19 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในการเยือนสหรัฐที่เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างซาอุดีอาระเบียกับสหรัฐ

ในระหว่างการพบปะหารือที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวปกป้องเจ้าชายบิน ซัลมาน โดยยืนกรานว่าพระองค์ไม่ทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการสังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ โดยเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย ในปี 2018

นายทรัมป์ยังได้กล่าวชื่นชมมกุฎราชกุมารในด้านสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าชายบิน ซัลมาน อย่างหนัก ไม่เพียงแต่กรณีการสังหารคาช็อกกีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปราบปรามผู้เห็นต่างในประเทศด้วย

เจ้าชายบิน ซัลมาน ทรงให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการลงทุนของประเทศในเสหรัฐฯ เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยให้คำมั่นไว้ที่ 6 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อครั้งที่นายทรัมป์เยือนซาอุดีอาระเบีย ในเดือนพฤษภาคม แต่พระองค์ไม่ได้ระบุรายละเอียดหรือกำหนดเวลาแต่อย่างใด

นายทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาด้วยว่าทั้งสองประเทศได้บรรลุ "ข้อตกลงด้านกลาโหม" โดยเขาไม่ได้ให้รายละเอียดในเรื่องนี้ และว่าซาอุดีอาระเบียจะซื้อเครื่องบินขับไล่ทันสมัยเอฟ-35 ที่ผลิตในสหรัฐฯ

หลังจากนั้น นายทรัมป์ได้เป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่เจ้าชายบิน ซัลมาน ซึ่งคริสเตียโน โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์นักเตะกองหน้าชาวโปรตุเกส และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งนี้ด้วย

ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำ ทรัมป์ได้ประกาศว่าสหรัฐฯ จะแต่งตั้งให้ซาอุดีอาระเบียเป็น "พันธมิตรหลักนอกนาโต" (major non-NATO ally) ซึ่งเป็นสถานะที่นำมาซึ่งผลประโยชน์ทางทหาร

สำหรับรายชื่อแขกที่เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งนี้ได้ตอกย้ำถึงผลประโยชน์ทั้งทางการเมืองและการค้าของความสัมพันธ์นี้ นอกจากโรนัลโดและมัสก์แล้ว ผู้เข้าร่วมยังรวมถึง จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรชายของนายทรัมป์

โรนัลโด ซึ่งเล่นให้กับสโมสร อัล-นัสเซอร์ (Al-Nassr) ในซาอุดีอาระเบีย เข้าร่วมในฐานะสัญลักษณ์ของการใช้กีฬาของซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ในระดับโลก ส่วนการที่มัสก์ปรากฎตัวในงานนี้อาจเป็นสัญญาณของการประนีประนอมในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับทรัมป์

เจ้าชายบิน ซัลมาน ทรงเรียกวันนี้ว่า "เป็นวันพิเศษ" โดยกล่าวว่าขอบเขตทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศกำลังขยายกว้างขึ้น