ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ผ้าทอบ้านผาทั่ง’  ภูมิลายโบราณลาวภูคัง-ลาวครั่ง

ภูมิบ้าน ภูมิเมือง : ‘ผ้าทอบ้านผาทั่ง’ ภูมิลายโบราณลาวภูคัง-ลาวครั่ง

วันอาทิตย์ ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 06.00 น.

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทอดพระเนตรผ้าทอผาทั่ง

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ นั้นได้ทำให้การทอผ้าที่สืบต่อมาแต่โบราณนั้นได้รับความนิยมจนเป็นสินค้าพื้นถิ่นและมีช่างฝีมือสร้างชื่อเสียงในวงการผ้าทอของโลก หนึ่งในนั้น คือ สาวทอผ้าจากอุทัยธานีที่เคยเป็นปกหนังสืออนุสารอ.ส.ท. ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อพ.ศ. ๒๕๑๗ อาทิตย์นี้จึงออกตามรอยไปหาสาวช่างทอผู้นั้น คือ ทองลี้ ภูริผล สาวทอผ้าบ้านผาทั่งตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ที่ยังสืบทอดภูมิปัญญาการทอผ้าจากบรรพบุรุษ ผู้สืบเชื้อสายจากลาวเวียง คือกลุ่มที่เรียกว่าลาวเวียงนั้นสืบเนื่องจากพากันอพยพมาจากเวียงจันทน์ 


การทอผ้าของชาวลาวนั้นนิยมทอผ้าแบบมัดหมี่เช่นเดียวกับกลุ่มลาวภูคัง คือ มาจากเมืองภูคังในลาว ภายหลังเห็นว่านิยมย้อมสีแดงหรือผ้าทอมักมีสีแดงเป็นหลัก จึงถูกเรียกว่าลาวครั่ง จากความเข้าใจว่าย้อมจากสีแดงของครั่ง วิธีการทอผ้านั้นนิยมใช้ฝ้ายมาทำเป็นเส้นด้ายและมัดย้อมสีตามลายแบบโบราณ แล้วทอด้วยกี่กระตุกโดยมีผ้าแม่ลายเป็นต้นแบบในการทอผ้าให้ลายผ้าแบบบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมา   

วิธีการทอผ้านั้นใช้ด้ายเส้นยืนและด้ายเส้นพุ่งด้านเส้นยืนใช้สีแดง ส่วนด้ายเส้นพุ่งนั้นในการทอลวดลายจกนิยมใช้สีเหลืองเป็นสีหลัก ส่วนสีอื่นๆ เป็นองค์ประกอบมีสีส้มหมากสุก สีขาว สีดำ และสีเขียว ผ้าหนึ่งผืนจะมีเพียง ๕ สีเท่านั้น ลาวครั่งมีความชำนาญในการใช้สีโทนตรงข้ามและขัดแย้งมาอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนจึงทำให้งดงาม สำหรับผ้าทอผู้สูงอายุนั้นมักจะใช้สีดำแทนสีแดงทั้งด้ายเส้นยืนและเส้นพุ่ง ซึ่งใช้เพียง ๕ สีเช่นเดียวกัน ลายจกส่วนใหญ่นั้นจะเป็นลายเรขาคณิตขนาดใหญ่ เช่น ลายข้าวหลามตัด ลายสี่เหลี่ยมผืนผ้าลายสามเหลี่ยม เป็นต้น ผ้าทอนั้นจะมีลักษณะลายผสมที่นำลายเล็กๆ คือ ขิดหน่วยขิดดอก และขิดขอ มาออกแบบผสมกัน การทอตีนซิ่นจกนั้นจะเว้นส่วนปลายของซิ่นไว้เป็นสีพื้นแดงหรือดำแล้วแต่ชนิดของซิ่นและทอปลายสุดด้วยแถบ สีเหลืองหรือสีเขียว

ทองลี้ ภูริผล ช่างทอผ้าบ้านผาทั่งนั้นได้ให้ความสำคัญต่ออาชีพทอผ้ามาแต่ยังสาวซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของบ้านผาทั่ง ต่อมา ทองลี้ ภูมิผล ได้รวบรวมกลุ่มสตรีเกษตรกร เพื่อใช้เวลาว่างจากงานหลักที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้วให้มีรายได้เพิ่ม ตั้งเป็นกลุ่มสตรีผ้าไหมไทยในโครงการพระราชดำริเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๘ ซึ่งทำการผลิตสิ่งทอโดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศและทำออกจำหน่ายในรูปสิ่งทอผ้าไหม เสื้อผ้า งานจักสาน ฯลฯโดยเฉพาะ “ผ้าฝ้ายทอมือ” นั้น ได้ตัดเย็บเป็นชุดสำหรับสวมใส่จนได้รับความนิยม และพัฒนารูปแบบสำหรับการใช้ในงานต่างๆ จนเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มผ้าทอบ้านผาทั่ง เปลี่ยนจากการทอผ้าเพื่อใช้ในครัวเรือนมาเป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านผาทั่ง เพื่อการอนุรักษ์ศิลป์การทอผ้าโบราณและเพื่อเป็นการอนุรักษ์ทอผ้าโบราณเพื่อเสริมรายได้ของชาวบ้าน ซึ่งในปี พ.ศ.๒๕๒๔ จัดตั้ง “ศูนย์ผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่ง” ขึ้น และได้รวบรวมผ้าทอซึ่งเป็นผลงานจากสมาชิกมาจัดจำหน่ายมากมาย พร้อมกับการสร้างสรรค์ผ้าทอหลายรูปแบบให้งดงาม โดยยังมีกระบวนการผลิตตั้งแต่ปลูกฝ้ายวัตถุดิบไปจนถึงการทอผ้า เมื่อฝ้ายออกดอกก็เก็บมาลิ่วเอาเมล็ดฝ้ายออก นำมาดีดให้ฟูแล้วหล่อให้เป็นหลอดยาวประมาณ ๑ ฟุต จากนั้นนำมาปั่นเป็นเส้นด้าย จากนั้นนำด้ายไปย้อมด้วยสีธรรมชาติ เช่น สีแดงใช้เปลือกไม้ประดู่ สีเหลืองใช้แก่นขนุน สีเขียวใช้ใบสัก หรือใบเตยสีกรมท่า หรือสีดำใช้ต้นคราม จากนั้นนำไปตากให้แห้งเพื่อนำไปทอ และใช้เวลาทอผ้าผืนหนึ่งประมาณ ๑-๒ เดือน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายโบราณ สำหรับผลงานที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกนั้นคือชุดเครื่องนอนก่อนแต่งงาน เป็นผ้าฝ้าย ทอมือผ่านกรรมวิธีการย้อมสีโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น ลวดลายที่ถักผ้าทอเป็นผืนผ้าแต่ละชิ้นใช้ลายพญานาคว่ายน้ำ ซึ่งเป็นลายที่ยากที่สุด    

ปัจจุบันผลงานผ้าทอลายโบราณบ้านผาทั่งแห่งนี้ได้รับความนิยมและจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ ปัจจุบันสามารถเข้าชมตัวอย่างลายผ้าโบราณ ๒๐๐ ปี ได้ที่ “กลุ่มผ้าทอบ้านผาทั่ง” โทร.056-539157, 089-2709683จัดเป็นแหล่งเรียนรู้สู่ภูมิปัญญาผ้าทอลายโบราณของอุทัยธานี

ทองลี้ ภูริผล ช่างทอฝีมือรางวัลยูเนสโก
ทองลี้ ภูริผล ช่างทอฝีมือรางวัลยูเนสโก
ลายโบราณผาทั่ง
ลายโบราณผาทั่ง
ลายช้างสามเศียร อายุ ๒๐๐ ปี
ลายช้างสามเศียร อายุ ๒๐๐ ปี
ผู้สืบทอดทอผ้าลายโบราณผาทั่ง
ผู้สืบทอดทอผ้าลายโบราณผาทั่ง
ประเพณีต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ประเพณีต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ทองลี้ ภูริผล ปกอนุสาร อ.ส.ท. ๒๕๑๗
ทองลี้ ภูริผล ปกอนุสาร อ.ส.ท. ๒๕๑๗

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top