19 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อปรับสถานะของกัญชาออกจากยาเสพติดประเภทที่ 1 (Schedule I) หรือ กลุ่มเดียวกับเฮโรอีน ไปเป็นประเภทที่ 3 (Schedule III) กลุ่มเดียวกับยาแก้ปวดทั่วไป เคตามีน ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน หรือยาแก้ไอที่มีโคเดอีน ในฐานะสารที่มีอันตรายน้อยกว่า 

ซึ่งหมายถึงการยอมรับว่ากัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ในระดับรัฐบาลกลาง นับเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงนโยบายกัญชาระดับรัฐบาลกลางที่สำคัญที่สุดในรอบหลายสิบปี และอาจพลิกโฉมอุตสาหกรรมกัญชา ลดบทลงโทษทางอาญา เปิดทางให้เงินทุนวิจัยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และช่วยเปิดประตูที่เคยปิดตายสำหรับธนาคารและนักลงทุน

คำสั่งนี้ยังไม่ใช่การเปิดเสรีกัญชา 100% กัญชายังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายในระดับรัฐบาลกลาง และยังอยู่ภายใต้กฎหมายท้องถิ่นที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ของประเทศ การใช้กัญชายังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เข้มงวด รวมถึงมีบทลงโทษทางอาญา เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบอาจต้องเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นจากองค์การอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ในอนาคต เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยาประเภทที่ 3

ซึ่งกลุ่มผู้สนับสนุนกัญชาเสรีในประเทศมองว่าการผ่อนคลายระเบียบคุมเข้มครั้งนี้เป็น ก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังคงผลักดันให้มีการถอนกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดโดยสิ้นเชิง เพื่อให้เหมือนกับแอลกอฮอล์หรือยาสูบ ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาบางส่วนกังวลว่า การผ่อนปรนนี้อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะและส่งสัญญาณที่ผิดไปยังเยาวชน

ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ชาวอเมริกันหลายล้านคนเคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองกัญชา ซึ่งกัญชาเป็นยาเสพติดผิดกฎหมายที่มีการใช้มากที่สุดในโลกและในสหรัฐฯ โดยคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของประชากรชาวอเมริกัน ที่มีการใช้กัญชาในแต่ละปี