เกรตา ธุนเบิร์ก สาวนักรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศชาวสวีเดน ซึ่งปลุกกระแสให้เด็กนักเรียนทั่วโลกร่วมรณรงค์ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เริ่มล่องเรือใบออกจากเมืองพลีมัธของอังกฤษในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อไปร่วมการประชุมสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ธุนเบิร์ก วัย 16 ปี บอกก่อนหน้านี้ว่า เธอจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดปฏิบัติการสภาพภูมิอากาศยูเอ็นที่นครนิวยอร์กของสหรัฐในเดือนกันยายน การประชุมภาคีกรอบอนุสัญญายูเอ็นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงซันติอาโกของชิลีในเดือนธันวาคม และการประชุมที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับบิดาและนักสร้างภาพยนตร์เพื่อถ่ายทำสารคดีการเดินทาง เพราะมีคนใจดีให้เธอล่องเรือใบมาลิเซีย ทู (Malizia II) ความยาว 60 ฟุต(ราว 18.28 เมตร) ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากอังกฤษไปนครนิวยอร์ก ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการเดินทางไปประชุมที่สร้างมลพิษน้อยที่สุด เธอไม่ขอเดินทางไปประชุมด้วยเครื่องบินเพราะปล่อยก๊าซคาร์บอน วิทยาศาสตร์พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนแล้ว ทุกคนต้องเริ่มดึงแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ลดลงมาก ๆ ก่อนถึงปี 2563 จึงจะยังมีโอกาสที่จะรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้ จึงเลือกเดินทางด้วยเรือใบแทน
เรือใบมาลิเซีย ทู มีปิแอร์ แกซีรากีรองประธานสโมสรเรือใบโมนาโก ผู้ก่อตั้งทีมมาลิเซีย และหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์แห่งราชรัฐโมนาโก และนายบอริส แฮร์มานน์นักล่องเรือใบรอบโลกชาวเยอรมันผลัดกันเป็นคนบังคับเรือ คาดใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 สัปดาห์ เรือใบลำนี้สามารถแล่นด้วยความเร็ว 35 นอต หรือราว 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อแล่นจริงจะช้ากว่านี้เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและปลอดภัยกว่า
ธุนเบิร์ก บอกว่า การเดินทาง 2 สัปดาห์อาจทำให้เธอเมาคลื่นบ้าง แต่ถือว่าธรรมดามาก เมื่อเทียบกับความทุกข์ยากของผู้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกต้องเผชิญจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เธอหวังว่าภารกิจของเธอจะช่วยให้ผู้คนทั่วโลกหันมาใส่ใจปัญหานี้ มีหลายคนยังไม่เข้าใจและไม่ยอมรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นเธอก็จะทำในสิ่งที่ทำมาตลอด นั่นคือไม่ใส่ใจคนเหล่านี้แล้วพยายามอธิบายวิทยาศาสตร์ต่อไป ทำให้เกิดความคิดเห็นและความเคลื่อนไหวสากลเพื่อให้ผู้คนยืนหยัดกดดันผู้มีอำนาจให้ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นเดียวกับแกซิรากีที่บอกว่า เขามุ่งมั่นทำให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ การโน้มน้าวให้รัฐบาลและสถาบันระหว่างประเทศดำเนินการและบังคับใช้กฎหมาย เพื่อปกป้องมนุษยชาติและความหลากหลายทางชีวภาพคือสิ่งสำคัญที่สุดต่ออนาคตของชีวิตมนุษย์
ธุนเบิร์กสร้างชื่อเป็นที่รู้จัก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยการเริ่มประท้วงหน้าอาคารรัฐสภาสวีเดนร่วมกับเพื่อนนักเรียน เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ต่อมา เธอและเพื่อนนักเรียนได้ประท้วงด้วยการหยุดเรียนอย่างต่อเนื่องทุกวันศุกร์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาสนใจกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกมากขึ้น ภายใต้การรณรงค์ที่เรียกว่า Fridays For The Future เกิดเป็นกระแส #FridaysForFuture ที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายทางอินเตอร์เนต ขณะที่การประท้วงหยุดเรียนในวันศุกร์ถูกนำไปใช้ในหลายโรงเรียนทั่วโลก รวมทั้งในเยอรมนี เบลเยียม อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
นั่นส่งผลให้ธุนเบิร์ก ผู้ป่วยโรคแอสเปอร์เกอร์ ซินโดรม ได้รับเสนอชื่อจากสมาชิกรัฐสภาของนอร์เวย์ 3 คนให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี2019 ซึ่งหากเธอได้รับเลือกเป็นผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจริง เธอจะกลายเป็นผู้ได้รับรางวัลนี้ที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับตั้งแต่ มาลาลา ยูซาฟไซสตรีชาวปากีสถานที่เคยได้รับรางวัลนี้เมื่อเธออายุ 17 ปี
ที่ผ่านมา ธุนเบิร์กเคยได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ทั้งเป็นหนึ่งในผู้ชนะการแข่งขันเขียนบทความของหนังสือพิมพ์ Svenska Dagbladet หนังสือพิมพ์รายวันของสวีเดน เกี่ยวกับสภาพอากาศสำหรับคนหนุ่มสาวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว รวมทั้งยังได้รับทุนการศึกษาจาก Fryshuset ในฐานะต้นแบบเด็กรุ่นใหมแห่งปี 2018 นอกจากนี้ นิตยสารไทม์ยังคัดเลือกให้เธอเป็นหนึ่งใน 25 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ประจำปี 2018 และเนื่องในวันสตรีสากลของปีที่ผ่านมา เธอยังได้รับประกาศให้เป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดแห่งปีในสวีเดนอีกด้วย
@koopnot01
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี