วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘สังขละบุรี’ ภูมิวิถีมอญในแนวรบด้านตะวันตก

ภูมิบ้านภูมิเมือง : ‘สังขละบุรี’ ภูมิวิถีมอญในแนวรบด้านตะวันตก

วันอาทิตย์ ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

ชุมชนมอญในอำเภอสังขละบุรี

ด้วยแนวรบด้านตะวันตกทางเมืองกาญจนบุรีนั้นเป็นเส้นทางสำคัญที่เป็นเส้นทางเข้า-ออกของข้าศึก ดังนั้นพื้นที่แห่งนี้จึงถูกยกขึ้นเป็นด่านสำคัญในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ อาทิตย์นี้ขอย้อนรอยไปที่เมืองสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเป็นเมืองหน้าด่านสำคัญที่ตั้งอยู่ตรงช่องทางหรือประตูระหว่างแดนที่ติดต่อระหว่างสยามกับพม่า พื้นที่นี้มีลักษณะเป็นช่องเขาของเทือกเขาตะนาวศรีหรือช่องด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งในประวัติศาสตร์นั้นได้ถูกใช้เป็นเส้นทางเดินทัพและเป็นเส้นทางอพยพของชนกลุ่มชาติต่างๆ ทั้งมอญและกะเหรี่ยง ฯลฯ ด้วยในสมัยอยุธยานั้น พม่ามีอำนาจมากในบริเวณลุ่มน้ำอิระวดีและแม่น้ำสาละวิน จึงรุกรานมอญ กะเหรี่ยง จนต้องอพยพเข้าสู่ดินแดนไทยทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์

ในพระราชพงศาวดารกรุงเก่าได้กล่าวว่า ในเขตกาญจนบุรีนั้นมีเมืองหน้าด่านอยู่ 8 เมือง คือเมืองสิงห์ เมืองลุ่มสุ่ม เมืองท่าตะกั่ว เมืองไทรโยค (เมืองกาญจนบุรีเก่า) เมืองทองผาภูมิ เมืองท่าขนุน (สังขละบุรี) เมืองท่ากระดานและเมืองศรีสวัสดิ์ ทำหน้าที่สู้รบกับข้าศึกที่ผ่านเข้ามา  ซึ่งบริเวณเมืองท่าขนุนหรือสังขละบุรีในปัจจุบันนั้น  มีพื้นที่ระหว่างเขาเป็นสนามรบขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ สามประสบ ด้วยมีร่องน้ำ 3สาย คือ ห้วยซองกะเลีย ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตีไหลมาบรรจบลงจากเขามารวมกันเป็นแอ่งใหญ่ซึ่งปัจจุบันนั้นน้ำได้ท่วมไปเกือบหมดจากการสร้างเขื่อนเขาแหลม แม่ทัพคนสำคัญในแถบนี้ คือ กรมพระราชวังบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (บุญมา) และพระองค์เจ้าขุนเณร


ตลาดอำเภอสังขละบุรี


เมืองสังขละบุรีหรือท่าขนุนเดิมนั้นจึงมีพื้นที่มากกว่าเมืองอื่น คือ มีพื้นที่ประมาณ 3,350 ตารางกิโลเมตร หรือ 2 ล้านไร่ และปัจจุบันเป็นพื้นที่ติดต่อกับเขตแดนพม่าได้เป็นแนวยาวอยู่ 4 เมือง คือ อำเภอเมือง อำเภอทองผาภูมิ อำเภอไทรโยค และอำเภอสังขละบุรี ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับพม่ายาวถึง 170 กิโลมตรตั้งแต่สมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นนั้น เมืองด่านทั้ง 8 เมือง ของกาญจนบุรี ได้มีความสำคัญในการป้องกันการรุกรานจากพม่า จนอังกฤษเข้ายึดครองพม่า สงครามไทยกับพม่าจึงได้ยุติลง ต่อมาพ.ศ.2369 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงยกให้สังขละ ขึ้นเป็นเมืองตั้งผู้นำกะเหรี่ยงนั้นเป็นเจ้าเมือง พระราชทานนามว่า“พระศรีสุวรรณคีรี” มีทายาทสืบทอดการป้องกันเขตแดน ส่วนเมืองด่านอื่นๆ นั้นก็มีผู้นำเช่นเดียวกัน

เมืองด่านชายแดนแห่งนี้ ถูกล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาใหญ่น้อย มีแม่น้ำซองกาเลีย ไหลจากต้นกำเนิดในประเทศพม่า ไหลผ่าน อำเภอสังขละบุรีจึงเป็นแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้สองฟากฝั่งแม่น้ำ และเชื่อมสัมพันธ์ได้มีชนชาติิมอญทั้งสองประเทศตั้งบ้านเรือน มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม่น้ำซองกาเลียจึงเป็นชื่อเรียก จากภาษามอญแปลเป็นไทยว่า “ฝั่งโน้น” แม่น้ำซองกาเลียแบ่งแผ่นดินอำเภอสังขละบุรีออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือตัวอำเภอซึ่งรวมสถานที่ราชการและสถานที่พัก แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ตกค้างมาแต่อยุธยาก็ตาม อีกฝั่งหนึ่งนั้นเป็นหมู่บ้านมอญทั้งที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์นานนับร้อยปีและเพิ่งอพยพเข้ามาใหม่ จึงทำให้สังขละบุรีเป็นเมืองที่มีวิถีของตนตามวัฒนธรรมแห่งเผ่าพันธุ์ ซึ่งมีทั้งมอญ กะเหรี่ยง ไทย ลาว พม่า โดยมี “สะพานไม้อุตตมานุสรณ์” หรือ “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ มีความยาวประมาณ 1 กม. สร้างโดยหลวงพ่ออุตตมะ เพื่อให้คนไทย กะเหรี่ยง และมอญนั้นได้สัญจร ไปมาหาสู่กันได้สะดวก เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนทั้งสามกลุ่มให้มีวิถีของตนอย่างมั่นคง ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดดึงความสนใจท่องเที่ยวเพื่อชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ในยามเช้าและการตักบาตรพระในตลาดมอญริมสะพาน หมู่บ้านมอญนั้น อพยพมาจากอำเภอเย จังหวัดเมาะละแหม่งใน รัฐมอญ ประเทศพม่าตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 ส่วนใหญ่ ทำอาชีพเกษตรกรรม และทำประมงชายฝั่ง พูดภาษามอญ แต่งกายแบบชาวมอญ โดยเฉพาะการเทินสิ่งของไว้บนศีรษะอย่างชำนิชำนาญและใช้แป้งทานาคา เครื่องสำอางจากภูมิปัญญาท้องถิ่นทาใบหน้าอันเป็นวิถีมอญที่น่าสนใจและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งจนลืมความสำคัญในแนวรบเมื่ออดีตไป


หมู่บ้านมอญในเมืองสังขละบุรี


พระพุทธรัตนสังขละศรีสุวรรณ (พระแก้ว) ร.3 พระราชทานแก่พระศรีสุวรรณ เจ้าเมือง


เด็กมอญกับการแต่งกายที่ไม่เปลี่ยนแปลง


อนุสาวรีย์กรมพระราชวังบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท


เด็กมอญทาหน้าด้วยทานาคาตามผู้ใหญ่


สาวมอญที่ยังรักษาประเพณีตามบรรพบุรุษ


หมู่บ้านมอญในเมืองสังขละบุรี


โบราณสถานเมืองกาญจนบุรีเก่า


ป้อมที่สร้างขึ้นป้องกันข้าศึก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'นายกฯ'คิดให้ดีๆ !! ก่อนตั้ง'สุชาติ'นั่ง'รมว.แรงงาน'เหมือนเอาเท้าลูบหน้าผู้ประกันตนทั้งประเทศ

'ตรีรัตน์'ลั่น'พีระพันธุ์' อยู่ร่วมรัฐบาลต่อเพื่อชาติ หรือเพื่อผลประโยชน์กันแน่??

‘นันทนา’เหน็บโผครม.จัดสรรต่างตอบแทน ลั่นปชช.อยากได้ผู้นำพาพ้นวิกฤต

'Boys Vibe The Project'อัปเลเวลความฟิน ถึงเวลาสารภาพรัก จุดกำเนิดคู่จริงหรือแค่จิ้น!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved