8 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ประณามไทย หลังคนไทยนำภาพของบุคคลระดับสูงของกัมพูชา เช่น ประธานวุฒิสภา ,นายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้นำกองทัพ  แล้วนำภาพบุคคลเหล่านั้นไปใช้ในวัตถุประสงค์ที่ไม่เคารพ เช่น การทำป้ายเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานยิงใส่เพื่อชิงรางวัล รวมไปถึงการนำภาพบุคคลไปติดหุ่นไล่กา ทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะ โฆษกของรัฐบาลกัมพูชาประณามอย่างรุนแรงว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ทางศีลธรรม ไร้ค่า และไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

โฆษกรัฐบาลกัมพูชา กล่าวต่ออีกว่าชาวเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไทยและชาวเขมร ต่างให้ความเคารพอย่างสูงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และผู้นำระดับสูงของประเทศ ด้วยเหตุนี้ ผู้นำระดับสูงของกัมพูชา รวมถึงสมเด็จฮุน เซน และสมเด็จทิปเปได นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต จึงได้ออกคำร้องขอให้ประชาชนชาวกัมพูชาอย่านำรูปพระมหากษัตริย์ไทยหรือรูปผู้นำไทยไปใช้ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง และขอเรียกร้องให้ประชาชนอย่ากระทำการเลือกปฏิบัติใดๆ ต่อพลเมืองไทยที่พำนักและทำงานในกัมพูชา

โดยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 หลังจากตกเป็นเป้าของการกระทำอันน่าอับอายและเสื่อมเสียชื่อเสียงดังที่กล่าวข้างต้น สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและรักษาการประมุขแห่งรัฐกัมพูชา ยังคงเรียกร้องให้ประชาชนชาวกัมพูชาไม่ตอบโต้ฝ่ายไทย 

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงคุณธรรมและความมุ่งมั่นของผู้นำกัมพูชาในการเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์และผู้นำของไทย อย่างไรก็ตาม พบว่าในประเทศไทย การกระทำอันผิดศีลธรรมและดูหมิ่นผู้นำกัมพูชาได้เกิดขึ้นอย่างเปิดเผยโดยไม่มีมาตรการใดๆ เพื่อยับยั้งพฤติกรรมดังกล่าว

โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ขอย้ำว่า แม้กัมพูชาจะเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรจำกัดและเศรษฐกิจอ่อนแอ แต่ผู้นำยังคงยึดมั่นในหลักการแห่งความรักสันติ การแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ และมุ่งหวังให้มีพรมแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา และไม่ถือว่าประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศอื่นใดเป็นศัตรู