11 สิงหาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  'เพ็ญ โบนา' รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะโฆษกรัฐบาลกัมพูชา ได้กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ให้คำมั่นว่าจะนำปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นของไทย กลับคืนมาให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต เช่น การเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า  'เพ็ญ โบนา' ระบุว่า กัมพูชามีโล่ป้องกันประเทศอันแข็งแกร่ง 4 ชั้น ซึ่งสามารถรับมือกับความพยายามของผู้ที่ต้องการรุกรานดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาได้

โดยโล่ชั้นแรกคือ กัมพูชานำโดยผู้นำ ประกอบด้วย สมเด็จเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและนายพลยศ 5 ดาวทอง ซึ่งได้รับพระราชทานอำนาจเต็มจากพระมหากษัตริย์ ในการประสานงานกับนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ในเรื่องทางทหาร ผู้นำทั้งสองท่านนี้เป็นผู้นำที่อบอุ่นที่สุดของชาวกัมพูชา

โล่ชั้นที่สอง กัมพูชามีทหารและกองกำลังติดอาวุธผู้กล้าหาญที่ต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องชาติ แผ่นดิน และปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ความกล้าหาญนี้ได้รับความเคารพ ชื่นชม และยกย่องอย่างสูงจากประชาชนทุกระดับชั้น รวมถึงบุคคลภายนอกอีกมากมาย

โล่ชั้นที่สาม กัมพูชามีความสามัคคีในชาติที่เข้มแข็งในหมู่ชาวกัมพูชา ไม่ว่าจะสังกัดพรรคการเมืองหรือศาสนาใด ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือคนต่างชาติ คนหนุ่มสาวหรือคนสูงอายุ ชายหรือหญิง พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความภาคภูมิใจในชาติของเขมร เรียกร้องสันติภาพ และร่วมปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน โดยยืนหยัดเคียงข้างรัฐบาลและกองกำลังติดอาวุธแนวหน้าของเรา

โล่ชั้นที่สี่ คือการมีส่วนร่วมจากประชาคมระหว่างประเทศ เช่น ผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว คณะผู้แทนทางการทูต ทูตทหารต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา จีน และมาเลเซีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค. 2568 ในฐานะพยานสำคัญในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง และสามารถประเมินได้อย่างชัดเจนว่าฝ่ายใดละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและเคารพข้อตกลงหยุดยิง

ซึ่งจุดยืนของกัมพูชาคือการแก้ไขปัญหาชายแดนต้องได้รับการแก้ไขผ่านกลไกทางเทคนิคและกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่การใช้กำลังทหาร

ขอบคุณข้อมูล : FRESH NEWS