วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ต่างประเทศ
จากฝิ่นถึงยาบ้า!  ‘เมียนมา’สงครามกลางเมืองยืดเยื้อ-ยาเสพติดเฟื่องฟู

จากฝิ่นถึงยาบ้า! ‘เมียนมา’สงครามกลางเมืองยืดเยื้อ-ยาเสพติดเฟื่องฟู

วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 12.07 น.
Tag : ฝิ่น เมียนมา ยาเสพติด สงครามกลางเมือง พม่า ยาบ้า
  •  

9 มิ.ย. 2568 สำนักข่าวอัลจาซีราของกาตาร์ เสนอรายงานพิเศษ ‘We do this to survive’: Harvesting opium poppies in Myanmar’s Shan State ว่าด้วยประเทศเมียนมา ดินแดนที่มีสถานการณ์สงครามกลางเมืองยืดเยื้อยาวนานหลายสิบปีระหว่างกองทัพของรัฐบาลพม่ากับกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทำให้ที่นั่นกลายเป็นแหล่งรวมอาชญากรรม หนึ่งในนั้นคือเป็นแหล่งผลิตยาเสพติด อาทิ การปลูกฝิ่น พืชที่เป็นยาเสพติดในตัวเองและยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นยาเสพติดสังเคราะห์อย่างมอร์ฟีนและเฮโรอีนได้ด้วย

รายงานของสื่อกาตาร์ เริ่มด้วยคำบอกเล่าของ Tian Win Nang  หนุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกชายเจ้าของไร่ฝิ่น ที่กล่าวว่า ฝิ่น 1 กิโลกรัม มีราคา 250 เหรียญสหรัฐ (ราว 8,300 บาท) โดยจะมีพ่อค้าชาวจีนมารับซื้อก่อนลำเลียงไปยังโรงงานแปรรูป ซึ่งชายหนุ่มบอกว่า การปลูกฝิ่นของพวกตนก็เพื่อความอยู่รอด และสถานที่ที่ปลูกฝิ่นนี้อยู่ทางตอนใต้ในเขตอิทธิพลของรัฐฉาน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเมียนมา ไร่ฝิ่นนั้นอยู่ใกล้กับเส้นทางบนภูเขาใกล้เมือง Pekon ซึ่งเส้นทางเหล่านี้ทอดยาวไปจนถึงชายแดนของไทย ลาวและจีน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา


บรรดาผู้เชี่ยวชาญสถานการณ์ในเมียนมา กล่าวว่า พันธมิตรระหว่างนายทหารระดับสูงของกองทัพรัฐบาลพม่า กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ เครือข่ายอาชญากรในพื้นที่ และกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่จัดการด้านโลจิสติกส์ การกลั่น และการจัดจำหน่ายยาเสพติดนั้นมีมานานแล้ว อาทิ มาร์ก ฟาร์มาเนอร์ (Mark Farmaner) ผู้อำนวยการองค์กรการกุศล Advance Myanmar ที่ตั้งอยู่ในลอนดอนและผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า การค้ายาเสพติดในเมียนมาได้รับการอำนวยความสะดวกโดยกองทัพมาตั้งแต่ทศวรรษ 1990 (ปี 2533 – 2542) เจ้าหน้าที่หลายคนแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และองค์กรโดยรวมก็ได้รับผลประโยชน์ทางการเมือง

กลุ่มอาชญากรระดับภูมิภาคที่ทรงอำนาจที่สุดกลุ่มหนึ่งคือ Sam Gor ซึ่งเป็นเครือข่ายที่แผ่ขยายกว้าง ประกอบด้วยพันธมิตรของกลุ่มอาชญากรจีนที่เป็นคู่แข่งกัน ซึ่งปฏิบัติการในจีน เมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และประเทศอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าในปี 2564 เจ๋อชือลอป (Tse Chi Lop) ชาวแคนาดาเชื้อสายจีน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้นำของกลุ่ม Sam Gor จะถูกจับกุมและส่งตัวกลับออสเตรเลีย แต่เครือข่ายดังกล่าวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

สำนักงานปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประมาณการว่ากลุ่ม Sam Gor สร้างรายได้อย่างน้อย 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.6 แสนล้านบาท) และอาจมากถึง 17,700 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5.8 แสนล้านบาท) ในปี 2561 จากการควบคุมตลาดค้าส่งเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ระหว่างร้อยละ  40 - 70 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้จะมีการจับกุมเจ๋อชือลอปที่เป็นข่าวโด่งดัง แต่การค้ายาเสพติดกลับเฟื่องฟู โดยยึดเมทแอมเฟตามีนได้มากกว่า 1.1 พันล้านเม็ดทั่วภูมิถาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในปี 2566 ซึ่งถือเป็นสถิติประวัติศาสตร์

เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าส่วนใหญ่มาจากห้องทดลองที่ซ่อนอยู่ในภูเขาทางตอนเหนือของรัฐฉานและพื้นที่อื่นๆ บนชายแดนด้านตะวันออกของเมียนมา ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตยาเสพติดสังเคราะห์ในภูมิภาค และเป็นส่วนหนึ่งของ “สามเหลี่ยมทองคำ” ซึ่งเป็นพื้นที่ไร้กฎหมายที่ครอบคลุมพรมแดนร่วมกันของเมียนมา ไทยและลาว แต่ก่อนจะถึงยุคสมัยของยาบ้า ที่นี่เคยเป็นแหล่งผลิตฝิ่นและเฮโรอีน ในห้วงเวลาที่พื้นที่ดังกล่าวถูกปกครองโดย ขุนส่า (Khun Sa) ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “ราชายาเสพติด (Drug Lord)” ที่มีอิทธิพลอย่างมากในทศวรรษ 1980 – 1990 (ปี 2523 – 2542)

เชื่อกันว่าขุนส่ามีลูกน้องมากถึง 15,000 คน ในเวลานั้นพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐฉานกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตเฮโรอีนของโลก ก่อนจะยอมจำนนต่อรัฐบาลทหารพม่าในปี 2539 และเสียชีวิตที่เมืองย่างกุ้งในปี 2550 โดยได้รับความคุ้มครองจากนายพลกลุ่มเดียวกันที่ปกป้องเขามาเป็นเวลาหลายปี โดยภายหลังการเสียชีวิตของขุนส่า เคลวิน โรว์ลีย์ (Kelvin Rowley) อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสวินเบิร์นในออสเตรเลีย ได้กล่าวว่า ตามข้อมูลของสำนักงานปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐอเมริกา (DEA) ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 (ปี 2523-2532) ราวร้อยละ 70 ของเฮโรอีนในตลาดสหรัฐฯ มาจากแหล่งผลิตของเขา และค่าหัว 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 66 ล้านบาท) ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งเป็นรางวัลนำจับ ก็ยังน้อยกว่ารายได้ที่ขุนส่าได้รับในแต่ละเดือน

รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันฝิ่นได้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในสามเหลี่ยมทองคำ และหลังจากที่กลุ่มตาลีบันสั่งห้ามการปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถานในปี 2565 เมียนมาก็กลับมาเป็นผู้ผลิตฝิ่นรายใหญ่ที่สุดของโลกอีกครั้ง ขณะที่การประเมินของ UNODC ในปี 2566 พบว่าไร่ฝิ่นของเมียนมามีพื้นที่มากกว่า 47,000 เฮกตาร์ (มากกว่า 116,000 เอเคอร์ หรือราว 2.93 แสนไร่) และในปี 2567 มีการผลิตฝิ่นดิบประมาณ 995 ตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 135 นับตั้งแต่กองทัพทำรัฐประหารในปี 2564

 และจากการประเมินมูลค่ารวมของการค้าฝิ่นและเฮโรอีนในเมียนมาเมื่อปี 2567 คาดว่าอยู่ระหว่าง 589 ล้าน - 1.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.95 – 5.2 หมื่นล้านบาท) ซึ่งขนาดของการผลิตยาเสพติด ตามรายงานของสหประชาชาติ ยังเกี่ยวพันกับสงครามกลางเมืองระลอกล่าสุดในเมียนมา ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2564 เมื่อกองทัพทำรัฐประหารรัฐบาลพลเรือน จนปัจจุบันก็ผ่านมาแล้วกว่า 4 ปี โดยหลังรัฐประหาร เศรษฐกิจของเมียนมาก็ล่มสลาย เมื่อทางเลือกในชีวิตมีน้อยผู้คนจึงหันไปปลูกฝิ่นเพื่อความอยู่รอด       

“การปลูกฝิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเกี่ยวพันกับความยากจน การขาดบริการของรัฐ ความท้าทายทางเศรษฐกิจ และความไม่มั่นคงมาช้านาน ครัวเรือนและหมู่บ้านในเมียนมาที่ปลูกฝิ่นและเศรษฐกิจฝิ่นโดยรวมทำเพื่อเสริมรายได้หรือเพราะขาดโอกาสอื่นๆ ที่ชอบธรรม” รายงานของ UN ระบุ

ปัจจุบัน พื้นที่บางส่วนของ Pekon ซึ่งเป็นฐานที่มั่นทางทหารและเป็นแหล่งค้ายาเสพติดสำคัญ อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังป้องกันชาติกะเหรี่ยง (KNDF) และกองกำลังติดอาวุธอื่นๆ ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลพม่า อย่างไรก็ตาม กองกำลังเหล่านี้พยายามสร้างความเปลี่ยนแปลง อาทิ Maui รองผู้บัญชาการกองกำลัง KNDF กล่าวว่า KNDF ไม่สนับสนุนทั้งการผลิต ค้าหรือเสพยาเสพติด

“เมื่อกองกำลัง KNDF จับกุมทหารพม่าได้ก็พบว่าพวกเขามียาบ้าอยู่ในตัว และเมื่อสอบถามก็ได้ความว่าผู้บังคับบัญชาของพวกเขาแจกจ่ายยาบ้าให้กำลังพลเพื่อผลักดันทหารเหล่านี้เข้าสู่แนวหน้าของสนามรบ แต่วันใดที่สงครามสิ้นสุดลง เราจะปราบปรามฝิ่นด้วย โดยจะอนุญาตให้ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น” Maui กล่าว

ในเขตของรัฐฉาน ตำรวจชาวกะเหรี่ยงได้หยุดและตรวจค้นมอเตอร์ไซค์และยานพาหนะต่างๆ บนถนน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปราบปรามยาเสพติดดังกล่าว โดย Win Ning Thun ผู้บัญชาการตำรวจชาวกะเหรี่ยง ซึ่งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจนอกหมู่บ้านในเขต Pekon กล่าวว่า พาหนะที่ผ่านไป – มาซึ่งไม่คุ้นเคยจะถูกเรียกตรวจโดยเฉพาะการเฝ้าระวังการลำเลียงยาบ้า ซึ่งเป็นชื่อที่คนท้องถิ่นเรียกเมทแอมเฟตามีน

“เมื่อไม่นานนี้ พื้นที่บริเวณนี้ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทหารและกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนรัฐบาล ยาบ้าสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระภายใต้การดูแลของพวกเขา และได้หักส่วนแบ่งกำไรจากการขนส่งทุกครั้งที่ผ่านมา” Win Ning Thun กล่าว

ตำรวจชาวกะเหรี่ยงนายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ในป่าลึกที่ล้อมรอบเมือง Pekon มีเรือนจำสำหรับควบคุมตัวผู้กระทำผิดในคดียาเสพติด โดยมีทั้งคนที่แพร่กระจายยาเสพติดในพื้นที่ และคนที่ลักลอบขนส่งเสพติดไปยังชายแดนประเทศไทย ยาบ้าซึ่งเป็นเม็ดสีแดงขนาดเล็กจะถูกบรรจุลงถุงพลาสติกทำให้ซุกซ่อนได้ง่าย และแม้ราคาขายจะถูก แต่ยาบ้าก็เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ

อันทอน ลี (Anton Lee) หนึ่งในผู้ถูกจับกุม เล่าว่า การลำเลียงยาเสพติดของตนถูกหยุดที่ด่านตรวจเนื่องจากเจ้าหน้าที่พบยาบ้า 10,000 เม็ดที่ซุกซ่อนไว้ จากเป้าหมายเดิมที่จะนำยาเสพติดล็อตนี้ไปส่งที่ชายแดนไทย ซึ่งค่าตอบแทนที่ได้รับนั้นมากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ตลอดทั้งปี กลับต้องมาถูกจับและถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลานาน

รายงานข่าวทิ้งท้ายว่า ไม่ไกลจากเรือนจำแห่งนี้มากนัก การสู้รบระหว่างกองทัพพม่าของรัฐบาลทหาร ซึ่งได้ซื้ออาวุธที่ทันสมัยมากขึ้น กับกลุ่มติดอาวุธของฝ่ายต่อต้านยังคงดำเนินต่อไป กองทัพพม่านั้นใช้ทั้งการระดมยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศทั้งจากเครื่องบินและโดรน หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านตกเป็นเป้าหมาย ผลจากการโจมตีนั้นทำลายล้างทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล บ้านเรือนและศาสนสถาน แต่ถึงจะอยู่ภายใต้สถานการณ์สู้รบ ที่รัฐฉานทางตอนใต้ บางคนกำลังพยายามหยุดยั้งการไหลเวียนของยาเสพติด และแม้จะมีกำลังที่จำกัด แต่ก็จะทำทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้ในสมรภูมิอื่นในสงครามที่ใหญ่กว่ามาก  

ขอบคุณเรื่องจาก

https://www.aljazeera.com/features/2025/6/7/we-do-this-to-survive-harvesting-opium-poppies-in-myanmars-shan-state

043...

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กองทัพเมียนมาประกาศขยายเวลาหยุดยิงถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ กองทัพเมียนมาประกาศขยายเวลาหยุดยิงถึงสิ้นเดือน มิ.ย.นี้
  • กรรมของเหมียว! เครือข่ายอาชญากรรม‘คอสตาริกา’ใช้‘แมว’ลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ กรรมของเหมียว! เครือข่ายอาชญากรรม‘คอสตาริกา’ใช้‘แมว’ลอบนำยาเสพติดเข้าเรือนจำ
  • เมียนมาเกิดแผ่นดินไหวขนาด5.3กลางดึก ปชช.ระทึกเขย่า6ครั้งรวด เมียนมาเกิดแผ่นดินไหวขนาด5.3กลางดึก ปชช.ระทึกเขย่า6ครั้งรวด
  • อินโดนีเซียจับ4คนไทย-เมียนมาขนยาบ้าข้ามชาติ มูลค่ากว่า425ล้านดอลลาร์ อินโดนีเซียจับ4คนไทย-เมียนมาขนยาบ้าข้ามชาติ มูลค่ากว่า425ล้านดอลลาร์
  • ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ‘สหรัฐฯ’ขึ้นบัญชีดำ‘หม่องชิตตู’พร้อมลูกอีก2คน ฐานสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • \'เมียนมา\'ฟันไม่เลี้ยง! ส่งตัวคนจีนผู้ต้องสงสัยคดี\'ฉ้อโกงโทรคมนาคม\'กลับประเทศ 'เมียนมา'ฟันไม่เลี้ยง! ส่งตัวคนจีนผู้ต้องสงสัยคดี'ฉ้อโกงโทรคมนาคม'กลับประเทศ
  •  

Breaking News

(คลิป) 'สงครามน้ำลาย'เริ่มได้! 2 รุม 5 ไทยปะทะเขมร ไทยหัวใจเขมร

เปิดประวัติ'เอ็กซ์' ผู้ประกาศข่าว'หนุ่มตี๋-ใส่แว่น'ที่กำลังมาแรง

'แอม ไซยาไนด์'สู้คดีวางยาเหยื่อ 3 คดี ศาลนัดสืบพยานโจทก์-จำเลยต้นปี 69

ค้นหาความจริงในกายตน หนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่แท้จริง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved