รอบปฐมทัศน์ "คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์"
ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ไม่เฉพาะเพียงความสมบูรณ์พูนสุขทางกายเท่านั้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใส่พระทัยพสกนิกร โดยริเริ่มโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนของพี่น้องชาวไทย หากในแง่การเติมเต็มพลังใจ พระองค์ท่านยังพระราชทานขวัญ กำลังใจแด่ประชาชนผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ อันแฝงไปด้วยปรัชญาการดำเนินชีวิตมากมายหลายต่อหลายเพลง
ในโอกาสเดือนแห่งวันฉัตรมงคล ซึ่งเป็นการระลึกถึงการบรมราชาภิเษกเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดฉายรอบปฐมทัศน์โครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” อย่างยิ่งใหญ่โดยมีแขกรับเชิญทั้งในแวดวงสังคม และวงการบันเทิงกว่าพันคนมาร่วมงานเลี้ยงรับรองและชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติรอบปฐมทัศน์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายในงานได้รับเกียรติจาก 4 ผู้กำกับ ภาพยนตร์มือฉมังของเมืองไทย ได้แก่ นนทรีย์ นิมิบุตร,วัลลภ ประสพผล,ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และ ยงยุทธ ทองกองทุน มาถ่ายทอดความประทับใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นสำคัญนี้ พร้อมด้วย 4 นักร้อง ชื่อดังมาร่วมขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ ทั้ง 4 บทเพลง ได้แก่ เพลง “ความฝันอันสูงสุด” ขับร้องโดย สหรัถ สังคปรีชา, เพลง “ชะตาชีวิต” ขับร้องโดย ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอ็นโดรฟิน), เพลง “สายฝน” ขับร้องโดย อัญชลี จงคดีกิจ และเพลง “ยิ้มสู้” ขับร้องโดย ศิลปินเก็ตสึโนวา (Getsunova)
ณัฐวรรณ ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระปรีชาสามารถด้านดนตรีและการพระราชนิพนธ์เพลง และเผยแพร่บทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า รวมทั้งให้ประชาชนได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์ และนำเรื่องราวจากภาพยนตร์ไปเป็นแรงบันดาลใจในการคิดและปฏิบัติตนให้เป็นคนดีต่อสังคม โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่
“เป็นระยะเวลา 2 ปี ที่ บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ ในพระปรีชาสามารถด้านดนตรี รวม 3 โครงการอย่างต่อเนื่อง ผ่านรูปแบบสารคดีสั้น ชุด คีตราชา จำนวน 10 ตอน รวมทั้ง จัดกิจกรรมแคมป์สำหรับเยาวชน “Pro Musica Junior Camp supported by Boon Rawd Brewery” โดยคัดเลือกนักดนตรีเยาวชนจากภูมิภาคต่างๆ มาเข้าคอร์ส อบรมฝึกฝนการเล่นเครื่องสาย โดยคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และร่วมบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ในการแสดงชุด “Pro Musica Junior Concert” ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท กิจกรรมล่าสุดคือ โครงการผลิตภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ชื่อชุด “คีตราชนิพนธ์ บทเพลงในดวงใจราษฎร์” จำนวน 4 เรื่อง ความยาว รวม 130 นาที โดยเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 บทเพลง มาเป็นแรงบันดาลใจในแนวคิดของแต่ละเรื่อง เราเชื่อว่าสื่อภาพยนตร์เป็นศิลปะ อีกแขนงหนึ่ง ที่สามารถถ่ายทอดหรือเผยแพร่บทเพลงพระราชนิพนธ์ในอีกมิติหนึ่งที่น่าสนใจชวนติดตาม และสามารถเข้าถึงผู้ชมได้มาก เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ซาบซึ้งถึงคุณค่าของบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่าน เราจึงร่วมคิดกับโปรเจกท์ไดเร็กเตอร์ของเราในตอนนั้นคือ นิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา ในการน้อมนำบทเพลงพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีท่วงทำนองอันไพเราะ และมีความหมายที่ลึกซึ้ง สามารถให้คติต่างๆ ให้กับผู้ที่รับฟังมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ให้กับประชาชนได้รับชม ที่สำคัญการคัดเลือกบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่าจาก 48 บทเพลง ให้คงเหลือเพียง 4 บทเพลง เป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากแต่ละบทเพลงล้วนมีความไพเราะและมีความหมายแตกต่างกันไป รวมทั้งให้คติสอนใจ และสร้างแรงบันดาลใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้มากมายและเห็นตรงกันว่าผู้ที่จะสามารถถ่ายทอดแรงบันดาลใจ และเล่าเรื่องได้ดีที่สุดคือ ผู้กำกับ จึงให้เป็นผู้เลือกบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่แต่ละท่าน มีความประทับใจหรือผูกพันพิเศษ เพราะเชื่อว่าจะสามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้ชมได้อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งผลงานภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ จากฝีมือของผู้กำกับแต่ละท่านในครั้งนี้ ล้วนมีแนวทางในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่แตกต่างกัน และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน 4 บทเพลงพระราชนิพนธ์ได้อย่างซาบซึ้ง กินใจ สะท้อนเรื่องราวชีวิตต่างวัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ และหวังว่าผลงานทั้ง 4 เรื่องนี้จะเป็นการส่งต่อและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจที่ดี เหมือนกับที่เราได้รับในการทำงานนี้เช่นกัน”
ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติชุดนี้ประกอบด้วย เรื่อง “The Singers” กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ขับร้องโดย นีรนุช ปัทมสูต และ ธนิดา ธรรมวิมล (ดา เอ็นโดรฟิน), เรื่อง “อมยิ้ม” กำกับโดย วัลลภ ประสพผลได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ยิ้มสู้” ขับร้องโดย ปราการ ไรวา จากวงดนตรีเก็ตสึโนวา, เรื่อง “ฝนตกที่ห้วยขาแข้ง” กำกับโดย ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “สายฝน” ขับร้องโดย อัญชลี จงคดีกิจ และเรื่อง “ดาว” กำกับโดย ยงยุทธ ทองกองทุน ได้แรงบันดาลใจจากบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอันสูงสุด” ขับร้องโดย สหรัถ สังคปรีชา และ ด.ญ.กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ
จากกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมจากคนไทยทั้งประเทศ ที่อยากร่วมชมภาพยนตร์ 4 เรื่อง ที่มีแรงบันดาลใจจากพระอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้บัตรจำนวน 30,000 ใบ ที่เตรียมไว้ในรอบแรก ถูกจองหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จึงตัดสินใจเพิ่มรอบฉายและเพิ่มจำนวนโรงภาพยนตร์ เพื่อให้ผู้ชมทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ ติดตามรายละเอียดและรับบัตรฟรีได้ที่ www.คีตราชนิพนธ์.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี