เจดีย์วัดดุสิต
ในเดือนมิถุนายนนี้ มีวันสำคัญอันเนื่องจากสมเด็จพระปฐมบรมชนกนาก (ทองดี) แห่งสมเด็จพระปฐมกษัตย์ราชวงศ์จักรี ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็น “สมเด็จชนกาธิบดี” ดังนั้นการตามรอยเชื้อสายเจ้าพระยาโกษาปานถึงสมเด็จพระปฐมราชวงศ์จักรี ในโครงการทัศนศึกษา Agent & Media Fam Trip จึงเป็นโครงการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้จากสถานที่สำคัญโดยเฉพาะภูมิสถานที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ในกรุงศรีอยุธยา นอกจากภายในพระนครนั้นมีวัดขุนแสน อยู่ที่ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นถิ่นของกลุ่มมอญรุ่นแรกที่มีเรื่องราวในแผ่นดินพระมหาธรรมราชา ว่า “8 รอบครัวมอญ ซึ่งกวาดลงมานั้นก็พระราชทานให้พระยาราม พระยาเกียนควบคุมว่ากล่าวด้วย แลพระยาเกียนพระยารามนั้นให้อยู่ตำบลบ้านขมิ้นวัดขุนแสน” ซึ่งยังมีเจดีย์องค์ใหญ่อยู่แล้ว
ภูมิสถานแห่งนี้คือบรรพบุรุษของเจ้าพระยา โกษาธิบดี (ปาน) กล่าวคือพระยาเกียนมีลูกหลานสืบต่อมาจนถึงเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)ในแผ่นดินพระนารายณ์ ต่อมาลูกหลานคนหนึ่งได้รับราชการกับเจ้าพระยาพิษณุโลกเมื่อตอนเสียกรุงศรีอยุธยาได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระอักษรสุนทร เสมียนตรา พระอักษรเสมียนตรามีลูกหลานหลายคน คนที่ ๔ นั้นเป็นชาย ต่อมาได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระเจ้าอยู่หัวแผ่นดินต้นคือรัชกาลที่ ๑ และในเรื่องอภินิหารบรรพบุรุษมีความว่า “พระยาเกียนแม่ทัพมอญได้ติดตามพระนเรศวรเข้ามารับราชการกับไทย ลูกหลานคนหนึ่งของพระยาเกียนได้แต่งงานกับเจ้าแม่ดุสิตซึ่งเป็นพระนางที่มีตำแหน่งสูงในสำนักพระราชวัง เจ้าแม่ดุสิตมีบุตร ๓ คน คือ นายเหล็กผู้พี่ใหญ่ คนที่สองเป็นหญิงชื่อแช่ม ต่อมาเป็นท้าวศรีสุดารักษ์ คนที่สามชื่อนายปาน ซึ่งทุกวันนี้ยังมีวัดที่น่าสนใจอยู่นอกพระนครอันเกี่ยวข้องกับบรรพบุรุษคือวัดสมณโกฏฐาราม เป็นวัดสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น และปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยอยุธยาตอนปลายโดยเจ้าพระยาโกษา(เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษา (ปาน) ในสมัยพระนารายณ์มหาราช เพื่อให้เป็นวัดประจำตระกูล เดิมเรียกว่า “วัดพระยาพระคลัง”มีความระบุว่าพระเพทราชาเสด็จไปวัดสมณโกฏฐาราม ในคราวพระราชทานเพลิงศพเจ้าแม่ดุสิต ผู้เป็นมารดาของเจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก)และเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ซึ่งเป็นพระนมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปีพ.ศ.๒๒๓๓
ภายในวัดนี้ยังมีวิหารอยู่ทางทิศตะวันออกมีฐานปรางค์ขนาดใหญ่ล้อมด้วยระเบียงคดรูปสี่เหลี่ยม สำหรับวัดถัดไปเป็นวัดดุสิดารามสร้างเมื่อประมาณพ.ศ.๒๑๐๐ รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อพ.ศ.๒๑๑๐ หนังสือคำให้การชาวกรุงเก่าว่าวัดดุสิตมหานั้นเป็นวัดพระนเรศวรทรงสร้างสันนิษฐานว่า หมายถึงวัดดุสิดาราม ในพิธีพระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยานั้นมีชื่อ “พระนารถ” อยู่วัดดุสิตาราม เป็นพระราชาคณะรูปหนึ่ง จากทั้งหมด ๑๗ รูป ๑๗ วัด ในกรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา วัดนี้เป็นวัดที่เจ้าแม่วัดดุสิต ขัตติยะนารี บรรพบุรุษของราชวงศ์จักรี ผู้เป็นสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งราชสำนักสยามในแผ่นดินพระเจ้าปราสาททอง และเป็นแม่นมของพระนารายณ์ ตอนหลังได้เป็นท้าวสมศักดิ์มหาธาตรี เดิมชื่อหม่อมเจ้าหญิงบัว เดิมอาศัยอยู่ใกล้วัดดุสิต ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองดุสิตตรงส่วนที่ต่อกับคลองปากข้าวสาร ต่อมาพระนารายณ์สร้างวังมีตำหนักตึกที่ริมวัดดุสิดารามถวายพระแม่นมจึงเรียกกันมาว่า เจ้าแม่วัดดุสิต ปัจจุบันวัดนี้มีเจดีย์สูงใหญ่เช่นเดียวกับเจดีย์วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ศิลปะสมัยอยุธยาตอนกลาง ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ มีบันไดทางขึ้น-ลง โดยรอบมีเจดีย์บริวารทั้งสี่มุม ส่วนล่างของเจดีย์เป็นฐานรูปแปดเหลี่ยมลดหลั่นขึ้นไปรองรับมาลัยเถาด้านบนเป็นองค์ระฆัง ทรงเรียว ถัดขึ้นไปเป็นบัลลังก์ย่อมุมไม้สิบสอง รองรับเสาหานที่ล้อมรอบก้านฉัตร ถัดขึ้นไปเป็นปล้องไฉนและปลียอดได้รับการบูรณะ บริเวณวัดสมนโกฏฐารามที่ต่อไปถึงวัดดุสิดารามนั้นน่าจะเป็นภูมิสถานบรรพบุรุษของเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ในสมัยนั้น ซึ่งด้านหลังมีคลองออกสู่แม่น้ำลพบุรีซึ่งเป็นเส้นทางเดินทางไปยังเมืองลพบุรีก่อนสิ้นแผ่นดินพระนารายณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี