ปรางค์สองพี่น้อง
การเดินทางสำรวจเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ในภาคเหนือ Familiarzation Trip นั้น เป็นโครงการเปิดประตูเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง๔ มรดกโลก เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนในประเทศไทย โดยสร้างเส้นทางความสนใจใคร่รู้ในแหล่งมรดกโลก ด้านประวัติศาสตร์ จากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ หลวงพระบาง อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา
อาทิตย์นี้จังหวัดเพชรบูรณ์โดยสำนักงานท่องและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้เริ่มโครงการดังกล่าวนั้นได้ชวนกันตามหาคุณค่าของภูมิสถานมรดกโลกทั้งสี่แห่ง โดยเริ่มต้นจากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญของเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งมีพื้นที่โบราณสถานของเมืองเก่าศรีเทพ อยู่ที่อำเภอศรีเทพ เดิมเรียกว่า “เมืองอภัยสาลี” ถูกค้นพบเมื่อครั้งสมเด็จฯ พระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์เมื่อ พ.ศ.๒๔๔๗-๘ และทรงเรียกเมืองนี้เสียใหม่ว่า “เมืองศรีเทพ” เมืองโบราณศรีเทพนี้มีลักษณะเป็นเมืองซ้อนเมืองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในแม่น้ำป่าสักเป็นชุมทางที่สามารถติดต่อกับชุมชนอื่นได้สะดวก จึงทำให้รับอิทธิพลศิลปวัฒนธรรมจากอาณาจักรข้างเคียง ได้แก่ ศิลปทวารวดี ศิลปะขอม เป็นต้น มาบูรณาการสิ่งก่อสร้างในเมืองนี้
เมืองนี้มีเนื้อที่ประมาณสองพันไร่เศษมีแนวกำแพงเมืองเป็นเนินดินล้อมรอบ และมีคูเมืองนอกกำแพง มีประตูเมืองสี่ทิศ ภายในเมืองมีปรางค์สมัยลพบุรีอยู่สององค์ เรียกปรางค์สองพี่น้อง ทางทิศเหนือนอกกำแพงเมืองออกไปนั้นมีสระน้ำสองแห่ง ชื่อสระแก้วและสระขวัญซึ่งถือเห็นแหล่งน้ำสำคัญที่เมืองศรีเทพได้ส่งน้ำจากสระทั้งสองนี้ เพื่อนำไปใช้ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ในพิธีมุรธาภิเษกและพิธีถือน้ำพิพัธสัจจา จากร่องรอยสถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่เกิดขึ้นจากโบราณสถานนั้น ประมาณว่าเมืองศรีเทพแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยที่ขอมครอบครองดินแดนแถบนี้ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๖ เมื่อ ๑,๐๐๐ ปีมาแล้ว และเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความเจริญสูงสุดทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพแห่งนี้ได้รับรางวัลThailand Tourism Award ประจำปี ๒๕๔๓ เป็นรางวัลประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโบราณสถานยอดเยี่ยมและรางวัลสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านอินเตอร์เนตดีเด่นที่สามารถค้นหาได้ง่าย กรมศิลปากรได้ดำเนินการ สำรวจ ขุดค้น ศึกษา และพัฒนาบรรดาโบราณสถานและโบราณวัตถุในเมืองศรีเทพมาตั้งแต่ปีพ.ศ.๒๕๒๑ จนปรากฏโบราณสถานที่น่าสนใจมากมายเช่น ปรางค์ศรีเทพ เป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะขอมหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ฐานล่างก่อด้วยศิลาแลงเป็นฐานบัวลูกฟัก เรือนธาตุก่อด้วยอิฐ
ในการขุดค้นบริเวณนี้พบชิ้นส่วนทับหลังรูปลายสลักราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ เป็นการสร้างเพิ่มขึ้นหลังจากโบราณสถานเขาคลังในต่อมาได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่แต่ยังไม่สำเร็จในพุทธศตวรรษที่๑๘ สระแก้ว อยู่นอกเมืองไปทิศเหนือ ส่วน สระขวัญ นั้นอยู่ในบริเวณเมืองส่วนนอก สระน้ำทั้งสองสระนี้มีน้ำขังตลอดปีปรางค์สองพี่น้อง เป็นปรางค์สององค์ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่สร้างราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกมีประตูทางเข้าทางเดียวและจากการขุดแต่งทางโบราณคดี ได้พบทับหลังที่มีจำหลักเป็นรูปพระอิศวรอุ้มนางปารวตี ประทับนั่งอยู่เหนือโคอุสุภราช ซึ่งลักษณะของทับหลังและเสาประดับกรอบประตูนั้นประมาณว่ามีอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนต่อมาได้สร้างปรางค์องค์เล็กเพิ่มพบร่องรอยการสร้างทับกำแพงแก้วที่ล้อมรอบปรางค์องค์ใหญ่อยู่ใต้ปรางค์องค์เล็ก โดยมีการก่อปิดทางขึ้นและเสริมทางด้านหน้าให้ยื่นออกมา พร้อมกับสร้างอาคารขนาดเล็กทางทิศเหนือเพิ่มขึ้น โบราณสถาน เขาคลังใน สร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๓ เป็นเทวสถานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุหลักฐานสร้างรูปปูนปั้นบุคคล และสัตว์ประดับเป็นศิลปะแบบทวารวดีเช่นเดียวกับโบราณสถานเมืองคูบัวราชบุรี โบราณสถานบ้านโคกไม้เดน นครสวรรค์และวัดนครโกษา ลพบุรี ด้านนอกเมืองยังมีโบราณสถานคลังนอก ที่เพิ่งบูรณะเสร็จแล้ว และกำลังสำรวจขุดแต่งเจดีย์บริวารอยู่ และเขาถมอรัตน์ สิ่งเคารพหนึ่งเดียวของเมืองศรีเทพคือ พระสุริยเทพ ซึ่งเป็นเทพสำคัญของเมืองโบราณแห่งนี้พบถึง ๔ องค์ จึงมีชื่อเรียกภายหลังว่า “ศรีเทพ” ของเมืองเพชบูรโบราณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี