ทุกต้นเดือนเมษายน คนไทยเชื้อสายไทยใหญ่ หรือไต ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีงานบุญที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่ง คือ งานบวชลูกแก้ว หรือบวชเณร เรียกตามภาษาพื้นถิ่นคือ ปอยส่างลอง
ปอย แปลว่า งาน ส่วนส่าง สันนิษฐานว่าน่าจะเพี้ยนมาจาก สาง หรือ ขุนสาง หมายถึงพระพรหม และอีกความหมายคือ เจ้าส่าง หมายถึง สามเณร ส่วนคำว่าลอง มาจากคำว่าอลอง แปลว่าพระโพธิสัตว์ รวมความแล้ว ปอยส่างลองคืองานบวชลูกแก้วของชาวไทยใหญ่
งานนี้ถือเป็นการแสดงออกซึ่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของคนไต โดยได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษว่า กุลบุตรจะต้องได้บวชเรียนในพุทธศาสนา ดังนั้นงานนี้จึงถือเป็นการทำบุญครั้งสำคัญของครอบครัว พ่อแม่ปู่ย่าตายาย และบรรดาญาติพี่น้องจะร่วมกันจัดงานให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติ ซึ่งตามความเชื่อคือการสละเงินเพื่อทำบุญทำกุศล ในสมัยโบราณงานนี้จัดกันเป็นเวลาหลายวัน อาจจะยาวนานถึง 15 วัน สำหรับบ้านที่มีฐานะเศรษฐกิจดีมากๆ แต่ถ้าหากบ้านใดมีลูกชาย แต่สถานะเศรษฐกิจไม่ดี ก็จะมีผู้เสนอตัวช่วยจัดงานบวชลูกแก้วให้ เพราะถือได้ว่าเป็นการทำบุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งการเช่นนี้นับได้ว่าเป็นการสร้างความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นระหว่างสองครอบครัว เนื่องจากเมื่อฝ่ายหนึ่งรับเป็นเจ้าภาพบวชเณรให้แล้ว (ในบางกรณีก็บวชพระให้) ดังนั้นเณรหรือพระจะต้องให้ความเคารพผู้ที่ช่วยออกเงินเพื่อจัดงานบวชให้ว่าเป็นเสมือนพ่อแม่บังเกิดเกล้าด้วย ซึ่งพ่อแม่ที่ช่วยจัดงานบวชให้ก็จะต้องให้ความช่วยเหลือพระและเณรตลอดไป แต่ที่มากกว่านั้นคือ ครอบครัวทั้งสองจะแปรสภาพเป็นเสมือนญาติสนิทกันในที่สุด
ในระยะหลังๆ นี้ ปอยส่างลองจะจัดทั้งหมด3 วัน ในปีจัดงานตั้งแต่ 28-30 มีนาคม สำหรับงานครั้งนี้จัดที่วัดผาบ่องใต้ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีลูกแก้วร่วมบรรพชา หรือบวชเณรรวม 33 คน และยังมีผู้อุปสมบทอีก 4 คน
งานจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ ประมาณ ตี 4 หลังจากลูกแก้วโกนหัวเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นก่อนวันงานจริง ครั้นถึงเวลา 4 นาฬิกา พ่อแม่ญาติพี่น้องก็จะพาลูกแก้วไปยังศาลาการเปรียญของวัด เพื่อแต่งหน้า แต่งองค์ทรงเครื่อง ให้ลูกแก้วงดงามราวกับเป็นเทพบุตรน้อย ตามความเชื่อของชาวไตที่ต้องแต่งกายลูกแก้วให้งดงามก็เนื่องมาจากเป็นการเลียนแบบเหตุการณ์ในพุทธประวัติช่วงที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระประยูรญาติในกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อพระนางพิมพา (พระมเหสี) ทรงทราบเรื่องจึงแต่งองค์ทรงเครื่องให้พระราหุลกุมาร แล้วทรงสั่งให้ไปทูลขอพระราชทานราชสมบัติจากพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสกับพระราหุลว่าราชสมบัติเป็นเพียงโลกียสมบัติ ไม่มีความจีรังยั่งยืน แต่สิ่งที่พระองค์พระราชทานให้พระราหุลคืออริยทรัพย์ แล้วจึงตรัสให้ทำพิธีบรรพชาพระราหุลกุมารแทน
ปอยส่างลองเป็นทั้งเทศกาลแห่งการทำกุศลใหญ่ และเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง ดังนั้นจึงพบว่ามีชาวบ้านพร้อมใจไปร่วมงาน ทุกคนแต่งกายด้วยชุดประจำชนเผ่า หรือชุดพื้นเมือง มีการร้องรำทำเพลงตามแบบฉบับของกลุ่มชนของตน ดังนั้นในงานนี้จึงเท่ากับเป็นการแสดงวัฒนธรรมการแต่งกายของชาวไตและชาวพื้นเมือง รวมถึงคนไทยภูเขาเผ่าต่างๆในแม่ฮ่องสอน ที่ทำให้งานมีความงดงามจากสีสันของเครื่องแต่งกายอย่างน่าอัศจรรย์
สำหรับตัวของลูกแก้วที่ได้รับการแต่งองค์ทรงเครื่องแล้วจะไม่สามารถลงไปเหยียบบนพื้นดินได้อีกต่อไป เพราะถือได้ว่าเป็นเสมือนราชบุตรของกษัตริย์ ดังนั้นจึงจะต้องอยู่บนคอของผู้ที่ให้การ
รับใช้หรือคอยแบกหามตลอดเวลา
เทศกาลปอยส่างลองนับเป็นเทศกาลแห่งศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นเทศกาลแห่งสีสันของชาวไตในแม่ฮ่องสอนโดยแท้ หลายคนที่มีโอกาสไปร่วมงานนี้จะมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เสียงหัวเราะ และความอิ่มเอมใจที่ได้ร่วมบุญร่วมกุศล บางคนแม้จะไม่ใช่ญาติพี่น้องกับลูกแก้วก็ร่วมกับบริจาคเงินเพื่อทำบุญ เพราะถือได้ว่าเป็นการร่วมจรรโลงพระพุทธศาสนา
สำหรับคุณๆ ที่ต้องการจะไปร่วมงานปอยส่างลอย (ในปีหน้า) กับ Mr.Flower เพื่อไปชมงานนี้ และไปชมความงามของแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ในแม่ฮ่องสอน โปรดติดต่อได้ที่ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี