ประชาชนหลายสิบล้านคนในเมืองใหญ่ทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนระอุที่สุดในรอบหลายปี โดยอุณหภูมิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของคลื่นความร้อนที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้
สำนักงานบริการอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐฯ (NWS) รายงานว่า อุณหภูมิในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และเมืองบอสตัน ทะลุ 38 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิมที่ 35 องศาเซลเซียส ขณะที่สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์กในนครนิวยอร์ก อุณหภูมิอาจสูงถึง 37 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมของพื้นที่ที่ 35.5 องศาเซลเซียสอย่างมาก นอกจากนี้ พื้นที่อื่นๆ ทางตะวันออกของสหรัฐฯ เช่น ทางตอนเหนือของจอร์เจีย, แคโรไลนา, เวอร์จิเนีย, แมริแลนด์ และเพนซิลเวเนีย ก็มีแนวโน้มที่จะทำลายสถิติความร้อนสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
คลื่นความร้อนจัดครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการขนส่งสาธารณะทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยบริษัทรถไฟโดยสารแห่งชาติของสหรัฐฯ แอมแทรค (Amtrak) ได้ประกาศลดความเร็วของรถไฟในช่วงเวลา 12.00 น. ถึง 20.00 น. ของวันอังคาร ในเส้นทางสำคัญระหว่างกรุงวอชิงตันและนิวยอร์ก รวมถึงระหว่างฟิลาเดลเฟียและแฮร์ริสเบิร์ก ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง
นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยสำนักงานอุทยานแห่งชาติได้ประกาศปิดอนุสาวรีย์วอชิงตันในวันอังคารและวันพุธ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี