สำนักข่าวขแมร์ไทมส์รายงานว่า พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกมายืนยันเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนว่า ทางการกัมพูชาปฏิเสธรายละเอียดจากฝั่งไทยเกี่ยวกับกรณีชายชาวจีนเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมชี้แจงข้อมูลตามรายงานที่ได้รับจากหน่วยงานภายในประเทศ

รายงานของกองทัพภูมิภาคที่ 5 ของกัมพูชาระบุว่า ชายชาวจีนคนดังกล่าวเหยียบทุ่นระเบิดเวลาประมาณ 03.20 น. ใกล้หลักเขตแดนที่ 48 - 49 ในพื้นที่หมู่บ้านโจกเจย จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งเป็นเขตที่ยังมีทุ่นระเบิดหลงเหลือจากสงครามในอดีต ส่งผลให้ผู้บาดเจ็บถูกแรงระเบิดจน ข้อเท้าซ้ายขาด

กองทัพกัมพูชาที่ประจำพื้นที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่ต้องใช้เวลาเคลียร์เส้นทางปลอดภัยระยะทางกว่า 200 เมตร ทำให้ทหารไทยสามารถเข้าถึงตัวผู้บาดเจ็บได้ก่อน

ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเพิ่งได้รับการสำรวจโดย ศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAC) และ ศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งประเทศไทย (TMAC) ภายใต้คณะทำงานประสานงานร่วม (JCTF) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก่อนมีการหารือทางเทคนิคเมื่อ 10 พฤศจิกายน เพื่อวางแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่การดำเนินงานต้องหยุดชะงักหลังไทยประกาศระงับปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ในวันเดียวกัน

กระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาเปิดเผยว่า ไม่พบชื่อของชายชาวจีนคนดังกล่าวในฐานข้อมูลบุคคลเข้า-ออกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา แต่หลักฐานต่างๆ ชี้ว่าชาวจีนคนดังกล่าวพยายามข้ามฝั่งจากไทยเข้ามากัมพูชา ขัดแย้งกับการรายงานของไทยที่บอกว่าเดินทางจากกัมพูชาเข้ามาไทย

ทางการกัมพูชาบอกว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนลาดยางของไทยเพียง 100 เมตร และห่างจากถนนของกัมพูชาประมาณ 210 เมตร และชาวจีนมีแค่เงินไทยพกติดตัวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม กัมพูชายังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจว่าทำไมชาวจีนคนดังกล่าวจึงข้ามแดนเข้ามาในกัมพูชา