งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน (China International Import Expo: CIIE) ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–10 พฤศจิกายน 2568 ณ นครเซี่ยงไฮ้ ปิดฉากลงอย่างงดงามและยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งในเวทีที่สะท้อนพลังทางเศรษฐกิจและความเปิดกว้างของจีนได้อย่างชัดเจน ปีนี้มี 155 ประเทศ เขตปกครอง และองค์การระหว่างประเทศ เข้าร่วม พร้อมด้วยบริษัทจากต่างประเทศกว่า 4,108 ราย ที่นำผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีขั้นล้ำสมัยมาจัดแสดงในพื้นที่นิทรรศการกว่า 430,000 ตารางเมตร

งาน CIIE จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับโลก” ที่รวบรวมสินค้าและนวัตกรรมจากทุกมุมโลกไว้ในที่เดียว พร้อมทำหน้าที่เป็นเวทีสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติที่ผลักดันให้จีนก้าวขึ้นเป็นพลังขับเคลื่อนใหม่ของเศรษฐกิจโลก เปิดโอกาสให้ทุกประเทศแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สร้างเครือข่ายพันธมิตร และค้นหาความร่วมมือใหม่ๆ ที่นำไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โอกาสทางธุรกิจ จากการที่ CIIE 2025 เป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ประกอบการนานาชาติในการเข้าถึงตลาดขนาดใหญ่และผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อของประเทศจีน

งาน CIIE 2025 เป็นเวทีที่ผู้ประกอบการจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการนำเสนอสินค้า การเจรจาธุรกิจ และการพบปะกับผู้ซื้อรายใหญ่ เช่น รัฐวิสาหกิจจีน เครือข่ายค้าปลีก และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Tmall และ JD.com ทำให้เส้นทางการเข้าสู่ตลาดจีนมีความรวดเร็วและลดอุปสรรคลงอย่างมาก จีนยังดำเนินนโยบายสนับสนุนการเปิดประเทศในระดับสูง เช่น จัดสรรพื้นที่แสดงสินค้าฟรีให้ 37 ประเทศ และมอบสิทธิ์ ยกเว้นภาษีนำเข้า 100% ให้ 53 ประเทศในทวีปแอฟริกา เพื่อสร้างโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงตลาดจีนได้อย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ CIIE ยังเป็นสนามทดลองผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยให้ธุรกิจต่างชาติสามารถประเมินความต้องการของผู้บริโภคจีนได้ก่อนการลงทุนจริง

ปีนี้มีการเปิดตัว “แพลตฟอร์มคัดสรรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่เชื่อมโยงระบบจัดแสดงสินค้า การค้า โลจิสติกส์ และการส่งมอบเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้การจับคู่ธุรกิจเป็นไปอย่างแม่นยำ และสนับสนุนให้สินค้านำเข้าสามารถเข้าสู่ตลาดออนไลน์จีนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจในงานแสดงสินค้า เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่จากทั่วโลก เพื่อส่งเสริมนโยบายการค้าที่ทันสมัยของจีน

งาน CIIE 2025 ยังโดดเด่นด้วยบทบาทในการเป็นเวทีเปิดตัวเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 461 รายการ ครอบคลุมอุตสาหกรรมหลากหลาย ตั้งแต่เทคโนโลยีการแพทย์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ ระบบอัตโนมัติ ยานยนต์พลังงานใหม่ ไปจนถึงเทคโนโลยีด้านการบินระดับต่ำ และนวัตกรรมรองรับเศรษฐกิจผู้สูงวัย ซึ่งล้วนสะท้อนภาพอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอนวัตกรรมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการผลักดัน “การค้าที่ทันสมัย” ของจีน ผ่านระบบการผลิตและโลจิสติกส์อัจฉริยะ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการบริการขั้นสูง ทำให้จีนสามารถเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าร่วมพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน

ด้วยการผสานระหว่างนโยบายเปิดประเทศกับการยกระดับเทคโนโลยี CIIE 2025 จึงเป็นทั้งพื้นที่ เปิดตัวนวัตกรรมระดับโลก และ ห้องทดลองเชิงนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของจีน ที่ขับเคลื่อนอนาคตของการค้าและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ความร่วมมือและการค้าระหว่างประเทศ ที่ตอกย้ำบทบาทของจีนในการเป็นศูนย์กลางการค้าระดับโลกและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เปิดกว้างและยั่งยืนในระดับสากล CIIE 2025 ยังตอกย้ำบทบาทของจีนในฐานะ “ศูนย์กลางการค้าโลก” ผ่านการรวมตัวของ 155 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศในเวทีเดียว ซึ่งนำไปสู่การเจรจาธุรกิจ การจับคู่การค้า และความร่วมมือหลายร้อยฉบับที่เกิดขึ้นภายในงาน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของโลกต่อเสถียรภาพและศักยภาพของเศรษฐกิจจีน นโยบายเปิดกว้าง เช่น การให้พื้นที่ฟรีแก่ 37 ประเทศ และการยกเว้นภาษีนำเข้า 100% ให้ 53 ประเทศในแอฟริกา แสดงถึงความมุ่งมั่นของจีนในการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา และสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและเป็นธรรม ฟอรั่มหงเฉียวที่จัดขึ้นภายในงานยังเพิ่มพื้นที่สำหรับการหารือด้านเกษตรยั่งยืนและการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะฟอรั่มย่อย “โลกใต้” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ การเข้าร่วมของสมาคมการค้าต่างประเทศกว่า 80 แห่ง และ SMEs กว่า 1,500 ราย ทำให้ CIIE เป็นเวทีที่เปิดกว้างสำหรับธุรกิจทุกระดับ ขณะที่การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนรุ่นใหม่ช่วยสนับสนุนระบบการค้าให้ทันสมัยและเชื่อมต่อกับโลจิสติกส์อัจฉริยะ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การค้าโลกเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ผู้เรียบเรียงเห็นว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นใน CIIE 2025 ไม่เพียงขยายโอกาสทางธุรกิจ แต่ยังสร้างรากฐานของเศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ทุกประเทศต่างร่วมเดินไปด้วยกัน พร้อมกันนี้ งาน CIIE ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และมาตรฐานใหม่ด้านการค้า อีกทั้งยังส่งเสริมให้ประเทศต่างๆ พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมของตนให้สามารถมีส่วนร่วมในห่วงโซ่มูลค่าโลกได้อย่างมั่นคงมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ CIIE จึงมิได้เป็นเพียงเวทีทางการค้าระดับนานาชาติ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้เศรษฐกิจโลกขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสมดุล มีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นคงและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น”

เรียบเรียงโดย ดร.กฤตติกา เศวตอมรกุล เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร / รองคณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์