31 ก.ค. 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Canada plans to recognize Palestinian state, raising allies' pressure on Israel อ้างการเปิดเผยของ มาร์ค คาร์นีย์ (Mark Carney) นายกรัฐมนตรีแคนาดา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ว่า แคนาดาวางแผนที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสหประชาชาติในเดือน ก.ย. 2568 ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอล ขณะที่ความอดอยากที่แผ่ขยายไปทั่วดินแดนฉนวนกาซา
การประกาศของผู้นำแคนาดา เกิดขึ้นหลังจากที่ฝรั่งเศสประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ และหนึ่งวันหลังจากที่อังกฤษประกาศว่าจะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในเดือน ก.ย. 2568 หากการสู้รบในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ยังไม่ยุติลงภายในเวลาดังกล่าว
ในการแถลงข่าว คาร์นีย์ กล่าวว่า ความจริงที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงความอดอยากของประชาชนในฉนวนกาซา หมายความว่าโอกาสที่จะมีรัฐปาเลสไตน์กำลังเลือนหายไปต่อหน้าต่อตาเราอย่างแท้จริง ซึ่งแคนาดาประณามความจริงที่ว่ารัฐบาลอิสราเอลปล่อยให้เกิดหายนะในฉนวนกาซา และการรับรองที่วางแผนไว้นั้น ส่วนหนึ่งมาจากคำรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากทางการปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐปาเลสไตน์ในสหประชาชาติ ว่ากำลังปฏิรูปการปกครอง และยินดีที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2569 ซึ่งกลุ่มฮามาสจะไม่สามารถมีส่วนร่วมใดๆ
การประกาศของพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของอิสราเอลบางส่วน สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นจากนานาชาติ ต่อการที่อิสราเอลจำกัดอาหารและความช่วยเหลืออื่นๆ แก่ฉนวนกาซาในสงครามกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มฮามาส และวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่นั่น หน่วยงานเฝ้าระวังความหิวโหยระดับโลกได้เตือนว่าสถานการณ์ความอดอยากที่เลวร้ายที่สุดกำลังเกิดขึ้นในเขตปกครองตนเองแห่งนี้
กระทรวงสาธารณสุขกาซารายงานผู้เสียชีวิตจากความอดอยากเพิ่มอีก 7 รายในวันที่ 30 ก.ค. 2568 รวมถึงเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่มีปัญหาสุขภาพ สำนักงานสื่อของรัฐบาลฮามาสในกาซาระบุว่า กองทัพอิสราเอลสังหารผู้คนอย่างน้อย 50 คนภายใน 3 ชั่วโมงในวันดังกล่าว ขณะที่พวกเขาพยายามนำอาหารจากรถบรรทุกความช่วยเหลือจากสหประชาชาติที่กำลังมาถึงฉนวนกาซาตอนเหนือ
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลและพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดอย่างสหรัฐอเมริกา ต่างปฏิเสธคำแถลงของคาร์นีย์ โดยกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงจุดยืนของรัฐบาลแคนาดาในเวลานี้ถือเป็นการตอบแทนสำหรับกลุ่มฮามาส และเป็นการกระทบต่อความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา และกรอบการปล่อยตัวตัวประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันหลังจากการประกาศของฝรั่งเศสและอังกฤษ
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มองว่าการรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นการทำไม่ถูกเพื่อตอบแทนฮามาส ขณะที่ สตีฟ วิทคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง มีกำหนดเดินทางเยือนอิสราเอลในวันที่ 31 ก.ค. 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับฉนวนกาซา ด้านทรัมป์กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ตนคาดว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์ต่างๆ ขึ้นเพื่อจัดหาอาหารให้กับประชาชนในดินแดนแห่งนี้มากขึ้น
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า รัฐปาเลสไตน์เป็นรัฐสังเกตการณ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 2555 โดยได้รับการรับรองจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติมากกว่า 3 ใน 4 ของประเทศสมาชิก 193 รัฐ ซึ่ง โจนาธาน ปานิคอฟฟ์ (Jonathan Panikof) อดีตรองเจ้าหน้าที่ข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ประจำตะวันออกกลาง กล่าวว่า การรับรองปาเลสไตน์มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้อิสราเอลบีบบังคับให้กลับไปสู่กระบวนทัศน์แบบสองรัฐ อย่างไรก็ตาม การประกาศของแคนาดาไม่น่าจะเป็นอะไรมากไปกว่าสัญลักษณ์ และเสี่ยงต่อการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับพันธมิตรเก่าแก่ในอิสราเอล
เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งได้พูดคุยกับนายกฯ คาร์นีย์ก่อนการประกาศของแคนาดา กล่าวว่า การรับรองปาเลสไตน์จะฟื้นฟูความหวังที่จะเกิดสันติภาพในภูมิภาค ด้าน ซีฟ เอลกิน (Zeev Elkin) สมาชิกคณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอล กล่าวเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ว่า อิสราเอลอาจคุกคามที่จะผนวกดินแดนบางส่วนของฉนวนกาซาเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มฮามาส ซึ่งจะบั่นทอนความหวังของชาวปาเลสไตน์ในการเป็นรัฐบนดินแดนที่อิสราเอลยึดครองอยู่ในปัจจุบัน
ซาเอ็ด อัล-อัคราส (Saed al-Akhras) ชาวบ้านในฉนวนกาซา มองว่า การยอมรับปาเลสไตน์โดยชาติมหาอำนาจถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงในมุมมองของประเทศตะวันตกต่ออุดมการณ์ของปาเลสไตน์ ซึ่งที่ผ่านมาชาวปาเลสไตน์มีชีวิตอยู่มานานกว่า 70 ปีภายใต้การสังหาร การทำลายล้าง และการยึดครอง ขณะที่โลกเฝ้าดูอย่างเงียบๆ และสภาพแบบนี้ก็ควรจะพอได้แล้ว
แต่อีกด้านหนึ่ง เครือข่ายครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ยังคงถูกคุมขังในฉนวนกาซาได้ยื่นคำร้องขอให้ไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ก่อนที่คนที่พวกเขารักจะถูกส่งตัวกลับ โดยระบุว่า การรับรองเช่นนี้ไม่ใช่ก้าวสู่สันติภาพ แต่เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน และเป็นความล้มเหลวทางศีลธรรมและการเมืองที่อันตราย ซึ่งเป็นการทำให้อาชญากรรมสงครามอันโหดร้ายได้รับการยอมรับ
ในเดือน ก.ค. 2568 เนทันยาฮู นายกฯ อิสราเอล ได้กล่าวว่า ตนต้องการสันติภาพกับชาวปาเลสไตน์ แต่ระบุว่ารัฐเอกราชใดๆ ในอนาคตอาจเป็นเวทีในการทำลายอิสราเอล ดังนั้นการควบคุมความมั่นคงจึงต้องเป็นของอิสราเอล ซึ่งคณะรัฐมนตรีของเนทันยาฮู ประกอบด้วยสมาชิกฝ่ายขวาจัดที่เรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ผนวกดินแดนปาเลสไตน์ทั้งหมด อาทิ เบซาเลล สโมทริช (Bezalel Smotrich) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอิสราเอล กล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 ว่า การสร้างถิ่นฐานของชาวยิวในฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่นั้นใกล้เข้ามากว่าที่เคย โดยเรียกฉนวนกาซาว่าเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกจากดินแดนอิสราเอล
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า พ่อของเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ในเขตเดียร์ อัล-บาลาห์ (Gaza's Deir al-Balah) ของฉนวนกาซา เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2568 ว่า ลูกสาวของตนที่กำลังรักษาอาการน้ำในสมองคั่งค้าง เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. 2568 เนื่องจากความหิวโหย ซึ่งแพทย์อธิบายว่าเด็กน้อยจำเป็นต้องได้รับนมบางชนิด แต่ที่นี่ไม่มีนม เด็กหญิงอยู่ในสภาพอดอยากมากและเราถึงกับทำอะไรไม่ถูก
กระทรวงสาธารณสุขกาซาระบุว่า การเสียชีวิตจากความอดอยากและภาวะทุพโภชนาการเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. 2568 ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 154 ราย ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 89 ราย นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ในวันที่ 27 ก.ค. 2568 อิสราเอลประกาศว่าจะระงับปฏิบัติการทางทหารเป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวันในพื้นที่บางส่วนของฉนวนกาซา และกำหนดเส้นทางที่ปลอดภัยสำหรับขบวนรถขนส่งอาหารและยา
สำนักงานประสานงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UN Office for the Coordination of Humanitarian Affairs) ระบุว่าสหประชาชาติและพันธมิตรสามารถนำอาหารเข้าสู่ฉนวนกาซาได้มากขึ้นในช่วงสองวันแรกของการหยุดชั่วคราว แต่ปริมาณอาหารยังไม่เพียงพอ
สงครามเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 เมื่อกลุ่มฮามาสบุกโจมตีชุมชนและฐานทัพทางตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย ในจำนวนนี้เป็นพลเรือนมากกว่า 700 ราย และมีอีก 251 คนถูกจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ตามรายงานของอิสราเอล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซาระบุว่า นับตั้งแต่นั้นมา การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 60,000 ราย และทำลายล้างพื้นที่ส่วนใหญ่
ขอบคุณเรื่องจาก
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี