28 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะกรรมการบริหารของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีมติให้ขึ้นราคาบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์อีก 45% สำหรับผู้เข้าชมส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มาจากสหภาพยุโรป มีผลตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมปีหน้าเป็นต้นไป เพื่อนำเงินที่ได้ไปปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์

โดยนับตั้งแต่ต้นปีหน้า ผู้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ไม่ได้มาจากอียู อาทิ สหรัฐ อังกฤษ และจีนจะต้องจ่ายค่าเข้าชมเป็นเงิน 32 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,192 บาท ส่วนผู้เยี่ยมชมจากนอกเขตเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งรวมถึงสมาชิกอียู อย่าง ประเทศไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และลิกเตนสไตน์ จะต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่ขึ้นอีก 10 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย  370 บาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยระดมทุนได้หลายล้านยูโรต่อปี

พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก มากถึงเกือบ 9 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผู้เยี่ยมชมส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และมากกว่า 1 ใน 10 ของผู้เยี่ยมชมเป็นชาวสหรัฐ และอีกประมาณ 6% มาจากประเทศจีน ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวที่มากทำให้มีเสียงเรียกร้องมาสักระยะให้ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาห้องนิทรรศการต่างๆ จะมีความแออัดมากและมีการต่อแถวเข้าคิวที่นาน

นอกจากนั้น พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังถูกวิจารณ์เรื่องการบริหารและความปลอดภัยอีกด้วย หลังมีกลุ่มโจร 4 คนบุกก่อเหตุปล้นอัญมณีมูลค่ารวมกว่า 3,200 ล้านบาท และสามารถหลบหนีไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที หลังการโจรกรรม ทีมตรวจสอบพบว่าพิพิธภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการซื้อผลงานศิลปะใหม่ๆ มากกว่าการยกระดับการรักษาความปลอดภัย และเน้นย้ำว่าระบบความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ไม่เพียงพอและมีโครงสร้างพื้นฐานที่เก่า

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ประกาศว่าจะปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ และมีการเสนอแนวคิดที่จะขึ้นค่าเยี่ยมชมแก่คนที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในอียูในปี 2026 และภาพวาด โมนาลิซา ของศิลปินชื่อดัง เลโอนาร์โด ดา วินชี อาจถูกย้ายไปจัดแสดงในนิทรรศการแห่งใหม่เพื่อแก้ปัญหาความแออัด เพราะมีผู้เข้าชมภาพวาด โมนาลิซา มากถึงกว่า 30,000 คนต่อวัน ส่วนทางลูฟวร์จะปรับปรุงโซนอื่นๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องน้ำและห้องอาหารแห่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินหลายร้อยล้านยูโร