3 ก.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Trump asks Supreme Court to allow removal of consumer product safety commissioners โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรครีพับลิกัน เรียกร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568 ขอให้ปลดสมาชิกคณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคของพรรคเดโมแครต 3 คนออก โดยระงับคำสั่งศาลก่อนหน้านี้ที่ให้ทั้ง 3 กลับเข้ารับตำแหน่งอีกครั้ง
ในการต่อสู้ครั้งล่าสุดเกี่ยวกับอำนาจของประธานาธิบดีในการเข้าถึงองค์กรตุลาการชั้นนำของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในเดือน ม.ค. 2568 คณะกรรมการทั้ง 3 คนได้ยื่นเอกสารแยกกันต่อศาล โดยแจ้งให้ผู้พิพากษาทราบว่าพวกเขาควรได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่ต่อไปได้ ในขณะที่ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องของฝ่ายบริหาร
ในเดือน มิ.ย. 2568 แมทธิว แมดด็อกซ์ (Matthew Maddox) ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐประจำรัฐแมรีแลนด์ มีคำวินิจฉัยว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต ในการสั่งปลด แมรี บอยล์ (Mary Boyle) , อเล็กซานเดอร์ โฮห์น-ซาริค (Alexander Hoehn-Saric) และ ริชาร์ด ทรัมกา จูเนียร์ (Richard Trumka Jr) ออกจากตำแหน่ง ซึ่งทั้งหมดได้รับการแต่งตั้งโดย โจ ไบเดน (Joe Biden) อดีตประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ขณะที่เอกสารซึ่งยื่นต่อศาลฎีกาโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568 ยืนยันทรัมป์ทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่
แฮร์ริสัน ฟิลด์ส (Harrison Fields) โฆษกทำเนียบขาว ออกแถลงการณ์ว่า ศาลฎีกายืนยันอย่างเด็ดขาดว่าประธานาธิบดีมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญในการไล่ออกและปลดเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร ขณะที่ทนายความของบอยล์, โฮห์น-ซาริค และทรัมกา ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ คณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคก่อตั้งขึ้นโดยรัฐสภาสหรัฐฯ ในปี 2515 และมีหน้าที่ในการปกป้องผู้บริโภคจากการบาดเจ็บหรือการเสียชีวิตจากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องหรือเป็นอันตราย
หลังจากได้รับแจ้งในเดือน พ.ค. 2568 ว่าทรัมป์ได้ปลดบอยล์, โฮห์น-ซาริค และทรัมกาออก ทั้ง 3 ได้ยื่นฟ้องเพื่อท้าทายการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งโดยหลักแล้ว คณะกรรมการของหน่วยงานอิสระที่จัดตั้งโดยรัฐสภา เช่น คณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค จะถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยประธานาธิบดีได้เฉพาะในกรณีที่ละเลยต่อหน้าที่หรือประพฤติมิชอบเท่านั้น ซึ่งบอยล์, โฮห์น-ซาริค และทรัมกา ประกอบเป็นเสียงข้างมากในคณะกรรมการทั้งหมด 5 คน โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ชี้แจงว่า กรรมการทั้ง 3 แสดงความไม่เห็นด้วยกับวาระของทรัมป์
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ในเดือน พ.ค. 2568 ศาลฎีกาสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัยว่า ทรัมป์สามารถห้ามสมาชิกคณะกรรมการแรงงานของรัฐบาลกลางจากพรรคเดโมแครต 2 คนไม่ให้ดำรงตำแหน่งได้ ในขณะที่พวกเขาท้าทายความถูกต้องตามกฎหมายของการปลดออก โดยให้เหตุผลคล้ายกับในคดีของคณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค และทรัมป์ได้อ้างถึงกรณีนี้ในการยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568
ในคำตัดสินก่อนหน้าที่ให้บอยล์, โฮห์น-ซาริค และทรัมกา กลับเข้าทำงานในคณะกรรมการความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค ผู้พิพากษาแมดด็อกซ์ อธิบายว่า ทั้ง 3 คนได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรัฐบาลไม่ได้แสดงเหตุผลในการปลดออก ขณะที่เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ เขต 4 ซึ่งตั้งอยู่ในริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย ได้ปฏิเสธคำร้องของรัฐบาลในการระงับคำสั่งการให้กลับเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว
เจมส์ วินน์ (James Wynn) ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ เขต 4 อธิบายคำตัดสินดังกล่าวว่า รัฐสภาได้จำกัดอำนาจในการปลดบุคคลต่างๆ ของประธานาธิบดีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่มีศาลใดพบว่าการจำกัดดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่บอยล์, โฮห์น-ซาริค และทรัมกายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้นจะเป็นการรักษาการดำเนินงานของหน่วยงานไว้ ไม่ใช่การขัดขวางแต่อย่างใด
รัฐบาลได้ขอให้เขต 4 ยกเลิกคำตัดสินของแมดด็อกซ์ ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลฎีกาแห่งที่ 4 กระทรวงยุติธรรมแจ้งต่อศาลอุทธรณ์เขตที่ 4 ว่า คำสั่งคืนตำแหน่งของผู้พิพากษานั้นก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อการแบ่งแยกอำนาจและบั่นทอนความสามารถของประธานาธิบดีในการใช้สิทธิอำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ซึ่งแบ่งแยกอำนาจนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล
การยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568 ถือเป็นกรณีล่าสุดที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อท้าทายคำตัดสินของศาลที่ขัดขวางการกระทำอย่างหนึ่งของเขา อย่างเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568 ศาลได้จำกัดความสามารถของผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางในการขัดขวางนโยบายของทรัมป์ด้วยคำสั่งห้ามที่มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ ทำให้สมดุลอำนาจระหว่างฝ่ายตุลาการของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีเปลี่ยนไป
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี