7 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการอินเดียเร่งสอบสวนกรณี 'ยาน้ำเชื่อมแก้ไอ' ปนเปื้อนว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก 9 คนในรัฐมัธยประเทศ ทางตอนกลาง หรือไม่ หลังพบว่ายาชุดหนึ่งมีสารเคมีเป็นพิษในระดับอันตราย ต่อมากระทรวงสาธารณสุขอินเดีย เปิดเผยว่า ตัวอย่างน้ำเชื่อมแก้ไอโคลด์ริฟที่ผลิตโดยบริษัท ศรีสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ ในรัฐทมิฬนาฑู ถูกนำไปทดสอบและพบว่ามี 'ไดเอทิลีนไกลคอล' (ดีอีจี) เกินปริมาณที่อนุญาต 'ไดเอทิลีนไกลคอล' เป็นสารเคมีเหลวใสใช้เป็นตัวทำละลายในผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและมีความเชื่อมโยงกับยาแก้ไอมีพิษร้ายแรงที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ

ความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจอินเดียเริ่มดำเนินคดีอาญาต่อผู้ผลิตยาน้ำแก้ไอรายดังกล่าว ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกตรวจพบว่ามีสารเคมีที่เป็นพิษในระดับที่เป็นอันตราย ภายหลังการเสียชีวิตของเด็กอย่างน้อย 9 ราย ซึ่งต้องสงสัยว่าได้รับยาปนเปื้อนดังกล่าว

รายงานจากห้องปฏิบัติการยาของรัฐมัธยประเทศ ระบุว่า ตัวอย่างของยาน้ำแก้ไอ 'โคลดริฟ' (Coldrif) ซึ่งผลิตโดย บริษัท ศรีสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ (Sresan Pharma) ในรัฐทมิฬนาฑู ซึ่งเป็นหนึ่งในยา 19 รายการที่ถูกนำไปทดสอบหลังเกิดเหตุเสียชีวิตในรัฐนี้ มีสาร 'ไดเอทิลีนไกลคอล' (diethylene glycol) สูงถึงร้อยละ 46.28 ซึ่งเกินกว่าระดับที่อนุญาตคือร้อยละ 0.1% อย่างมาก ซึ่งตำรวจได้ดำเนินคดีอาญาต่อผู้ผลิต คือบริษัทศรีสัน ฟาร์มาและแพทย์ท้องถิ่นรายหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นผู้จ่ายยาดังกล่าว

บริษัท ศรีสัน ฟาร์มาซูติคอลส์ กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหา การฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา การปลอมปนยา และการผลิต จำหน่าย หรือการแจกจ่ายเครื่องสำอางที่ละเมิดกฎหมายว่าด้วยยาและเครื่องสำอาง ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด บริษัทและเจ้าหน้าที่อาจเผชิญกับโทษปรับและจำคุกสูงสุดตลอดชีวิต รัฐอื่นๆ ที่อยู่ติดกับรัฐมัธยประเทศ เช่น รัฐอุตตรประเทศทางตอนเหนือ และรัฐราชสถานทางตะวันตก ได้สั่งห้ามใช้ยาน้ำแก้ไอชนิดนี้แล้ว

หน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดีย ระบุว่า อินเดียเป็นผู้จัดหายาสามัญถึงร้อยละ 40 ของยาที่ใช้ในสหรัฐ ร้อยละ 25 ของยาที่ใช้ในสหราชอาณาจักรทั้งหมด และมากกว่าร้อยละ 90 ของยาในประเทศแถบแอฟริกาหลายประเทศ โดยมีรายงานล่าสุดพบว่ามีเด็กเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 14 คน ในรัฐมัธยประเทศ ทางตอนกลางของอินเดีย หลังจากรับประทานยาน้ำแก้ไอยี่ห้อนี้