13 มิถุนายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้น หลังจาก'อิสราเอล'ประกาศว่าได้โจมตีทางอากาศต่อ'อิหร่าน' ซึ่งเป็นการยกระดับความตึงเครียดในตะวันออกกลางอย่างรุนแรง

สัญญาน้ำมันดิบมาตรฐานอย่าง Brent Crude และ Nymex light sweet ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 10% ทันทีที่ข่าวเผยแพร่ออกมา บรรดาเทรดเดอร์ต่างกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลอาจขัดขวางอุปทานน้ำมันที่มาจากภูมิภาคที่อุดมด้วยพลังงานแห่งนี้

ราคาน้ำมันดิบส่งผลต่อหลายสิ่ง ตั้งแต่ราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันรถยนต์

น.ส.วันดานา ฮาริ นักวิเคราะห์จาก Vandana Insights ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีว่า ขณะนี้บรรดาผู้ค้าพลังงานจะเฝ้าจับตาดูว่าอิหร่านจะตอบโต้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหรือไม่ เธอกล่าวว่า "มันเป็นสถานการณ์ที่เปราะบางอย่างยิ่ง แม้ว่าอาจจะคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วเช่นที่เราเห็นในเดือนเมษายนและตุลาคมปีที่แล้ว เมื่ออิสราเอลและอิหร่านโจมตีกันโดยตรง"

เธอกล่าวเสริมว่า "มันอาจบานปลายกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่ขัดขวางอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางได้" 

ในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุด อิหร่านอาจจะหยุดการส่งออกน้ำมันหลายล้านบาร์เรลต่อวัน หากมีการพุ่งเป้าโจมตีโครงสร้างพื้นฐานหรือการขนส่งในช่องแคบฮอร์มุซ โดยช่องแคบนี้เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดของโลก โดยประมาณหนึ่งในห้าของน้ำมันทั่วโลกต้องผ่านเส้นทางนี้ ในแต่ละเวลาจะมีเรือบรรทุกน้ำมันหลายสิบลำกำลังมุ่งหน้าไปยังช่องแคบฮอร์มุซ หรือออกจากช่องแคบนี้ เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ในตะวันออกกลางและลูกค้ากำลังขนส่งพลังงานออกจากภูมิภาคนี้ ช่องแคบฮอร์มุซซึ่งมีพรมแดนทางเหนือติดกับอิหร่าน และทางใต้ติดกับโอมานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เชื่อมต่ออ่าวเปอร์เซียกับทะเลอาหรับ

ซอล คาวอนิก หัวหน้าฝ่ายวิจัยพลังงานของ MST Financial กล่าวว่า "สิ่งที่เราเห็นในตอนนี้คือปฏิกิริยาเริ่มต้นของการเปิดรับความเสี่ยง แต่ในอีกหนึ่งหรือสองวันข้างหน้า ตลาดจะต้องพิจารณาว่าสถานการณ์นี้จะบานปลายไปถึงไหน" 

ขอบคุณข้อมูลจาก : BBC