วันอาทิตย์ ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
‘ทรัมป์’ยังได้เฮ! ศาลอุทธรณ์สั่งคุ้มครองชั่วคราวมาตรการกำแพงภาษี

‘ทรัมป์’ยังได้เฮ! ศาลอุทธรณ์สั่งคุ้มครองชั่วคราวมาตรการกำแพงภาษี

วันศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.54 น.
Tag : สงครามการค้า ศาลอุทธรณ์ ศาลการค้า กำแพงภาษี สหรัฐอเมริกา ภาษีทรัมป์
  •  

30 พ.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump's tariffs to remain in effect after appeals court grants stay ระบุว่า ศาลอุทธรณ์สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้มาตรการกำแพงภาษี หรือการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปได้ หลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ระบุว่ามาตรการดังกล่าวของทรัมป์เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย

คำตัดสินของศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ดังกล่าวนั้นสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย ซึ่งอาจส่งผลให้การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า “วันปลดแอก (Liberation Day)” ของทรัมป์ รวมถึงภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน ล่าช้าออกไป โดยคำตัดสินของศาลดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการที่ทรัมป์กล่าวหาว่าทั้งสามประเทศนี้อำนวยความสะดวกให้ยาเฟนทานิลที่ไหลทะลักเข้าสู่สหรัฐฯ


องค์คณะตุลาการของศาลการค้าฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้พิพากษา 3 คน ได้วินิจฉัยว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ให้อำนาจแก่รัฐสภาในการเรียกเก็บภาษีและอากร ไม่ใช่ประธานาธิบดี แต่ประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการอ้างกฎหมาย พ.ร.บ.อำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อจัดการกับภัยคุกคามในช่วงภาวะฉุกเฉินระดับชาติ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวต่อคำตัดสินของศาลการค้าฯ และคาดว่าจะชนะในการต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ หรือไม่ก็จะใช้อำนาจอื่นๆ ของประธานาธิบดี เพื่อให้แน่ใจว่าภาษีศุลกากรจะมีผลบังคับใช้

ทรัมป์ใช้เหตุผลเรื่อง “ภัยคุกคาม” ในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรราคาแพงจากผู้นำเข้าของสหรัฐฯ สำหรับสินค้าจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเป็นแรงผลักดันในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งคำตัดสินของศาลการค้าฯ จะพลิกโฉมกลยุทธ์ดังกล่าว แต่รัฐบาลทรัมป์กล่าวว่า คำตัดสินของศาลการค้าฯ ไม่ได้ขัดขวางการเจรจากับคู่ค้ารายใหญ่ใดๆ ที่กำหนดไว้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ความในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า ตนหวังให้ศาลฎีกา “พลิกคำตัดสินที่น่ากลัวนี้ที่คุกคามประเทศ" ของศาลการค้า พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่าเป็นพวกต่อต้านอเมริกา

“การตัดสินใจอันน่าสยดสยองนี้ระบุว่าผมจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสำหรับภาษีศุลกากรเหล่านี้ หากปล่อยให้เกิดขึ้น อำนาจของประธานาธิบดีจะถูกทำลายล้างอย่างสิ้นเชิง ตำแหน่งประธานาธิบดีจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการยกย่องจากทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกา” ทรัมป์ โพสต์ข้อความเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 พ.ค. 2568

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า คู่ค้าหลายรายของสหรัฐฯ ได้ให้คำตอบอย่างระมัดระวัง รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่าคำตัดสินของศาลการค้าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาลสหรัฐฯ และระบุว่าเป็นเพียง "ขั้นตอนแรกของกระบวนการทางกฎหมาย" ทั้งเยอรมนีและคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่าไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำตัดสินดังกล่าวได้ แต่อีกด้านหนึ่ง มาร์ค คาร์นีย์ (Mark Carney) นายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า คำตัดสินของศาลการค้าฯ สอดคล้องกับจุดยืนที่ยาวนานของแคนาดา ที่ว่าภาษีศุลกากรของทรัมป์เป็นการกระทำผิดกฎหมาย

ตลาดการเงินซึ่งผันผวนตอบสนองต่อความพลิกผันของสงครามการค้าที่วุ่นวายของทรัมป์ ตอบสนองด้วยความหวังอย่างระมัดระวังต่อคำตัดสินของศาลการค้าฯ แม้การเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดทหลักทรัพย์ในวันที่ 29 พ.ค. 2568 จะถูกจำกัดส่วนใหญ่โดยความคาดหวังว่าคำตัดสินของศาลอาจต้องเผชิญกับกระบวนการอุทธรณ์ที่อาจยาวนาน ตามการวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ นักวิเคราะห์มองว่าความไม่แน่นอนในวงกว้างยังคงมีอยู่เกี่ยวกับอนาคตของภาษีศุลกากรของทรัมป์ ซึ่งทำให้บริษัทสูญเสียยอดขายมากกว่า 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และต้นทุนที่สูงขึ้น

ภาษีศุลกากรเฉพาะบางภาคส่วน เช่น การนำเข้าเหล็ก อลูมิเนียม และรถยนต์ ถูกบังคับใช้โดยทรัมป์ภายใต้อำนาจที่แยกจากกันด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และไม่ได้รับผลกระทบจากคำตัดสินของศาลการค้าฯ ขณะที่ ศูนย์ยุติธรรมลิเบอร์ตี้ ซึ่งเป็นกลุ่มไม่แสวงหากำไรที่เป็นตัวแทนของธุรกิจขนาดเล็ก 5 แห่งที่ฟ้องร้องเกี่ยวกับมาตรการกำแพงภาษีของทรัมป์ ให้ความเห็นว่า คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลอุทธรณ์เป็นเพียงขั้นตอนตามกระบวนการ

เจฟฟรีย์ ชวาบ (Jeffrey Schwab) ที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์แห่งนี้ กล่าวว่า ศาลอุทธรณ์จะเห็นด้วยกับธุรกิจขนาดเล็กที่เผชิญกับความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้จากการสูญเสียซัพพลายเออร์และลูกค้าที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานที่ถูกบังคับให้เกิดขึ้นซึ่งมีต้นทุนสูง และที่สำคัญที่สุดคือภัยคุกคามโดยตรงต่อการอยู่รอดของธุรกิจเหล่านี้

ในวันที่ 29 พ.ค. 2568 ศาลรัฐบาลกลางอีกแห่งยังมีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการใช้ พ.ร.บ.อำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ สำหรับสิ่งที่เรียกว่าภาษีศุลกากรแบบตอบแทนอย่างน้อยร้อยละ 10 สำหรับสินค้าจากคู่ค้าส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ และสำหรับภาษีศุลกากรแยกต่างหากร้อยละ 25 สำหรับสินค้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีนที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิล อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าวมีขอบเขตที่แคบกว่ามาก และคำสั่งบรรเทาทุกข์เพื่อหยุดภาษีศุลกากรนั้นมีผลใช้กับบริษัทของเล่นที่ยื่นฟ้องเท่านั้น แต่ฝ่ายบริหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ได้อุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวด้วยเช่นกัน

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่ตลาดเกิดการประท้วงหลังจากทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2568 ผู้นำสหรัฐฯ ได้ระงับภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน และกล่าวว่า ตนจะเจรจาข้อตกลงทวิภาคีกับพันธมิตรทางการค้า อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า นอกเหนือไปจากข้อตกลงกับอังกฤษในเดือน พ.ค. 2568 นี้แล้ว ข้อตกลงต่างๆ ยังคงคลุมเครือ และการตัดสินของศาลการค้าฯ เกี่ยวกับภาษีนำเข้าและความไม่แน่นอนของกระบวนการอุทธรณ์อาจทำให้ประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ไม่กล้าที่จะทำข้อตกลงโดยเร็ว

จอร์จ ลากาเรียส (George Lagarias) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Forvis Mazars บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการตรวจสอบบัญชีและที่ปรึกษาทางธุรกิจ กล่าวว่า หากการอุทธรณ์ไม่ประสบผลสำเร็จในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ชัยชนะหลักคือเวลาที่จะเตรียมตัว และกำหนดขอบเขตของภาษีนำเข้า ซึ่งในขณะนี้จะไม่เกินร้อยละ 15

ขณะที่ Oxford Research สถาบันคลังสมองในอังกฤษ คาดการณ์ว่า คำวินิจฉัยของศาลการค้าฯ น่าจะทำให้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ลดลงเหลือประมาณร้อยละ 6 แต่คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลอุทธรณ์ทำให้ภาษีศุลกากรจะคงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ทรัมป์ทำเมื่อต้นเดือน พ.ค. 2568 โดยลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนจนถึงปลายฤดูร้อน ในทางตรงกันข้าม อัตราภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจริงอยู่ระหว่างร้อยละ 2 - 3 ก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยที่ 2 เมื่อเดือน ม.ค. 2568

สงครามการค้าของทรัมป์ทำให้ผู้ผลิตสินค้าทุกอย่างสั่นคลอน ตั้งแต่กระเป๋าถือและรองเท้าผ้าใบหรูหรา ไปจนถึงเครื่องใช้ในบ้านและรถยนต์ เนื่องจากราคาของวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น บริษัทเครื่องดื่ม Diageo และผู้ผลิตรถยนต์ General Motors และ Ford เป็นกลุ่มที่เลิกคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้าแล้ว ขณะที่บริษัทที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ เช่น Honda, Campari, Roche และ Novartis กล่าวว่ากำลังพิจารณาย้ายการดำเนินงานหรือขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากร

ทั้งนี้ ในกระบวนการชั้นอุทธรณ์ ศาลได้สั่งให้ฝ่ายโจทก์ ซึ่งยื่นฟ้องให้เพิกถอนมาตรการกำแพงภาษี ยื่นคำร้องภายในวันที่ 5 มิ.ย. 2568 ส่วนฝ่ายจำเลย คือรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ยื่นคำร้องภายในวันที่ 9 มิ.ย. 2568

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.reuters.com/business/us-ruling-that-trump-tariffs-are-unlawful-stirs-relief-uncertainty-2025-05-29/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.naewna.com/inter/887747 ‘ทรัมป์’เจอศาลเบรก‘กำแพงภาษี’ ชี้ทำเกินอำนาจ

043...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ทรัมป์’เจอศาลเบรก‘กำแพงภาษี’ ชี้ทำเกินอำนาจ ‘ทรัมป์’เจอศาลเบรก‘กำแพงภาษี’ ชี้ทำเกินอำนาจ
  • สลด! กราดยิงกลางสวนสาธารณะ\'ฟิลาเดลเฟีย\' เสียชีวิต 2 ราย สลด! กราดยิงกลางสวนสาธารณะ'ฟิลาเดลเฟีย' เสียชีวิต 2 ราย
  • ดับ1รอด1! อุทาหรณ์จาก‘สหรัฐฯ’ผู้ปกครองลืมเด็กไว้ในรถ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ดับ1รอด1! อุทาหรณ์จาก‘สหรัฐฯ’ผู้ปกครองลืมเด็กไว้ในรถ อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต
  • สหรัฐฯอ่วม! ทอร์นาโดถล่ม\'มิสซูรี-เคนทักกี\' สังเวยแล้ว 27 ราย สหรัฐฯอ่วม! ทอร์นาโดถล่ม'มิสซูรี-เคนทักกี' สังเวยแล้ว 27 ราย
  • ยอมรับภาษี-อย่าผลักภาระให้ผู้บริโภค! ‘ทรัมป์’โต้ยักษ์ค้าปลีก‘วอลมาร์ท’ปมโอดขอปรับราคาสินค้า ยอมรับภาษี-อย่าผลักภาระให้ผู้บริโภค! ‘ทรัมป์’โต้ยักษ์ค้าปลีก‘วอลมาร์ท’ปมโอดขอปรับราคาสินค้า
  • สังขารยังดีต้องทำงานแลก! รัฐบาล‘ทรัมป์’ชงแนวทางใหม่จัดสวัสดิการรัฐชาวอเมริกัน สังขารยังดีต้องทำงานแลก! รัฐบาล‘ทรัมป์’ชงแนวทางใหม่จัดสวัสดิการรัฐชาวอเมริกัน
  •  

Breaking News

'เปแอสเช'เจ้ายุโรป!ถล่มอินเตอร์ยับ5-0ผงาดแชมป์สมัยแรก

‘ประชาธิปไตย’ที่ดี‘ระบบตรวจสอบ’ต้องเข็มแข็ง ‘เทคโนโลยี’ไร้กติกาเหมาะสมปลายทางคือ‘ผูกขาด’

'ภราดร'ชี้ปิดด่านไทย-กัมพูชา อำนาจ'มทภ.2' เตือน'จิรายุ'ระวังคำพูดกระทบมั่นคง

(คลิป) 'ทักษิณ' หยาม! 'หนูรี' ซัด!ไม่ใช่ผู้เสียหาย ศาลรับฟังไม่ได้!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved