เขานางนอน
จากเหตุการณ์ทีมฟุตบอล “หมูป่าอคาเดมี”หายเข้าไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จนมีการระดมกำลังเข้าติดตามจนเป็นข่าวที่ทุกคนเอาใจช่วยนั้นอาทิตย์นี้ขอตามรอยภูมิประเทศถึงถ้ำหลวงสถานที่ลึกลับแห่งนี้ ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนนี้อยู่ในวนอุทยานในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอนตั้งอยู่ใน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงรายมีเนื้อที่ ๕,๐๐๐ ไร่ จัดตั้งเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๙ โดยกรมป่าไม้ ภูมิประเทศนั้นเป็นภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกติดต่อกัน มีความสูงโดยเฉลี่ย ๗๗๙ เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออกสำหรับถ้ำหลวงนั้น ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา เป็นถ้ำหินปูนกึ่งแห้งขนาดใหญ่ มีความยาวรวมทั้งสิ้น ๑๐,๓๑๖ เมตร (สำรวจโดย SMCC, BEC, Unsworth ระหว่างปีพ.ศ.๒๕๕๗-๒๕๕๙) ถือเป็นถ้ำที่มีเกล็ดหินสะท้อนแสง มีหินงอกหินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง แนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยวบางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำมีรอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น (ripple mark)ระดับพื้นถ้ำเก่า มีหินถล่มขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก มีรอยแตกแบบมีแรงดึง (tension crack) รอยระดับน้ำ หลุมยุบ โพรงเพดานถ้ำ และรอยแตกของผนัง ส่วนขุนน้ำนางนอน นั้นตั้งอยู่ที่บ้านจ้อง ต.โป่งผา อยู่ห่างจากถ้ำหลวง๒.๕ กิโลเมตร เป็นพื้นที่มีลำธารไหลออกมาจากรอยแยกของหินใต้ภูเขาหินปูน ซึ่งเมื่อทำฝายขนาดเล็กจะเป็นแอ่งน้ำขนาดพื้นที่ ๓ ไร่
ถ้ำหลวงและเขานางนอนนี้มีเรื่องเล่าว่ากาลนานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้ง ในแคว้นสิบสองปันนานั้น เจ้าหญิงองค์หนึ่งมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง แต่นางนั้นกลับแอบรักกับชายเลี้ยงม้า เป็นการผิดกฎโบราณราชประเพณีที่เจ้าหญิงจะลดตัวลงไปรักกับชายที่ต่ำศักดิ์กว่าไม่ได้ แต่ด้วยความรักที่มีต่อกันจึงทำให้ทั้งสองแอบรักกันมาจนเจ้าหญิงเกิดตั้งครรภ์ เกินกว่าที่จะปิดความต่อไปได้คนทั้งสองจึงหลบหนีตามกันมา เจ้าเมืองเชียงรุ้งรู้ก็โกรธจึงส่งทหารออกติดตาม คนทั้งสองพากันระหกระเหินเดินป่ามาจนถึงร่มไม้ในที่ราบแห่งหนึ่งริมน้ำโขง เจ้าหญิงซึ่งมีพระครรภ์ได้หลายเดือนเห็นว่านางเดินต่อไปไม่ไหว ประกอบกับความหิว และเหนื่อยอ่อน จึงขอหยุดพัก ชายหนุ่มให้นางรออยู่ที่แห่งนั้นแล้วตนเข้าป่าไปหาอาหารมาให้ อย่าได้ไปไหน แล้วชายหนุ่มก็เข้าป่าไปหาอาหารกองทหารเชียงรุ้ง ตามมาทันเห็นชายเลี้ยงม้าในป่าจึงเข้ารุมฟันแทงตายอยู่กับที่ ฝ่ายเจ้าหญิงรอชายคนรักอยู่จนเย็นมืดค่ำก็ไม่เห็นกลับมา ได้แต่ชะเง้อรอคอยอยู่นาน จนเห็นทหารของพระบิดาออกจากชายป่ามาล้อมเจ้าหญิง แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง เจ้าหญิงนั้นสังหรณ์ว่าชายคนรักน่าจะมีภัยเสียแน่แล้ว จึงแข็งใจถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารตอบว่าได้ฆ่าตายไปแล้ว ทำให้เจ้าหญิงเสียพระทัย กรรแสงร่ำไห้เกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น เมื่อได้สตินางเห็นว่าคนรักได้ตายไปแล้ว หากกลับนครเชียงรุ้งก็คงถูกอาญาลงโทษ อีกทั้งนางนั้นยังมีครรภ์กับชายเลี้ยงม้า ชาวเมืองจะดูแคลนนางอีกนางจึงตัดสินใจตั้งสัจจะอธิษฐานด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของนางนั้นจึงยอมตาย แล้วนางจึงดึงปิ่นปักผมออกมาแทงที่ขมับ จนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมาได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายส่วนพระวรกายของนางที่นอนตายเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือนั้นกลายเป็นดอยนางนอน อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนพระอุทรที่ทรงครรภ์อยู่เป็นดอยตุง ส่วนพระเศียรเป็นดอยท่า หรือดอยจ้อง พระถันเป็นดอยลูกหนึ่งเรียกว่าดอยแม่ย่า
อีกความในตำนานลาวจก จากพงศาวดารลาวเฉียงเล่าแตกต่างว่า ปู่เจ้าลาวจกเทวบุตรได้เงินลงมาจากสวรรค์ ต่อมาได้สร้างตุงใหญ่ขึ้นปักบนดอยจึงเรียกดอยนั้นว่าดอยตุง ส่วนดอยที่เกิดจากพระถันนั้น ยอดพระถันเป็นที่อยู่ของชายาปู่เจ้าลาวจก จึงเรียกว่าดอยแม่ย่า ส่วนดอยที่เกิดจากพระเศียร เป็นดอยที่ราชโอรสปู่เจ้าลาวจกคอยพ่อ จึงเรียกว่าดอยท่า ด้วยความลึกลับจากธรรมชาติจึงมีความเชื่อกันว่า ดอยทั้งสามในเทือกเขานางนอนนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของบรรพบุรุษแห่งราชวงศ์ลวจักราช ต้นราชวงศ์ของพญาเม็งรายก่อนที่จะเคลื่อนย้ายลงจากเขามาสร้างเมืองหิรัญนครเงินยาง ซึ่งเหนือดอยดินแดงนั้นได้สร้างพระธาตุดอยตุงไว้ ถือเป็นปฐมพระธาตุแห่งแรกของอาณาจักรล้านนา ชื่อเสียงของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนคงไม่หยุดแค่ตำนานนี้เท่านั้น
เหตุการณ์พลัดหลงในถ้ำลึกลับและอันตรายของทีมฟุตบอล “หมู่ป่าฯ” จึงเป็นปรากฏการณ์เสี่ยงชีวิตที่คนทั้งประเทศเอาใจช่วยและได้เห็นประสบการณ์ทำงานกู้ชีวิตที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี