เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องมีเคล็ดลับประจำตัวเพื่อดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งเคล็ดไม่ลับมาฝากสาวๆ กันกับ 10 อาหารเพิ่มผิวสวย เป็นวิธีที่ดูแลผิวด้วยการทานอาหารที่ประโยชน์ ช่วยบำรุงจากภายในสู่ภายนอก รับรองถูกใจคุณผู้หญิงอย่างแน่นอน

1. ผิวเนียนเด้งด้วย "ช็อกโกแลต"

อาหารที่สาวๆ ชอบนักหนาแต่ก็ต้องหักห้ามใจเพราะกลัวอ้วน กลัวสิวจะขึ้นนี่แหละคืออาหารบำรุงผิวชั้นดี เนื่องจากโกโก้มีสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น กระชับ และชุ่มชื้น และยังช่วยจัดการกับความเครียดซึ่งเป็นตัวทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยน้อยลง

เลือก : ช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของโกโก้ 70% ขึ้นไปเท่านั้นถึงจะช่วยคุณได้

2. ปกป้องผิวด้วย "ทับทิม"

ศัตรูตัวร้ายของผิวก็คือสารต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากความเครียด อาหาร รวมไปถึงปัจจัยต่างๆ แต่ผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มโพลีฟีนอล ทำให้ในปริมาณที่เท่ากัน น้ำทับทิมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเป็น 3 เท่าของไวน์แดงและชาเขียว สูงกว่าน้ำบลูเบอร์รี่ น้ำแครนเบอร์รี่ และน้ำผลไม้อื่นหลายเท่าตัว จึงปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือก : ทานวันละ 1 ผลหรือดื่มน้ำทับทิมคั้นสดวันละ 1 แก้ว

3. ป้องกันริ้วรอยด้วย "โยเกิร์ต"

จุลินทรีย์ที่มีชีวิตในโยเกิร์ตจะช่วยรักษาค่าความเป็นกรด-ด่างของผิวให้สมดุล ลดการอักเสบต่างๆ และยังเป็นแหล่งของไรโบฟลาวิน (วิตามินบี 2) ที่ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยออกซิเจน ซึ่งเป็นต้นเหตุของริ้วรอยบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ริมฝีปากด้วย

เลือก : โยเกิร์ตรสธรรมชาติสูตรน้ำตาลน้อยวันละ 1 ถ้วย

4. ผิวเนียนนุ่มด้วย "วอลนัต"

ในถั่วชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า3 ซึ่งไขมันดีชนิดนี้นี่เอง เป็นตัวการช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง รักษาโครงสร้างเซลล์และช่วยให้เยื่อบุเซลล์มีสุขภาพที่ดี ทั้งยังอุดมไปด้วยทองแดง แร่ธาตุซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวเนียนนุ่ม และชุ่มชื้นขึ้น

เลือก : วอลนัทเป็นอาหารแคลอรีสูง จึงควรทานเพียงวันละแค่ 1 กำมือ

5. สู้กับตีนกาด้วย "แครอต"

ผักผลไม้สีเหลืองและสีส้มอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังและลดความไวต่อแสงแดด แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เคยมีการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่กินผักผลไม้กลุ่มนี้เป็นประจำ รอยเหี่ยวย่นบริเวณหางตาหรือที่เราเรียกกันว่า "ตีนกา" นั้นจะมาเยือนช้ากว่าคนที่ไม่ได้กิน

เลือก : แครอทลวกหรือต้ม 1 ถ้วยต่อวัน

6. กระจ่างใสด้วย "เมล็ดทานตะวัน"

เมล็ดทานตะวันอุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงและยับยั้งการเสื่อมสภาพของผิว แถมยังเป็นอาหารกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวชั้นนอกจากการถูกทำลายโดยแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย

เลือก : ทานวันละ 1 กำมือ แต่อย่าเลือกแบบโรยเกลือหรือเคลือบช็อกโกแลต

7. กำจัดสิวด้วย "ถั่วแดง"

ต้นเหตุหนึ่งของการเกิดสิวก็คือการขาดธาตุสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยควบคุมให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานปกติ และยับยั้งแบคทีเรียต้นเหตุของสิว ดังนั้นการทานถั่วแดงที่มีสังกะสีอยู่มากจะช่วยแก้ปัญหาได้

เลือก : การทานถั่วแดงในปริมาณที่เหมาะสมคือวันละ 4 ออนซ์ อาจสลับไปทานอาหารอื่น เช่น หอยนางรม บ้างก็ได้

8. ดูอ่อนกว่าวัยด้วย "ข้าวโอ๊ต"

คุณสมบัติเด่นของข้าวโอ๊ตคือมีเส้นใยอาหารสูง ทำให้คุณอิ่มนานและระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างคงที่ ซึ่งนี่แหละคือเคล็ดลับแห่งความอ่อนเยาว์ เคยมีงานวิจัยพบว่า เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นสูงจะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน และเป็นต้นเหตุของริ้วรอยก่อนวัยในเวลาต่อมา

เลือก : ทานข้าวโอ๊ตสักถ้วยเป็นมื้อเช้า เพื่อให้น้ำตาลคงที่จนถึงกลางวัน

9. ลดรอยแดงด้วย "ชาเขียว"

สารต้านอนุมูลอิสระชื่อดังของชาเขียวอย่าง EGCG นอกจากจะดีต่อสุขภาพหัวใจและยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้แล้ว ในแง่ของผิวหนัง สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากรังสี UVA ลดการเกิดสิวด้วยการลดการสร้างความมันบนใบหน้า และยังลดเลือนรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบได้อีกด้วย

เลือก : ดื่มชาเขียววันละ 3-5 ถ้วยต่อวัน แต่ควรหยุดดื่มก่อนบ่ายสอง เพื่อไม่ให้คาเฟอีนไปรบกวนการนอนตอนกลางคืน

10. สยบจุดด่างดำด้วย "ถั่วเหลือง"

ถั่วเหลืองมีฤทธิ์ในการลดเลือนสีผิวไม่สม่ำเสมอ เช่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะมีแร่ธาตุและโปรตีนที่ออกฤทธิ์ควบคุมการสร้างเม็ดสีเมลานิน อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะถั่วชนิดนี้มีสารที่เรียกว่า ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเพศหญิง จึงช่วยลดการเกิดฝ้าที่มีสาเหตุมาจากฮอร์โมนได้

เลือก : ดื่มน้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาล หากจะดื่มแบบเป็นกล่องควรเลือกแบบน้ำตาลน้อย และไม่ผสมนมผง

ที่มา : lisaguru