20 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ 4 โจรมือฉมังบุกพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (louvre museum) ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เข้าไปในห้องจัดแสดง Galerie d’Apollon (Apollo’s Gallery) ผ่านทางหน้าต่างชั้น 2 หลังจากที่พิพิธภัณฑ์เปิดทำการไม่นาน 

โดยใช้ลิฟต์สำหรับขนย้ายเฟอร์นิเจอร์จนสามารถเข้าไปขโมยเครื่องประดับล้ำค่าอัญมณียุคนโปเลียน 8 ชิ้น ส่วนทำชิ้นที่ 9 ตกเอาไว้ ทั้งหมดก่อเหตุโดยใช้เวลาไม่กี่นาทีก่อนจะขี่สกูตเตอร์ความเร็วสูงไปทางริมแม่น้ำแซนหลบหนีลอยนวล 

ต่อมากระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกมายืนยันแล้วว่ากลุ่มโจรสามารถนำสิ่งของ 8 ชิ้นออกไปจากตู้จัดแสดงที่มีการรักษาความปลอดภัยสูงสองตู้ได้สำเร็จ
โดยทั้งหมดเป็นสิ่งของจากยุคศตวรรษที่ 19 และครั้งหนึ่งเคยเป็นของราชวงศ์ฝรั่งเศส หรือผู้ปกครองจักรวรรดิ อันแสนล้ำค่าประเมินมูลค่าไม่ได้ ได้แก่ สร้อยคอ เข็มกลัด มงกุฎ ฯลฯ โดยของทั้ง 8 ชิ้นประกอบด้วย

- รัดเกล้า (Tiara) และ เข็มกลัด ที่เคยเป็นของจักรพรรดินียูจีนี พระมเหสีของนโปเลียนที่ 3

- สร้อยคอมรกต และต่างหูมรกตหนึ่งคู่ จากชุดของจักรพรรดินีมารี หลุยส์

- รัดเกล้า สร้อยคอ และต่างหูหนึ่งข้าง จากชุดแซฟไฟร์ที่เป็นของสมเด็จพระราชินีมารี-อาเมลีและสมเด็จพระราชินีออร์แตนส์

- เข็มกลัด ที่รู้จักกันในชื่อ 'เข็มกลัดเรลิเควียรี' (reliquary brooch)

- นอกจากนั้นยังมีของอีก 2 ชิ้นซึ่งหนึ่งในนั้นคือ มงกุฎของจักรพรรดินียูจีนี แต่เจ้าหน้าที่พบตกอยู่นอกกำแพงของพิพิธภัณฑ์และเก็บกู้คืนมาได้สำเร็จ โดยเชื่อว่ากลุ่มโจรทำตกไว้ขณะหลบหนี โดยมงกุฎดังกล่าวประกอบด้วย เพชร 1,354 เม็ด และมรกต 56 เม็ด

ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โลรองต์ นูเญซ  บอกว่า ว่าเครื่องเพชรพลอยที่ถูกขโมยไปนั้น 'ประเมินค่าไม่ได้' และ 'มีมูลค่าทางมรดกที่ไม่อาจวัดได้'

ซึ่งจากข้อมูลจากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ห้องจัดแสดง Apollo’s Gallery เป็นที่เก็บรักษาอัญมณีล้ำค่าอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงเพชรที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 3 เม็ด ได้แก่ รีเจนต์ , ซองซี , และออร์แตนเซีย และคอลเลกชันเครื่องประดับจากหินมีค่าอันงดงามของกษัตริย์ฝรั่งเศสหลายพระองค์