นพ.นำ ตันธุวนิตย์ ผอ.ด้านบริหาร รพ.บำรุงราษฎร์ พร้อมด้วย
ทีมสหแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประจำคลินิกสุขภาพผู้สูงอายุนิวไลฟ์
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดคลินิกสุขภาพผู้สูงอายุนิวไลฟ์ โดยมี นพ.นำ ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการด้านบริหารโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นประธานในพิธีให้บริการและดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกด้าน โดยทีมบุคลากรสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ร่วมกับ ทีมพยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการและนักกายภาพบำบัด
พญ.ลิลลี่ ชัยสมพงษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เผยว่า เนื่องจากวิทยาการด้านต่างๆ ในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเจริญก้าวหน้าขึ้น อายุขัยเฉลี่ยของประชากรจึงยืนยาวกว่าในอดีต ด้วยเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจที่ผู้สูงอายุทุกคนต้องเผชิญ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จึงจัดตั้ง“คลินิกสุขภาพผู้สูงอายุนิวไลฟ์” ขึ้นเพื่อให้บริการเกี่ยวกับการรักษาและดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกด้าน ตั้งแต่การดูแลสุขภาพทั่วไปการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน การให้คำปรึกษาทุกเรื่องเกี่ยวกับผู้สูงวัยไปจนถึงการจัดการปัญหาสุขภาพในระดับซับซ้อน โดยแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรจากสหวิชาชีพซึ่งเชี่ยวชาญในด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ
พญ.ลิลลี่ ชัยสมพงษ์
ทั้งนี้ กลุ่มโรคในวัยผู้สูงอายุแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่มโรคทั่วไป เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดหัวใจหรือสมองตีบตัน กลุ่มนี้ความเสี่ยงของโรคจะยิ่งเพิ่มขึ้นตามอายุและกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในผู้สูงวัย เช่น โรคกระดูกพรุนหรือภาวะสมองเสื่อม ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในภาพรวม โดยมีผู้สูงอายุแต่ละคนเป็นศูนย์กลาง ด้วยความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์จากบุคลากรสหวิชาชีพ ที่มีทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุร่วมกับความรู้ความชำนาญจากทีมพยาบาล เภสัชกร นักโภชนาการ และนักกายภาพบำบัด โดยทีมแพทย์ผู้ได้รับการอบรมเฉพาะทางในด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุกลุ่มนี้จะทำงานประสานกันเพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุจะได้รับการดูแลที่สัมพันธ์กัน ด้วยการให้คำปรึกษาตั้งแต่กิจวัตรชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุ ทั้งเรื่องอาหารการกินการออกกำลังกายการใช้ยาชนิดต่างๆ นอกจากนี้ ยังต้องลงลึกไปถึงสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่
เมื่อเราได้รับรู้องค์ประกอบของผู้สูงอายุคนหนึ่งทั้งหมด การดูแลและสร้างเสริมก็จะทำได้อย่างตรงจุด โดยมากจะพบว่าผู้สูงอายุมักได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอหรือขาดการออกกำลังกายที่เหมาะสม จึงต้องมีนักโภชนาการที่คอยดูแลเรื่องอาหารและนักกายภาพบำบัดไว้คอยจัดสรรการออกกำลังที่เหมาะสม เพื่อให้กล้ามเนื้อและกระดูกทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไปได้ยาวนานที่สุด”
สำหรับผู้สูงอายุในกลุ่มอาการที่เรียกว่า GeriatricSyndromes ซึ่งมีภาวะหกล้มบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นอนไม่หลับซึมเศร้า ฯลฯ ภาวะเหล่านี้ผู้สูงอายุอาจไม่ทราบว่าตนเองมีความผิดปกติ จึงละเลยจนเกิดเป็นปัญหาซ้ำซ้อนตามมา ส่วนรายที่รู้ว่าตนเองมีปัญหาก็ไม่รู้ว่าควรปรึกษาจากแพทย์สาขาใด ตรงนี้คลินิกสุขภาพผู้สูงอายุสามารถให้ความรู้ หาทางป้องกัน และประเมินความเสี่ยงก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้นได้
“ยิ่งเมื่อเขาอายุมากขึ้น โรคภัยจะเพิ่มขึ้นและซับซ้อน ผู้สูงอายุหลายคนจำต้องพบแพทย์เฉพาะทางมากถึง 3-4 คน ซึ่งแพทย์แต่ละคนจะดูแลรักษาในส่วนของตัวเอง ไม่ได้คำนึงองค์ประกอบอื่นๆ จนพบว่ามีผู้สูงอายุที่ได้รับยาหลายขนานจนยาตีกัน เช่น ได้รับยานอนหลับพร้อมกับยาแก้ปวด ทำให้คนไข้ง่วงซึมนอนติดเตียง ผลที่ตามมาคือมีอาการข้อติดหรือกลายเป็นแผลกดทับ จะเห็นว่าจากเรื่องเล็กน้อยที่ถูกมองข้ามเหล่านี้ ก็อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ตามมาได้ไม่รู้จบ
หรือมีกรณีที่โรคตีกัน เช่น แพทย์จำเป็นต้องให้ยาผู้ป่วยในโรคเฉพาะทาง แต่อาจไม่ได้มองว่าไตของผู้ป่วยไม่อยู่ในสภาพที่รับได้ตรงจุดนี้ แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุจะทำหน้าที่คอยประสานงานและดูแลรักษาผู้ป่วยในภาพรวม เราจึงต้องมีเภสัชกรคลินิกที่ได้รับการอบรมมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยประเมินว่ายาทุกตัวที่ผู้ป่วยได้รับมีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหนและควรให้ในปริมาณเท่าไหร่
โปรแกรมทั้งหมดของคลินิกสุขภาพผู้สูงอายุ ได้ถูกออกแบบขึ้นผ่านความเข้าใจที่เกิดขึ้นจากความรู้เฉพาะทางและประสบการณ์ว่าธรรมชาติของผู้สูงอายุทุกคนล้วนอยากพึ่งพาตนเองให้ได้นานที่สุด ซึ่งเราจะเริ่มดูแลเขาจากตรงนั้น งานของเราจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ผู้สูงอายุเดินเข้ามาหาและจะดูแลต่อเนื่องกันไปตลอด” พญ.ลิลลี่ กล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี