ยุวชนทั้ง 12 คนที่จะเข้าสู่พิธีบรรพชา โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปีที่ 8
สวนโมกข์ (วัดธารน้ำไหล) จ.สุราษฎร์ธานี มรดกสืบทอดแห่งธรรมสถานและหลักธรรมคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ คือจุดหมายแห่งการสัญจรครั้งแรกสู่ภาคใต้ของโครงการสามเณรปลูกปัญญาธรรม ปีที่ 8 ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มทรู ได้สานต่อความสำเร็จของรายการเรียลิตี้ธรรมะดูสนุกรายการแรกของไทยมาอย่างต่อเนื่อง จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 5,200 คนทั่วประเทศ ได้คัดเลือกตัวแทนเยาวชนว่าที่สามเณรน้อยเหลือเพียง 12 คน พร้อมที่จะเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน ระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ในวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2562 นี้ ภายใต้การดูแลของพระอาจารย์ใหญ่ พระภาวนาโพธิคุณ (พระอาจารย์โพธิ์ จนฺทสโร) เจ้าอาวาส วัดธารน้ำไหล
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์และประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ตั้งใจจัดขึ้น เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกทั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 67 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2562 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2562 โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรสำหรับพระอุปัชฌาย์ในพิธีบรรพชามาอย่างต่อเนื่อง และมีความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นที่ สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ประทานพระคติธรรมในโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม
โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม ปีที่ 8 ยังคงเปิดห้องเรียนธรรมะ ด้วยแนวคิด “ความรักจักรวาล” โดย 4 ข้อที่ยุวชนจะได้เรียนรู้นั้น เริ่มจาก
รัก คือความกตัญญู ความรู้ถึงสุขทุกข์ของบุพการี เรียน หมายถึงการได้รับคำสอน ฝึกปฏิบัติ รู้จักตั้งคำถามของเด็กที่มองทุกอย่างเป็นเรื่องแปลกใหม่ การปลูกฝังหลักธรรมในยุวชนจะทำให้เกิดการคิด อยากรู้อยากเห็น อันนำไปสู่การกระทำและการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีรากฐานที่แข็งแรง และยืนอยู่บนสัจธรรม ความเพียร คือการที่สามเณรได้เรียนผิดเรียนถูก โดยยังมีความมุมานะ ปฏิบัติตนอย่างมีสติและจะได้เรียนรู้ว่าถ้ามีสติตลอดเวลา อยู่กับปัจจุบัน ก็จะสามารถจัดการความรู้สึกของตนเอง ทำให้บรรลุถึงเป้าหมายที่มีความสุขมากขึ้น ทุกข์น้อยลง และ การให้ ถือเป็นเป้าหมายสูงสุด อันนำไปสู่ความเมตตาพร้อมที่จะละในสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์
การดำเนินรายการปีนี้ จะสอดแทรกอีก 2 ประการเพิ่มเติม จาก รัก-เรียน-เพียร-ให้ ในแต่ละสัปดาห์ คือการทำสมาธิ หรือการเจริญสติ ซึ่งจะมีวิธีการและรูปแบบแตกต่างกันออกไป รวมถึงการถ่ายทอดมรรค 8 โดยเฉพาะการไปถึงจุดที่เรียกว่า “ละ” มีมรรค 8 เป็นแนวทางสู่นิพพาน พระพุทธเจ้าได้ให้คำสอนเรื่องมรรค 8 ซึ่งเป็นแนวทางที่จะไปถึงจุดที่เราสามารถ “ละ” และอยู่บนพื้นฐานของความเมตตาได้อย่างต่อเนื่อง เข้าใจว่าชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาที่มีขึ้นลง เกิด แก่ เจ็บ ตาย เข้าใจว่าความเมตตาเป็นจุดเชื่อมโยง ทำให้เราเห็นความเป็นจริงว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด ทุกสรรพสิ่ง แทนที่ทั้งหมดจะเป็นส่วนหนึ่งของเรา อีกทั้ง ความพิเศษของโครงการในปีนี้ เหล่าสามเณรน้อยจะได้มีโอกาสเรียนรู้ และผลิตสื่อธรรมะด้วยตัวเอง อันเป็นการต่อยอดและสืบทอดแนวทางท่านพุทธทาสภิกขุ ซึ่งเป็นที่เคารพยิ่งและรู้จักกันดีถึงแนวทางการเผยแพร่พุทธธรรมที่มีเอกลักษณ์ โดยการใช้นวัตกรรมสื่อธรรมะอย่างสร้างสรรค์
น้องคิด-ด.ช.ฟีนิกซ์ แชร์ฟ อายุ 10 ปี ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน จากจังหวัดจันทบุรี 1 ใน 12 ยุวชนที่ได้เข้าร่วมบรรพชาปีนี้ เล่าว่า “ติดตามรายการธรรมะเรียลิตี้ สามเณรปลูกปัญญาธรรม มาตั้งแต่ปีที่ 5 และอยากเข้าร่วมมาตลอด พอปีนี้มีพี่ๆ ไปแจ้งโครงการที่โรงเรียน ก็เลยสมัครทันที แล้วมาขออนุญาตแม่ และแม่ก็สนับสนุน จึงได้เขียนเรียงความและส่งคลิปวีดีโอเข้ามา และคิดว่าที่ได้รับการคัดเลือก น่าจะเป็นเพราะให้สัญญาว่าจะเป็นสามเณรที่ดีและไม่ทำให้ทางโครงการผิดหวัง นี่จะเป็นครั้งแรกของผมที่ไม่ได้อยู่กับแม่ อยู่ไกลบ้าน แต่เชื่อว่าทำได้ อยากให้ทุกคนได้ติดตามและเรียนรู้ธรรมะไปพร้อมกับพวกผม”
เช่นเดียวกับ น้องเชฟ-ด.ช.ศิรพัชร์ สวัสดิ์สิริเดช อายุ 9 ปี ว่าที่สามเณรน้อยจากจังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า “ดีใจมากที่ได้รับคัดเลือก เพราะก่อนหน้านี้ได้ไปงานบวช ทำบุญ ฟังธรรม ตักบาตร ครั้งนี้ต้องบวช 1 เดือน แต่มั่นใจมากว่าจะทำได้ และจะได้ประโยชน์มากมายมาปรับใช้ในชีวิต ทั้งการฝึกสติ สมาธิ และยังได้พบกับพระอาจารย์ พระพี่เลี้ยง เพื่อนใหม่ๆ และพี่ๆ ในโครงการ ที่คอยดูแลอย่างดี และจากการที่เคยได้ไปเข้าค่ายปลูกปัญญาธรรม 3 วัน 2 คืน ทำให้ได้เรียนรู้กิจวัตรประจำวันของสามเณร และได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่พัฒนาตนเอง โดยเฉพาะเรียนรู้ธรรมะ หลักธรรมคำสอน”
ด้านคุณพ่อณรงค์ และ คุณแม่สายพิมพ์ เศรษฐวรากร ของน้องนะโม-ด.ช.กฤษิกร เศรษฐวรากร อายุ 7 ปี จากจังหวัดลำพูน เล่าว่า “ดีใจที่น้องสมัครและได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ เพราะด้วยความที่น้องยังเด็กมาก และเราอยู่กัน3 คน พ่อแม่ลูก ก็กังวลว่าน้องมาบวชไกล และเป็นการบวชสามเณรด้วย เขาจะอยู่ได้หรือไม่ แต่ลูกยืนยันหนักแน่นว่าอยู่ได้ พ่อแม่ก็เบาใจ และปลื้มใจที่ลูกอยากบวชให้พ่อแม่ได้บุญ ดังนั้น ช่วงที่น้องบวชเป็นสามเณร ถ้ามีโอกาสจะมาตักบาตรให้ได้ เพราะจากลำพูนมาสุราษฎร์ธานี ก็เป็นระยะทางที่ไกล และพ่อกับแม่ก็ต้องทำงาน อย่างไรก็ตาม การบวชครั้งนี้ หวังว่าน้องจะมีความสงบนิ่งมากขึ้น ไม่ซน ได้เรียนรู้ประสบการณ์ทางธรรม ได้พื้นฐานการนั่งสมาธิ การฝึกสติเพื่อเป็นรากฐานให้เขาต่อไป อยากให้มีการจัดโครงการแบบนี้ตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้และเข้าใจหลักธรรมคำสอนทางศาสนา
คุณแม่วรัญญาภรณ์ เพชรโกษาชาติ ของน้องเจ้านาย-ด.ช.ปุญญพัฒน์ เพชรโกษาชาติ อายุ 7 ปี เจ้าถิ่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าว่า “ตอนลูกมาบอกว่าสมัครบวชสามเณร ก็คิดว่าเป็นการบวชกับโรงเรียน จนลูกบอกว่าได้รับคัดเลือกและต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ พอไปดูรายละเอียดโครงการ ก็ตื้นตันมาก เพราะที่ลูกจะได้เข้าร่วมนั้นเป็นโครงการใหญ่และจัดต่อเนื่องมาหลายปี บอกลูกว่าลูกโชคดีมากที่จะได้ทำบุญยิ่งใหญ่ให้แก่พ่อแม่ ซึ่งตั้งใจแล้วว่าหลังจากที่ลูกบวช จะมาตักบาตรทุกสัปดาห์ และจะติดตามรายการเพื่อเรียนรู้ธรรมะไปพร้อมกับลูก ซึ่งหลักธรรมผ่านคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี สามเณรปลูกปัญญาธรรม เป็นโครงการที่ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้เด็กได้เรียนรู้ธรรมะ พัฒนาคุณภาพชีวิตและจิตใจได้เป็นอย่างดี”
สามารถตามติดยุวชนทั้ง 12 คน เมื่อเป็นสามเณรน้อย ได้ตั้งแต่ 19 เมษายน-19 พฤษภาคมนี้ รวมทั้งร่วมอนุโมทนาบุญในพิธีบรรพชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2562 ทางช่องเรียลิตี้ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 60, 99และช่องเรียลิตี้ เอชดี ทรูวิชั่นส์ ช่อง 119 หรือ 333 หรือทางออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่นTrueID หรือ www.trueplookpanya.com/truelittlemonk พร้อมรับชมช่วงไฮไลต์ประจำวันที่จะออกอากาศทาง ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และช่องทรูปลูกปัญญา (ทรูวิชั่นส์ 37, PSI 248) รวมทั้งติดตามข่าวสารได้ทาง www.facebook.com/truelittlemonkthailand
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี