วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568
สงสัยจำสับสน! 'ทรัมป์'อ้างช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด'กัมพูชา-อาร์เมเนีย'

สงสัยจำสับสน! 'ทรัมป์'อ้างช่วยคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด'กัมพูชา-อาร์เมเนีย'

วันอังคาร ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.25 น.

23 ก.ย. 2568 นสพ.The Independent ของอังกฤษ รายงานข่าว Trump claims he ended a war - between countries that are 4,000 miles apart ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้ก่อตั้งของสถาบันอเมริกันคอร์เนอร์สโตน ณ คฤหาสน์เมาท์เวอร์นอน รัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2568 ว่าตนได้ช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างกัมพูชากับอาร์เมเนีย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ห่างกันถึง 4,150 ไมล์ (ราว 6,600 กิโลเมตร) เผชิญหน้ากัน โดยทรัมป์กล่าวว่า สงครามเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และเป็นสงครามที่เลวร้ายมาก 

“ยังไม่มีความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและกัมพูชา โดยประธานาธิบดีวัย 79 ปีผู้นี้ดูเหมือนจะสับสนระหว่างความตึงเครียดระหว่างอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจาน และความรุนแรงบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย” รายงานของสื่ออังกฤษ ระบุ 


รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์ มีส่วนช่วยคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งเมื่อเดือน ก.ค. 2568 มีการสู้รบที่กินเวลายาวนาน 5 วัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 43 ราย และมีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 300,000 คน โดยทรัมป์ รวมถึง อันวาร์ อิบราฮิม (Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ร่วมกันไกล่เกลี่ย จนได้ข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2568 

ในเดือน ส.ค. 2568 กัมพูชา ซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต (Hun Manet) ได้ร่วมกับปากีสถานและอิสราเอล เสนอชื่อทรัมป์เข้ารับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยผู้นำกัมพูชา ยกย่องประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ใช้ "การทูตที่มีวิสัยทัศน์และสร้างสรรค์" เพื่อช่วยคลี่คลายวิกฤตการณ์ชายแดน 

ทั้งนี้ สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า เป็นไปได้ว่าอาร์เมเนียอาจอยู่ในใจของผู้นำสหรัฐฯ ในขณะที่กล่าวผิดพลาดครั้งนี้ โดยก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ได้พูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งที่แท้จริงระหว่างอาเซอร์ไบจานและอาร์เมเนียในนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งเป็นภูมิภาคหนึ่งของอาเซอร์ไบจานที่มีชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่ ซึ่งในเดือน ส.ค. 2568 อิลฮัม อาลีเยฟ (Ilham Aliyev) ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน และ นิโคล พาชินยัน (Nikol Pashinyan) นายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย ได้พบกันที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว และนำไปสู่การลงนามข้อตกลงยุติความขัดแย้งในภูมิภาค 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์ให้ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ ในการเข้าไปช่วยคลี่คลายความขัดแย้งในพื้นที่ต่างๆ ของโลก อาทิ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการแถลงข่าวร่วมกับ เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทรัมป์ได้กล่าวว่า สหรัฐฯ ได้ "ยุติ" ความขัดแย้งระหว่างอาเซอร์ไบจาน ซึ่งเขาออกเสียงได้ยาก กับแอลเบเนีย ซึ่งในสัปดาห์เดียวกัน เมื่อไปออกรายการของสื่อสหรัฐฯ อย่างสถานีโทรทัศน์ Fox News ทรัมป์ก็ยังออกเสียงชื่อประเทศผิดเช่นเดิม 

รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า ทรัมป์ ผู้ที่เพิ่งกำกับดูแลการเปลี่ยนชื่อกระทรวงกลาโหมเป็นกระทรวงสงคราม ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และได้กล่าวถึงความสำเร็จทางการทูตของเขาอยู่บ่อยครั้ง อาทิ ในเดือน มิ.ย. 2568 เมื่อสหรัฐฯ โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทรัมป์ได้สื่อสารผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า ตนจะไม่ได้รางวัลโนเบลจากสิ่งนี้ ก่อนที่จะเปิดเผยรายชื่อการเจรจาที่ฝ่ายบริหารของเขาเป็นคนกลาง 

หรือก่อนหน้านั้น ในเดือน ก.พ. 2568 ระหว่างการพูดคุยกับ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว ทรัมป์ก็บ่นว่าคนตัดสินคงไม่ยกรางวัลโนเบลให้กับตน รวมถึงเมื่อเดือน ต.ค. 2567 ขณะที่ทรัมป์ยังเดินสายหาเสียงเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตัดพ้อว่า บารัค โอบามา (Barack Obama) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้รางวัลโนเบลสันติภาพตั้งแต่ปีแรกของการเข้ารับตำแหน่ง โดยกล่าวว่า หากตนถูกเสนอชื่อว่าโอบามา คงได้รับรางวัลตั้งแต่ 10 วินาที 

ขอบคุณเรื่องจาก independent

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top