วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน7วันหน : จับตา‘ทรัมป์’เยือนอังกฤษ

คุยกัน7วันหน : จับตา‘ทรัมป์’เยือนอังกฤษ

วันอาทิตย์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag : คุยกัน7วันหน
  •  

การเดินทางเยือนอังกฤษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางเยือนยุโรป เป็นที่ถูกจับตามองอย่างมาก เพราะมีขึ้นในขณะที่อังกฤษกำลังมีความแตกแยกกรณี “เบร็กซิต” และท่าทีที่ขัดแย้งของผู้นำสหรัฐกับยุโรปในประเด็น “ข้อตกลงปารีส” และ “ข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน” รวมทั้งกรณีของ “หัวเว่ย”

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ ได้เดินทางเยือนประเทศอังกฤษในระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน ตามคำเชิญของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นการเดินทางเยือนแบบรัฐพิธีในฐานะพระราชอาคันตุกะ ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของชาวอังกฤษในหลายเมือง


จุดสนใจอยู่ที่ภาวะการเป็นผู้นำของนายทรัมป์ ต่อความสัมพันธ์แบบพิเศษระหว่างอังกฤษและสหรัฐ ซึ่งถูกมองว่าตกอยู่ในความเสี่ยงนับตั้งแต่ที่เขาขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

การได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ยังสะท้อนให้เห็นว่าราชวงศ์อังกฤษ ยังให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์แบบพิเศษของทั้งสองประเทศ ซึ่งในการเยือนครั้งนี้ นอกจากจะเต็มไปด้วยกิจกรรมทางการทูต และการเข้าร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 25 ปี ที่สัมพันธมิตรส่งทหารจากอังกฤษ ยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี เพื่อยึดครองยุโรปตะวันตกที่ถูกนาซียึดครองในสงครามโลกครั้งที่ 2ประเด็นที่ถูกจับตามอง ยังอยู่ที่การพบปะกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ที่มีการหารือในประเด็นการค้า เบร็กซิต และหัวเว่ย เพราะก่อนการเยือนครั้งนี้ ทรัมป์ได้ประกาศสนับสนุนการถอนตัวจากอียูของอังกฤษ หรือ Brexit ที่ไม่มีข้อตกลงใดๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังสร้างความแตกแยกภายในประเทศอังกฤษตลอดเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งเรียกร้องให้อังกฤษไม่จ่ายเงินชดเชยตามข้อตกลงที่อังกฤษและอียูได้บรรลุเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทรัมป์ ยังสนับสนุนนายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษและหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมแทนนางเมย์ที่ประกาศจะลาออกในวันที่ 7 มิถุนายน ซึ่งนายจอห์นสัน เป็นผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยุติความร่วมมือกับอียู และควรถอนตัวจากอียู ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีความขัดแย้งกับอังกฤษกรณีหัวเว่ย หลังจากอังกฤษมีแผนการอนุญาตให้หัวเว่ยเข้าร่วมการวางระบบเครือข่าย 5G ซึ่งทรัมป์เตือนว่าอังกฤษต้องพิจารณาปัญหาความมั่นคงของประเทศอย่างรอบคอบ

คำประกาศเหล่านี้ของผู้นำสหรัฐมีขึ้น ท่ามกลางท่าทีต่างๆ ที่ขัดแย้งกับอังกฤษกรณีการถอนตัวจากข้อตกลงปารีสเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำกับอิหร่าน เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อความสัมพันธ์กับอังกฤษ

ด้วยจุดยืนของนายทรัมป์ดังกล่าวเขาจึงถูกมองว่าก้าวก่ายและแทรกแซงกิจการภายในของอังกฤษ จนนายเจเรมีคอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน กล่าวว่าคำประกาศของนายทรัมป์คือการแทรกแซงกิจการภายในของอังกฤษที่ไม่สามารถยอมรับได้ พร้อมทั้งยังบอยคอตต์ ไม่ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำสหรัฐคนนี้ที่พระราชวังบังกิ้งแฮม เช่นเดียวกับแกนนำฝ่ายค้านหลายคนก็มีท่าทีเช่นเดียวกัน จนนายทรัมป์ ต้องงดกล่าวสุนทรพจน์ในรัฐสภาอังกฤษเนื่องจากถูกสส.อังกฤษคัดค้าน ขณะที่นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน เรียกนายทรัมป์ว่า เป็นหนึ่งในตัวอย่างของความเลวร้ายที่เป็นภัยคุกคามโลก

แม้การเดินทางเยือนอังกฤษครั้งนี้ นายทรัมป์ และนางเมย์ จะยืนยันถึงความสัมพันธ์แบบพิเศษกับอังกฤษด้วยการแถลงข่าวร่วมกัน โดยนางเมย์เผยว่า “นี่คือสัปดาห์ที่มีความหมายสำหรับความสัมพันธ์พิเศษของอังกฤษและสหรัฐ และเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น” ขณะที่นายทรัมป์ ได้รับปากว่าข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและอังกฤษจะต้องเกิดขึ้นแน่นอนเมื่ออังกฤษออกจากอียู

แต่ภาพการชุมนุมประท้วงของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการเมืองที่สร้างความแตกแยกและเกลียดชังของทรัมป์ ซึ่งมีฉากเป็นตุ๊กตาเป่าลมสีส้มขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ทารกทรัมป์” และท่าทีของเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในอังกฤษ สะท้อนให้เห็นว่า ทรัมป์ไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม การที่วอชิงตันและลอนดอน เป็นพันธมิตรสำคัญกันมาช้านาน และยังมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน และเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ยังมีบทบาทสำคัญต่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ ดังนั้นเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร สหรัฐและอังกฤษก็ต้องพึ่งพากันและต้องดำเนินความสัมพันธ์แบบพิเศษให้มีความเสมอต้นเสมอปลาย หลังจากที่ได้รับผลกระทบมากมายนับตั้งแต่ที่นายทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

Koopnot01

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ \'คนโง่เท่านั้น\' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ 'คนโง่เท่านั้น' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้
  • คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น
  • คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่ คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่
  • คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์ คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
  • คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก
  • คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย  ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’ คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’
  •  

Breaking News

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved