ตรวจชิ้นส่วนราชรถเพื่อซ่อม
การส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยของกษัตริย์ในแผ่นดินนั้น นอกจากจะมีการสร้างพระเมรุมาศขึ้นแล้ว การเชิญพระมหาพิชัยราชรถ เป็นราชพาหนะเชิญพระบรมโกศสู่พระเมรุมาศตามราชประเพณีโบราณนั้นนับเป็นงานสำคัญยิ่ง ในครั้งแรกก่อนเชิญนั้นต้องตรวจและทำการบูรณะให้สามารถใช้งานได้ พิธีแรกที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา คือการจัดพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดย พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกรรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงดังกล่าวท่ามกลางผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี ซึ่งมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ วิบูลย์เวทย์บรมหงส์ พรหมพงศ์ พฤฒาจาริย์ หัวหน้าพราหมณ์หลวง กำหนดเวลาฤกษ์ ในวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2559 เวลา 14.49 น. นั้นเป็นมหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เป็น “บูรณฤกษ์”เหมาะสำหรับทำการมงคลต่างๆ เพื่อบวงสรวงเทพยดาและดวงวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราช และครูอาจารย์ที่ประสิทธิ์วิทยาการทุกสาขา
พระมหาเวชยันต์ราชรถ
ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่ราชรถ ราชยานทั้งหลายนั้นล้วนสร้างขึ้นแต่ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ที่ทรงโปรดให้สร้างพระมหาพิชัยราชรถขึ้นในปี พ.ศ.2338เพื่อเชิญพระบรมอัฐิของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (ทองดี) ออกถวายพระเพลิงณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง ในปี พ.ศ.2339ครั้งนั้นพระองค์ทรงโปรดให้สร้างเป็นราชรถขนาดใหญ่ตามรูปแบบพระราชประเพณีโบราณ ที่เคยมีมาครั้งอยุธยา คือ ราชรถมีขนาดสูง 1,120 เซนติเมตร ยาว 1,530 เซนติเมตร หลังจากนั้นเมื่อสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี สิ้นพระชนม์ ในพ.ศ.2342 ได้โปรดให้อัญเชิญพระโกศทรงบนพระมหาพิชัยราชรถออกพระเมรุอีกครั้ง และได้ใช้สืบเนื่องกันมาในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพพระมหากษัตริย์และพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายครั้ง
สำหรับพิธีการนั้นเมื่อประธานจุดธูปเทียนบูชาเครื่องสังเวยแล้ว พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณฯ ได้อ่านโองการบวงสรวงเทพยดาและดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชรำบวงสรวงจำนวน 9 คู่ โดยนักแสดงจากสำนักการสังคีต กรมศิลปากร จากนั้น ประธานฯ พรมน้ำอบที่เครื่องมือช่าง นายช่างนำข้าวตอกโปรยที่เครื่องมือประธานโปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวยก่อนจะเข้าสู่โรงราชรถ คล้องพวงมาลัยที่พระมหาพิชัยราชรถ เกรินบันไดนาค พระยานมาศสามลำคาน พระที่นั่งราเชนทรยาน พระวอสีวิกากาญจน์ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย ตามลำดับ
เศียรนาคและลายไม้จำหลักราชรถ
ตั้งแต่นี้ไปกรมศิลปากร กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ จะดำเนินงานบูรณะราชรถ 5 องค์ ประกอบด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย 3 องค์ เกรินบันไดนาค 2 เกริน พระยานมาศสามลำคาน 2 องค์ พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ พร้อมกับตรวจสอบสภาพโครงสร้างของราชรถ ระบบกลไก การเคลื่อนที่ และการชักลาก ให้มีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อให้งดงามและสมพระเกียรติยศ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ดังนั้นพิธีบวงสรวงจึงเป็นปฐมพิธีกรรมแห่งความเชื่อในราชประเพณีโบราณ ที่เห็นว่าการทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งให้บรรลุความสำเร็จหรือมีความเป็นสวัสดิมงคลแก่ตนเองนั้น ต้องบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนโดยมีพิธีบูชาพระรัตนตรัยและเทพเจ้าต่างๆ รวมถึงการถวายความนับถือพระมหากษัตริย์ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ วีรชน คนดีทั้งหลายให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย อันเป็นปฐมพิธีของการงานออกพระเมรุมาศที่จัดขึ้นตามราชประเพณีตามลำดับต่อไป
งานออกพระเมรุมาศในอดีต
นางรำ 9 คู่ ในพิธีบวงสรวง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี