24 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายหวัง อี้  รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ว่าคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิของญี่ปุ่นเกี่ยวกับไต้หวันถือว่า "น่าตกใจอย่างยิ่ง" ที่ผู้นำญี่ปุ่นส่งสัญญาณที่ผิดพลาดอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับไต้หวัน และถือเป็นการข้ามเส้นที่ไม่ควรข้าม

'หวัง อี้' ถือเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดของทางการจีนที่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีทาคาอิจิ ที่กล่าวต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่าญี่ปุ่นจะใช้กำลังทหารหากจีนเข้ารุกรานไต้หวัน เพราะจะถือเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น แถลงการณ์ของ'หวัง อี้' ที่โพสต์ลงบนเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศจีน ระบุอีกว่านายกฯทาคาอิจิ พยายามใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงไต้หวัน และจีนจำเป็นต้องตอบโต้กลับญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน แต่เป็นการปกป้องความสำเร็จหลังสงครามที่ได้มาอย่างยากลำบากจากการเสียเลือดเนื้อ

ซึ่งเขายังระบุอีกว่าหากญี่ปุ่นยังคงเดินหน้าต่อในเส้นทางที่ผิด ทุกประเทศและทุกคนก็มีสิทธิที่จะพิจารณาการที่ญี่ปุ่นก่ออาชญากรรมต่างๆ ในประวัติศาสตร์ในอดีตและขัดขวางไม่ให้ญี่ปุ่นกลับมามีกองทัพอีกครั้ง

ความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นและจีนได้แผ่ขยายไปยังภาคการค้าและการท่องเที่ยว จีนได้ยื่นเรื่องดังกล่าวไปยังนายอันโตนิอู กุแตรเรซ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งบอกว่าจีนจะปกป้องตัวเอง แต่ต่อมา กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นออกมาบอกว่าญี่ปุ่นยังคงยึดมั่นในสันติภาพไม่เปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีทาคาอิจิของญี่ปุ่นซึ่งกำลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ไม่ได้กล่าวถึงถ้อยแถลงของนายหวัง อี้ แต่บอกเพียงว่าญี่ปุ่นยังเปิดกว้างที่จะพูดคุยกับจีน และยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีนที่กำลังเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวเช่นกันที่กรุงโจฮันเนสเบิร์ก