11พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ความคืบหน้าเหตุเรือลำหนึ่งที่เชื่อว่ามีผู้อพยพไร้เอกสารจากเมียนมา บังกลาเทศ และโรฮีนจา แตกและอับปางในน่านน้ำใกล้ชายแดนไทย-มาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 21 ราย ขณะเจ้าหน้าที่เชื่อ มีคนบนเรือราว 70 คนตอนที่เรืออับปาง

ตำรวจและเจ้าหน้าที่ยามฝั่งรัฐเกดะห์และรัฐปะลิส ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซียที่มีพรมแดนติดกับไทย แถลงความคืบหน้าเหตุเรืออับปางดังกล่าววานนี้ว่า เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ในตอนแรกคนบนเรือลำนี้อยู่ในเรือลำใหญ่ที่บรรทุกคนประมาณ 300 คน ประกอบด้วยชาวเมียนมา ชาวโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศ ล่องออกจากฝั่งเมืองบูตีดอง รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของเมียนมาเมื่อราว 1 เดือนก่อน ก่อนถูกแก๊งค้ามนุษย์แบ่งไปลงเรือลำเล็ก 3 ลำ ในช่วงที่ล่องใกล้น่านน้ำมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เรือลำเล็กแต่ละลำมีคนประมาณ 70 - 90 คน แต่เรือลำหนึ่งซึ่งมีคนราว 70 คนเกิดแตกและอับปางเมื่อวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยามฝั่งมาเลเซียพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 5 รายเมื่อวานนี้ จากน่านน้ำใกล้เกาะลังกาวี ทำให้ตลอด 3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบผู้ประสบเหตุรวม 25 คนในน่านน้ำมาเลเซีย มีผู้รอดชีวิต 13 คน และเสียชีวิต 12 ราย ภารกิจค้นหาสิ้นสุดลงในช่วงค่ำ และจะกลับมาค้นหาต่อช่วงเช้าวันนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ทางการไทยพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 9 รายในฝั่งน่านน้ำของไทย ในจำนวนนี้ 7 รายแรกพบเมื่อวันอาทิตย์ และอีก 2 รายพบในช่วงเช้าวันจันทร์ ส่วนผู้สูญหายที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม เช่นเดียวกับเรืออีก 2 ลำ ซึ่งคาดว่ามีคนรวมกันทั้งหมดราว 230 คนยังไม่ทราบชะตากรรมเช่นกัน

ตำรวจมาเลเซียกล่าวด้วยว่า มีรายงานว่าผู้อพยพไร้เอกสารต้องจ่ายเงินให้แก่แก๊งค้ามนุษย์คนละ 13,000 ริงกิต (ราว 100,000 บาท) เพื่อเดินทางมายังมาเลเซีย บางคนถึงกับต้องขายที่ดินเพื่อให้มีเงินมาจ่ายค่าเดินทาง ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานผู้อพยพแห่งสหประชาชาติพบว่า มีชาวโรฮีนจากว่า 51,000 คนล่องเรือเดินทางออกจากเมียนมาและบังกลาเทศระหว่างเดือนมกราคม-ต้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ในจำนวนนี้ราว 600 ราย เสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเล