26 มิ.ย. 2568 นสพ. The Phnom Penh Post ของกัมพูชา เผยแพร่บทความ Cybercrime is a modern issue: We cannot sit around blaming each other, but must settle it together ซึ่งเขียนโดย Sok Sant นักวิเคราะห์การเมืองชาวกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ เนื้อหาดังนี้
อาชญากรรมทางไซเบอร์ อาชญากรรมออนไลน์ โทรศัพท์ หรือการฉ้อโกงออนไลน์ เป็นกิจกรรมทางอาชญากรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในยุคปัจจุบัน แม้ว่าอาชญากรรมนี้อาจเป็นที่รู้จักในหลายชื่อในประเทศต่างๆ แต่มันเป็นวิกฤติที่เราทุกคนต้องเผชิญ ในตอนนี้ เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่เคยที่เราต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งนี้ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันเป็นพันธมิตร แทนที่จะพยายามโยนความผิดให้ผู้อื่น
อาชญากรรมประเภทนี้เป็นผลผลิตของอารยธรรมสมัยใหม่ในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไป อาชญากรรมประเภทนี้เกิดขึ้นและแพร่กระจายไปทั่วโลก ถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่มีพรมแดน เนื่องจากกลุ่มอาชญากรสามารถดำเนินการได้ทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
แม้แต่ประเทศไทยเองก็มีรายงานอย่างกว้างขวางว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ปลอดภัยในภูมิภาค ด้วยระบบอินเตอร์เน็ตที่ล้นเหลือ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับเครือข่ายอาชญากรและกลุ่มค้ามนุษย์เมื่อพวกเขาทำกิจกรรมผิดกฎหมายในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมถึงกัมพูชา
ในเวลานี้ เราไม่สามารถนั่งเฉยๆ แล้วกล่าวโทษกันเองได้ อย่างที่ทางการไทยทำอยู่ พวกเขาพยายามทำให้กัมพูชาเป็นประเทศแห่งอาชญากรรมเพื่อปกปิดจุดอ่อนในการเป็นผู้นำของตนเอง การขาดการบังคับใช้กฎหมาย และความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศ ในขณะเดียวกันก็พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของประชาคมโลกจากการปิดพรมแดนฝ่ายเดียว
ในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร (Paetongtarn Shinawatra) ซึ่งยอมรับว่าเกือบตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงโดยใช้ AI เพื่อปลอมตัวเป็นผู้นำต่างชาติในอดีต ได้แสดงให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบและจริยธรรมในการเป็นผู้นำของเธอ เธอหลีกเลี่ยงปัญหาที่กองทัพไทยสร้างขึ้นเองอย่างไม่ละอาย เช่น การทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต การปิดพรมแดนฝ่ายเดียว และปัญหาอื่นๆ อีกมากมายที่ฝ่ายไทยก่อให้เกิดขึ้นบริเวณชายแดนกัมพูชา และแทนที่จะเชื่อมโยงปัญหานี้กับปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ในกัมพูชา ประเทศไทยเองก็ถูกรายงานในสื่อต่างประเทศว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงนี้ รวมถึงการค้ามนุษย์หลายๆ ครั้ง
ความตึงเครียดที่ชายแดน ซึ่งเกิดจากความอ่อนแอของโครงสร้างผู้นำของราชอาณาจักรเพื่อนบ้าน และนำไปสู่การที่รัฐบาลไทยละทิ้งสิทธิตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ทำให้กองทัพในระดับท้องถิ่นสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับความตึงเครียดที่ชายแดนได้ ทำให้ความเสี่ยงของการสู้รบบนชายแดนสามเหลี่ยมมรกต (Mum Bei) เพิ่มสูงขึ้น ภัยคุกคามไม่เพียงแต่รวมถึงการดำเนินการทางทหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการทูตด้วย แต่ทางการไทยไม่ได้สนใจและแต่งเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์ขึ้นมาเพื่อปกปิดเรื่องนี้
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของไทยยังยืนหยัดและปล่อยให้สื่อไทยและผู้สร้างเนื้อหาโซเชียลมีเดียในประเทศของตนสร้างและเผยแพร่ข่าวปลอมและรายงานข้อมูลที่บิดเบือนความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2568 โดยไม่ได้ใช้มาตรการใดๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการบังคับใช้จรรยาบรรณสำหรับนักข่าวหรือการใช้โซเชียลมีเดีย
ในแง่นี้ ประเทศไทยซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่เคารพสื่อ กลับกลายเป็นประเทศที่ขาดจรรยาบรรณ สื่อของไทยเผยแพร่ข่าวที่ไม่เป็นมืออาชีพ รายงานข่าวที่เกี่ยวข้องกับปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทยตามจินตนาการของตนเอง ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ละทิ้งกฎเกณฑ์วิชาชีพนักข่าว และทำให้ความคิดเห็นในประเทศและต่างประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียง
เมื่อหันมาพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมทั้งสหประชาชาติ ต่างก็ตระหนักถึงความซับซ้อนของปัญหานี้ ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติระดับโลกที่ต้องอาศัยความร่วมมือและการตอบสนองร่วมกันทั่วโลก อาชญากรรมสมัยใหม่ประเภทนี้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าป้องกันได้ยากกว่าอาชญากรรมแบบเดิมมาก
อาชญากรรมเหล่านี้เกิดขึ้นในระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เมื่อรวมเข้ากับการปฏิวัติทางดิจิทัลและรุ่งอรุณของยุคปัญญาประดิษฐ์ อาชญากรรมเหล่านี้แพร่กระจายและเกิดขึ้นเกือบทุกที่ รวมถึงในประเทศไทยด้วย สิ่งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือและการเชื่อมโยงผ่านกลไกทั้งหมด ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับชาติภายในประเทศ ไปจนถึงระดับภูมิภาคข้ามพรมแดน
กัมพูชาเป็นเหยื่อของอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ศูนย์กลางของการฉ้อโกงอย่างที่ถูกกล่าวหาเมื่อเร็วๆ นี้ กัมพูชามีความกระตือรือร้นในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในดินแดนกัมพูชาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 และจะยังคงดำเนินการต่อไป รัฐบาลกัมพูชาไม่เคยเพิกเฉยต่อการฉ้อโกงหรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ
ที่จริงแล้ว กัมพูชาได้ยกเลิกใบอนุญาตการพนันออนไลน์ทั้งหมดในปี 2562 ตั้งแต่นั้นมา กัมพูชาได้จับกุมและควบคุมตัวอาชญากรต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งบางคนถูกส่งตัวกลับจีน แม้จะเป็นเช่นนั้น ราชอาณาจักรก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการกระทำเหล่านี้ โดยอ้างเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชน รัฐบาลกัมพูชาตั้งใจที่จะป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นภายใต้สโลแกนว่า "เราจะร่วมกันกำจัดขยะในบ้านของเรา!"
ประเทศไทยเพิ่งจะเริ่มปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้หลังจากที่นักแสดงชาวจีน หวังซิง (Wang Xing) ถูกลักพาตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อต้นเดือน ม.ค. 2568 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาประเทศไทยลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการไทยได้ออกมากล่าวโทษผู้อื่นอย่างรวดเร็ว พวกเขายังขู่ว่าจะตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในกัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งกัมพูชาตัดสินใจตัดบริการเหล่านี้เอง เมื่อไม่นานมานี้ สหประชาชาติได้ออกจดหมายถึงรัฐบาลไทยเพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับความพยายามในการปราบปรามการค้ามนุษย์ข้ามพรมแดนและอาชญากรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในบางส่วนของประเทศ
อาชญากรรมทางไซเบอร์ การฉ้อโกงทางโทรศัพท์หรือการฉ้อโกงทางออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งของอาชญากรรมสมัยใหม่ที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเป็นระบบเพื่อปราบปราม ไม่มีประเทศใดสามารถกำจัดอาชญากรรมแบบดั้งเดิมได้สำเร็จ 100% แล้วประเทศใดประเทศหนึ่งจะสามารถจัดการกับอาชญากรรมสมัยใหม่ที่ซับซ้อนเพียงลำพังได้อย่างไร
การปราบปรามอาชญากรรมเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างเป็นระบบ ครอบคลุม ซื่อสัตย์ และโปร่งใส ไม่ใช่การพยายามเชื่อมโยงอาชญากรรมเหล่านี้กับปัญหาอื่นๆ และโยนความผิดให้ผู้อื่น การกระทำดังกล่าวไม่ถือเป็นจริยธรรมและไม่ถือเป็นตัวอย่างของผู้นำที่มีความเคารพนับถือ ทุกประเทศควรร่วมมือกันต่อสู้กับอาชญากรรมเหล่านี้โดยเพิ่มความร่วมมือและความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ส่งเสริมความขัดแย้งหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่มีมูลความจริง
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี