พระพุทธเจ้าเปิดโลก
วันออกพรรษาที่ผ่านมา ทุกวัดส่วนใหญ่จะงานประเพณีตักบาตรเทโว ซึ่งมีชื่อเรียกแตกต่างกันเช่น ตักบาตรเขาวงกต ตักบาตรดอกไม้ ตักบาตรออกพรรษา ตักบาตรพระร้อย งานบุญตักบาตรนี้ยึดถือจากพุทธตำนานว่า เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศนาพระอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดาซึ่งจุติเป็นเทพบุตรแล้ว พระพุทธองค์เสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ โดยเสด็จดำเนินลงบันไดเนรมิตที่ทอดยาวจากเทวโลกจนถึงมนุษย์โลกนั้น บันไดนั้นอยู่ที่ภูเขาพระสิเนรุปลายบันไดนั้นมาอยู่ที่เมืองสังกัสสะหรือสังกัสนคร บันทึกฝ่ายเถรวาทกล่าวว่า บันไดขวาเป็นบันไดทองของเทพบันไดซ้ายเป็นบันไดเงินของพรหม บันไดกลางเป็นแก้วมณีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทรงกระทำปาฏิหาริย์โลกทั้งสามภูมิให้เปิดออกเห็นกันและกันจากพรหมโลกจนถึงนรกอเวจี
บันทึกของพระฝาเสี่ยนฝ่ายมหายาน กล่าวว่าบันไดของเทพทำด้วยทองเหลือบม่วง (น่าจะเป็นนาก)บันไดของพรหมเป็นเงิน บันไดของพระพุทธองค์เป็นสัปตรัตนะ คือ แก้ว ๗ ประการ เมื่อลงมาถึงมนุษย์โลก พระองค์ทรงประทับพระบาทเบื้องขวา ซึ่งพระฝาเสี่ยนบันทึกอีกว่า เมื่อเสด็จถึงพื้นโลกแล้ว บันไดอันตรธานหายไปเหลือเพียง ๗ ขั้น
เสด็จจากดาวดึงส์
ต่อมาพระเจ้าอโศกปรารถนาจะเห็นปลายบันได ทรงสั่งให้ขุดลงไปถึงปลายก็ไม่พบปลายบันไดพบแต่น้ำพุสีเหลือง จึงเกิดศรัทธาสร้างวิหารครอบไว้ แล้วตั้งเสารูปสิงโต ในรูปจริงดูแล้วเป็นหัวช้างมากกว่า หัวเสาอโศกรูปช้างที่เมืองสังกัสสะนี้มีอายุราว ๓๐๐ ปี ก่อนคริสตกาล หรือ ๒,๒๐๐ ปี เชื่อว่าพระเจ้าอโศกทรงตั้งเสาขึ้นเมื่อเป็นหมุดหมายประกาศความสำคัญของเมืองสังกัสสะ ให้เป็นเมืองที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จลงจากดาวดึงส์ หลังจากที่พระองค์เสด็จไปจำพรรษาที่ ๗ หลังการตรัสรู้ ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงแสดงพระอภิธรรมปิฎกโปรดเทพบุตรพระพุทธมารดา เพื่อทดแทนพระคุณที่ให้กำเนิดมาจนเป็นคติธรรมในพุทธศาสนาว่า ไม่มีอะไรที่จะทดแทนพระคุณบิดรมารดาได้ดีเท่ากับชักนำท่านเข้าสู่ธรรม
เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ในคัมภีร์สังคีติกถา กล่าวว่าการแสดงธรรมคราวนั้นมี ๗ รอบ ได้แก่ รอบที่ ๑ เทศนาธรรมสังคณี๑๒ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๗ โกฏิ รอบที่ ๒ ทรง เทศนาวิภังค์ ๑๒ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๗ โกฏิรอบที่ ๓ ทรงเทศนาธาตุกถา ๖ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๖ โกฏิรอบที่ ๔ ทรงเทศนาปุคคลบัญญัติ ๖ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล๖ โกฏิ รอบที่ ๕ ทรงเทศนากถาวัตถุ ๑๓ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๗ โกฏิ รอบที่ ๖ ทรงเทศนายมก ๑๘ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๗ โกฏิและรอบที่ ๗ ทรงเทศนามหาปัฎฐาน ๒๓ วัน เทวดาบรรลุมรรคผล ๒๐ โกฏิรวมแล้วสามเดือนมีเทวดาบรรลุธรรม ๘๐ โกฎิ เทพบุตรพระสิริมหามายา พระมารดาจึงตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล เมื่อจบการแสดงธรรมแต่ละรอบ พระพุทธองค์จะเสด็จมาสอนพระสารีบุตร พระสารีบุตรจะสอนบรรดาศิษย์ในสำนัก และจดจำกันมาเป็นอภิธรรมทั้ง ๗ คัมภีร์ ตกทอดมาถึงทุกวันนี้
ทรงโปรดเทพบุตรพระพุทธมารดา
เมื่อครั้งที่นักบวชศาสนาอื่นมากล่าวว่าเขตวิหารนั้นเป็นของตนจึงเถียงกับภิกษุในพุทธศาสนาต่างเถียงกันไม่จบจึงพากันไปสาบานต่อหน้าวิหารว่า หากที่นี่เป็นของพุทธศาสนาแล้ว ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ พอสิ้นคำ ช้างบนหัวเสานั้น ก็ร้องคำรามขึ้น ทำให้นักบวชนอกศาสนาเกิดความกลัว จึงยอมถอยไป ส่วนบันไดนั้นต่อมามีผู้สร้างด้วยอิฐและหินเป็นที่รำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ เมื่อพระถังซำจั๋งเดินทางมาถึงเมืองสังกัสสะเมื่อศตวรรษที่ ๗ ได้บันทึกว่าบันไดนั้นยังอยู่แต่จมแผ่นดินไปเกือบหมดแล้ว
ภาพพุทธตำนานเสด็จจากดาวดึงส์
สำหรับประเพณีตักบาตรเทโวในประเทศไทยนั้นแม้จะมีภูมิสถานครั้งแรกตามพุทธตำนานที่สร้างวัดตะพานหิน เมืองสุโขทัย ไว้บนเขาหรือสร้างมณฑปพระพุทธบาท สระบุรี ในสมัยอยุธยา ซึ่งมีประเพณีขึ้นเขาไหว้พระและตักบาตรเทโวอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ชัดเจนตามพุทธตำนานเท่าการสร้างภูมิสถานของการเสด็จจากดาวดึงส์และประเพณีตักบาตรเทโวของเมืองอุทัยธานี ที่สร้างวัดสังกัสรัตนคีรีให้เป็นเมืองสังกัสนครและสร้างมณฑปสิริมายากุฎาคารบนยอดเขาแก้วเป็นเจดีย์จุฬามณีบนดาวดึงส์ เพื่อจำลองเหตุการณ์งานบุญครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้้นดาวดึงส์ และแสดงปาฏิหาริย์เปิดโลกไว้ที่เมืองนี้ ครั้งพุทธกาลนั้นด้านล่างนั้้นมีหมู่พุทธสาวก กษัตริย์ทั้้ง ๗ เมือง และพุทธบริษัท มาเฝ้ารอรับพระพุทธเจ้าที่เมืองสังกัสนคร ระหว่างรอนั้้นกษัตริย์ พุทธบริษัทได้จัดสิ่งของถวายพุทธสาวกที่เฝ้ารอการเสด็จกับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นการเกิดมหาสังฆทานครั้้งแรกของโลก งานตักบาตรเทโวเมืองอุทัยธานีจึงเป็นปฐมภูมิจำลองเหตุการณ์ครั้งสำคัญของพุทธกาลแห่งเดียวของแผ่นดินนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี