18 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีที่ 'ซอร์ ซกคา' (Sar Sokha) รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกัมพูชา อ้างกลุ่มทหารชุดดำไทยละเมิดทางร่างกายเยาวชนสตรีชาวเขมร ซึ่งต่อมาทาง 'กองทัพเรือ' ได้ออกมาตอบโต้ทันทีพร้อมทั้งยืนยันว่าทั้งหมดนั้นเป็นข้อมูลเท็จ ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างแน่นอนตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด สำนักข่าวเฟรชนิวส์ (Fresh News) รายงานว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้ระบุข้อกล่าวหาที่รุนแรงต่อฝ่ายไทยหลายประการ เริ่มตั้งแต่การโจมตีพลเรือน โดยกล่าวหาว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ทหารไทยได้เปิดฉากโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีการยั่วยุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และหลายร้อยครอบครัวต้องไร้ที่อยู่อาศัย

นอกจากนี้ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ยังบอกอีกว่า คืนวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น แรงงานหญิงชาวกัมพูชาวัยเพียง 18 ปี ถูกกลุ่มชายในเครื่องแบบทหารไทยสีดำ 7 นาย รุมข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมขณะเดินทางกลับประเทศ ทางเราขอประณามการกระทำอันน่าชิงชังนี้อย่างรุนแรงที่สุด โดยยืนยันว่าความรุนแรงทางเพศถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสาหัสซึ่งต้องได้รับการลงโทษอย่างหนัก

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ยังกล่าวถึงเรื่องทหารกัมพูชา 18 นายด้วย โดยระบุว่า ทหารกัมพูชายังคงถูกกองทัพไทยควบคุมตัว นานกว่า 112 วันแล้ว แม้จะมีการลงนามในปฏิญญาร่วมเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

ฝ่ายกัมพูชายังกล่าวหากองทัพไทยว่าใช้เสียงดังรบกวนเพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก สตรี และผู้ป่วย แถลงการณ์ยังได้เน้นย้ำว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ได้สั่งการให้ชาวกัมพูชาปฏิบัติต่อชาวไทยด้วยดีเสมอมา เพื่อแสดงจุดยืนที่แตกต่าง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ได้ยื่นข้อเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้ทางการไทย นำตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมชดเชยเยียวยาเหยื่ออย่างเหมาะสม และได้วิงวอนไปยังประชาคมระหว่างประเทศ ให้เข้ามากดดันและตรวจสอบให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมทิ้งท้ายด้วยคำเตือนว่า หากไม่มีการดำเนินการใดๆ จะถือว่าประเทศไทยเป็นรัฐที่บ่อนทำลายหลักนิติธรรมและปกป้องผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับผิด