วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
28 พฤศจิกายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมดำเนินการตรวจสอบกรีนการ์ดที่เคยออกให้กับบุคคลจาก 19 ประเทศที่อพยพมายังสหรัฐฯ 'โจเซฟ เอ็ดโลว์' หัวหน้าสำนักงานบริการพลเมืองและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สั่งให้เขาดำเนินการ ตรวจสอบกรีนการ์ดใหม่ทั้งหมดอย่างเข้มงวดและเต็มรูปแบบสำหรับชาวต่างชาติทุกคนจากทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่าประเทศใดบ้างที่อยู่ในรายชื่อ สำนักงานบริการพลเมืองและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ บอกว่าให้ลองดูประกาศ การจำกัดการเข้าเมืองของชาวต่างชาติเพื่อปกป้องสหรัฐฯ จากผู้ก่อการร้ายต่างชาติและภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะอื่นๆ ที่ทำเนียบขาวออกเมื่อเดือนมิถุนายน
ประกาศดังกล่าวกำหนดเป้าหมายไปที่ 19 ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน เมียนมา ชาด สาธารณรัฐคองโก อิเควทอเรียลกินี เอริเทรีย เฮติ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน เยเมน บุรุนดี คิวบา ลาว เซียร์ราลีโอน โตโก เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดเรื่องกรีนการ์ดนี้ เกิดขึ้นหลังจากมีชาวอัฟกานิสถานคนหนึ่งถูกกล่าวหาว่ายิงเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 2 นายในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ต่อมาหนึ่งในนั้นจะเสียชีวิต ซึ่งมี 'เราะห์มานุลเลาะห์ ลากันวาล' ผู้ต้องสงสัย เดินทางเข้ามายังสหรัฐฯ ในปี 2021 ภายใต้นโยบายของ'โจ ไบเดน' ที่ให้การคุ้มครองพิเศษด้านการอพยพแก่ชาวอัฟกานิสถาน หลังจากที่สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากอัฟกานิสถาน
โดยทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงครั้งนี้เป็นการตอกย้ำภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่
โพสต์ของทาง 'โจเซฟ เอ็ดโลว์' หัวหน้าสำนักงานบริการพลเมืองและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเอ็ดโลว์เมื่อวันที่ 27 พ.ย. เกี่ยวกับการพิจารณาทบทวนกรีนการ์ดไม่ได้กล่าวถึงการโจมตีดังกล่าวอย่างชัดเจน การปกป้องประเทศนี้และประชาชนชาวอเมริกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง และประชาชนชาวอเมริกันจะไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากนโยบายการตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ไม่รอบคอบของรัฐบาลชุดก่อน
ประกาศก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายนมีเป้าหมายที่จะจำกัดไม่ให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพื่อป้องกัน ผู้ก่อการร้ายต่างชาติ และภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะอื่นๆ
ทางรัฐบาล กล่าวว่า ความกังวลด้านความมั่นคงและอัตราการอยู่เกินกำหนดของวีซ่าธุรกิจ นักเรียน และนักท่องเที่ยว เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ประเทศนี้ติดอันดับเกิดเหตุการณ์รุนแรง การโจมตีสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมากระตุ้นให้ทรัมป์ตอบโต้อย่างรุนแรง การโจมตีครั้งนี้ตอกย้ำภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดที่ประเทศของเรากำลังเผชิญอยู่
ประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้ออกมากล่าวว่า รัฐบาลชุดที่แล้วปล่อยให้ชาวต่างชาติที่ไม่รู้จักและไม่ได้รับการตรวจสอบ 20 ล้านคนจากทั่วโลกเข้ามา จากสถานที่ที่คุณไม่อยากจะรู้จัก ไม่มีประเทศใดสามารถทนต่อความเสี่ยงเช่นนี้ต่อการอยู่รอดของเราได้
หลังเกิดเหตุสหรัฐฯ ได้ระงับการดำเนินการคำร้องขอวีซ่าเข้าเมืองจากชาวอัฟกานิสถานทั้งหมด โดยสำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐฯ ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างรอการทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยและการคัดกรอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี