง ซึ่งสามารถร้องเพลง เต้น พูดสองภาษา ตอบสนองต่อการสัมผัส และยังสามารถถ่ายรูปและตรวจตราความเรียบร้อยภายในบ้านได้ด้วย
ด้วยซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งของจีน ราคาของเบเบี้แอลฟานั้นจึงใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนทั่วไป ทำให้ยอดขายออนไลน์พุ่งสูง โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของปีนี้ที่ยอดขายเพิ่มกว่าร้อยละ 150 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีการเพิ่มกำลังการผลิตถึงร้อยละ 200
สัตว์เลี้ยงเอไอไม่ได้มีไว้แค่เป็นเพื่อนเล่นหรือสร้างความอุ่นใจเท่านั้น แต่ยังถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พิการ เช่น สุนัขนำทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาขึ้นโดยทีมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเสิ่นหยาง (Shenyang Ligong University) ให้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง จดจำวัตถุ โต้ตอบ และช่วยเลือกสีเสื้อผ้าให้เข้ากันได้
จีนมีผู้พิการทางสายตาราว 20 ล้านคน แต่มีสุนัขนำทางจริงเพียง 400 ตัว ทำให้สุนัขนำทางเอไอกำลังกลายเป็นทางเลือกสำคัญในอนาคต ทีมผู้พัฒนาเผยว่า กำลังเตรียมทดลองใช้งานในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง และมองหานักลงทุนเพื่อผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป
นอกจากนี้ คนรุ่นใหม่จีนมีแนวโน้มอาศัยอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น จึงส่งผลให้ตลาด "เศรษฐกิจจากความเหงา" ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าหลายแสนล้านหยวน เติบโตอย่างรวดเร็ว สัตว์เลี้ยงเอไอ กลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการมีเพื่อนเคียงข้าง แต่ไม่มีเวลาดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิตจริงๆ รวมถึงคนที่แพ้ขนสัตว์ หรืออาศัยอยู่ในที่พักที่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์
อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเอไอของจีนกำลังโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงตั้งโต๊ะที่ช่วยบรรเทาความเหงา ไปจนถึงสุนัขหุ่นยนต์ที่ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา ล้วนให้ภาพอนาคตที่มิตรภาพ การดูแลเอาใจใส่ และเทคโนโลยีล้ำสมัย สามารถเติบโตไปด้วยกันได้
ศาสตราจารย์เว่ยเสียง จากสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์แห่งชาติจีน (CASS) กล่าวว่าสัตว์เลี้ยงเอไอเป็นการต่อยอดจากสัตว์เลี้ยงแบบดั้งเดิม ที่สามารถให้ทั้งความผูกพันและความยั่งยืน โดยภาคส่วนนี้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีเกินร้อยละ 8 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะแตะที่ร้อยละ 10 ภายในห้าปีข้างหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี