ใครๆ ก็รู้ว่า “ตับ” เป็นอวัยวะสำคัญที่มีบทบาทในกระบวนการทำงานของร่างกายเพื่อให้ดำรงชีวิตได้เป็นปกติ ทำหน้าที่คัดกรองสิ่งต่างๆ ในร่างกายและปรับสภาพให้เหมาะสำหรับการใช้งานในแต่ละอวัยวะ รวมทั้งเป็นแหล่งเก็บสะสมพลังงานสำรองของร่างกายด้วย ข้อมูลจาก ผศ.นพ.สยาม ศิรินธรปัญญา กลุ่มงานอายุรศาสตร์ รพ.ราชวิถี เปิดเผยว่าถ้าตับมีความผิดปกติย่อมส่งผลร้ายต่อร่างกาย ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุได้หลายประการได้แก่ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ แบคทีเรีย เชื้อรา สารเคมีหรือสารพิษต่างๆ รวมถึง แอลกอฮอล์และภาวะไขมันพอกตับ ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเฉียบพลัน ตับอักเสบเรื้อรัง ตับแข็ง และภาวะแทรกซ้อนรวมถึงมะเร็งตับ เป็นต้น
หน้าที่สำคัญๆ ของ “ตับ” ที่ช่วยให้เราดำรงชีวิตได้เป็นปกติ คือ
1.เป็นแหล่งเก็บสะสมพลังงานของร่างกายและเปลี่ยนแปลงสารอาหารที่สะสมไว้มาเป็นพลังงานในการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น เปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาล เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานเพื่อให้เซลล์ต่างๆ นำไปตามความต้องการของร่างกาย
2.ทำลายสารพิษต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญของร่างกายหรือจากสิ่งที่เรานำเข้าสู่ร่างกาย
3.สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น
4.สังเคราะห์โปรตีนซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นในร่างกาย
ปัจจุบัน “ไขมันพอกตับ” ถือว่าเป็นโรคตับที่พบมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะประเทศในแถบอเมริกาและยุโรปซึ่งมีคนอ้วนจำนวนมาก สำหรับในเอเชียรวมทั้งประเทศไทยแม้ขณะนี้จะมีจำนวนผู้ป่วยน้อยกว่าฝรั่ง แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีข้อมูลจากการศึกษาต่างๆพบว่า ผู้ป่วยเบาหวาน 100 คน เป็นไขมันพอกตับประมาณ 50-70 คน ผู้ป่วยโรคอ้วน100 คน พบภาวะไขมันพอกตับถึง 40-90 คน แต่ทั้งนี้ ภาวะไขมันพอกตับเปรียบเสมือนภัยเงียบที่ค่อยๆ ทำร้ายร่างกายเราโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุของการเกิดไขมันพอกตับ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1.ภาวะไขมันพอกตับจากการดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและเป็นเวลานาน ทำให้เกิดอันตรายต่อโดยเกิดการสะสมของไขมันที่ตับ ตับอักเสบเฉียบพลันและเรื้อรัง ตับแข็งและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
2.ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง จนทำให้เกิดไขมันจำนวนมากสะสมอยู่ที่ตับ
ไขมันพอกตับ เป็นภาวะที่ไขมันเข้าไปแทรกที่เซลล์ของตับ ซึ่งหากสะสมมากกว่า 5-10% ของน้ำหนักตับ(เป็นภาวะไขมันพอกตับ) ทำให้ตับเกิดการอักเสบ หรือเซลล์ตับตาย และเกิดพังผืดภายในตับ จนกลายเป็นโรคตับแข็งและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเป็นมะเร็งตับได้
ไขมันพอกตับ เริ่มแรกจะไม่มีอาการ แต่จะเริ่มมีอาการหลังจากที่ไขมันสะสมอยู่ในตับจำนวนมาก โดย อาการที่พบ คือ เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง รู้สึกไม่สบายท้องน้ำหนักลดผิดปกติ ความอยากอาหารลดลง คลื่นไส้ มึนงง ความสามารถในการตัดสินใจและสมาธิลดลง นอกจากโรคไขมันพอกตับ ทำให้เกิดโรคอื่นๆ ด้วย เช่น ตับโต เกิดอาการปวดที่บริเวณท้องด้านบนขวา หรือกลางท้อง และอาจพบรอยปื้นคล้ำที่ผิวหนังบริเวณ คอ หรือใต้รักแร้ ในขณะที่ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มีภาวะบางอย่างร่วมด้วย เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี จะมีเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็งได้มากกว่าคนปกติ และหากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปโรคตับแข็งและภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น
มีของเหลวจำนวนมากในช่องท้อง หรือที่เรียกว่าอาการท้องมาน การติดเชื้อของของเหลวในช่องท้อง ภาวะซึมเนื่องจากของเสียคั่งในกระแสโลหิตและสมอง
ภาวะตับวายระยะสุดท้าย ส่งผลให้ตับหยุดการทำงานโดยสิ้นเชิงและการเกิด มะเร็งตับซึ่งเป็นโรคที่มีความร้ายแรงและรักษาได้ยาก
ดังนั้น หลักปฏิบัติง่ายๆ ที่ทุกท่านควรตระหนักถึงการเกิดไขมันพอกตับ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใกล้ตัวเรา เพราะปัจจุบันวิถีการกินที่เปลี่ยนแปลงไปใกล้เคียงประเทศตะวันตกมากขึ้นที่เน้นการกินแบบฟาสต์ฟู้ดทำให้มีคนอ้วนมากขึ้นนั่นคือสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้ แต่ท่านสามารถปฏิบัติตัวง่ายๆ ดังนี้
เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ธัญพืชชนิดต่างๆ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีไขมันดี เช่น ถั่วเปลือกแข็ง อะโวคาโด ปลาทะเล เป็นต้น
ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที เป็นประจำก็จะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักและกระตุ้นระบบเผาผลาญ
หากเป็นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ต้องควบคุมปริมาณการดื่มแต่พอดี หรืองดดื่มไปเลย
ตรวจสุขภาพเป็นประจำรวมทั้งตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสตับอักเสบและการทำงานของตับเนื่องจากโรคตับในระยะแรกจะยังไม่แสดงอาการออกมา
การป้องกันย่อมดีกว่าปล่อยให้เกิดเป็นโรค ขอให้ทุกท่านร่วมกันดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายและพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
ปัจจุบัน รพ.ราชวิถี ยังมีผู้ป่วยด้อยโอกาสอยู่เป็นจำนวนมากที่รอคอยการรักษา ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์กับโรงพยาบาลราชวิถีได้ที่ ชื่อบัญชี “เงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี” หมายเลขบัญชี 051-276128-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถีหรือสอบถามโทร.02-3548108-37 ต่อ 3032
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี