5 พฤศจิกายน 2568 ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่น 'คัลแมกี' (Kalmaegi) ในฟิลิปปินส์เพิ่มสูงขึ้นเป็น 66 รายแล้ว ในขณะเดียวกันประชาชนในจังหวัดเซบู ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด กำลังเผชิญกับความเสียหายรุนแรงที่พายุทิ้งไว้เบื้องหลัง ทั้งบ้านเรือนที่พังยับเยินกลายเป็นซากปรักหักพัง ถนนที่เต็มไปด้วยเศษซากวัสดุต่าง ๆ และชีวิตที่จะต้องพลิกผันไปจากเดิม

ในเมืองตาลิซาย ผู้รอดชีวิตต่างขุดค้นซากความเสียหาย โดยหวังว่าจะสามารถพบสิ่งของที่ยังคงหลงเหลืออยู่ให้ได้มากที่สุด

ภาพความเสียหายปรากฏขึ้นทั่วเซบู ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ เมื่อน้ำท่วมลดระดับลง เผยให้เห็นบ้านเรือนที่ถูกทำลาย ยานพาหนะที่พลิกคว่ำ และเศษซากต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว

ในบรรดาผู้เสียชีวิต 66 ราย มี ทหาร 6 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกขณะปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมในจังหวัดอกูซัน เดล ซูร์ บนเกาะมินดาเนา ขณะที่หน่วยงานภัยพิบัติรายงานว่ามีผู้สูญหาย 26 คน และบาดเจ็บ 10 คน

ความเสียหายจากไต้ฝุ่นคัลแมกี ซึ่งมีชื่อเรียกในท้องถิ่นว่า 'ตีโน่' (Tino) เกิดขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ในเซบูทางตอนเหนือได้เพียงเดือนเศษ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน และประชาชนหลายพันคนต้องพลัดถิ่น ทางการฟิลิปปินส์สั่งอพยพประชาชนมากกว่า 200,000 คน ทั่วภูมิภาควิสายาส รวมถึงบางส่วนทางตอนใต้ของลูซอนและตอนเหนือของมินดาเนา ก่อนที่พายุจะพัดถล่ม ซึ่งทำให้บ้านเรือนจมอยู่ใต้น้ำ ก่อให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง และไฟฟ้าดับ

คัลแมกี ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 20 ที่พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์ มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยขณะที่กำลังเคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้ มุ่งหน้าไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งกำลังเตรียมพร้อมรับมือก่อนที่ไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งตามที่คาดการณ์ไว้ในวันศุกร์