นิทรรศการ‘L’ELEGANTE THAI’โชว์ความงามสะกดทุกสายตา ด้วยผ้าไทยของ 2 แบรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลก
ไอคอนสยาม ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย บริษัท แม็กซ์ อิมเมจ จำกัด โดยการสนับสนุนของ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์เรสซิเดนซ์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้วงการแฟชั่นไทยกับการออกแบบชุดผ้าไทยเป็นครั้งแรกของสองแบรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลก “Antonio Marras” (อันโตนิโอ มาราส) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอิตาเลียน และ SORAPOL (สรพล) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ที่มาร่วมถ่ายทอดมุมมองและความประทับใจในความงดงามของ “ผ้าไทย” นำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานคอลเลคชั่นสุดพิเศษ นำเสนอในนิทรรศการ “L’ELEGANTE THAI” Thai - Italian Craftsmanship Collaboration (“เลเลกานเต้ ไทย” ไทย-อิตาเลียน คราฟต์แมนชิพ คอลลาบอเรชั่น) โชว์อัตลักษณ์แห่งความล้ำค่าของผ้าไทยที่รังสรรค์และออกแบบด้วยความประณีตวิจิตรบรรจงจากฝีมือดีไซเนอร์ระดับโลกอย่างแท้จริง โดยมี จุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมกันนี้ ยังมี มร.โลเรนโซ กาลันตี เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย ร่วมด้วยผู้บริหารไอคอนสยาม ชฎาทิพ จูตระกูล และ สุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุลตลอดจนแขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ร่วมงาน พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจร่วมประมูลเป็นเจ้าของชุดไฮไลท์จากทั้งสองแบรนด์ เพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้แก่ “Made by Beautiful People” โครงการสนับสนุนดีไซเนอร์ศิลปินผู้ด้อยโอกาสและเด็กพิเศษ ณ ไอคอนคราฟต์ เพื่อร่วมสร้างโอกาสและส่งเสริมคุณค่าแห่งศักดิ์ศรีชีวิตให้เท่าเทียมในสังคม
นิทรรศการในครั้งนี้เกิดขึ้นจากความรักและเห็นคุณค่าในความงดงามของผ้าไทย งานหัตถศิลป์จากภูมิปัญญาไทยที่ถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งต่อไปยังรุ่นลูกหลานรวมทั้งเผยแพร่ไปในระดับสากล โดย “อันโตนิโอมาราส” ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน และ “สรพลชวพัฒนากุล” ดีไซเนอร์ชาวไทยมาร่วมเนรมิตคอลเลคชั่นสุดพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “THE WORLD FASHION CRAFTSMANSHIP: Enriching the pride of SIAM” นำผ้าไทยจากทุกภูมิภาคของประเทศไทยมาประยุกต์สร้างสรรค์เป็นเครื่องแต่งกายที่มีความร่วมสมัย ผ่านเทคนิคการตัดเย็บและการสร้างสรรค์งานหัตถศิลป์หรืองานคราฟต์ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ส่วนการออกแบบยังคงความโดดเด่นของงานคราฟต์หรืองานฝีมืออันประณีตวิจิตรบรรจงในแบบฉบับอิตาเลียน และการใช้สีสันที่หลากหลาย ผสานกับการให้ความสำคัญในการเรียนรู้วัสดุต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การเรียนรู้ลักษณะเฉพาะตัวของผ้าไทย ซึ่งมองว่าผ้าไทยเป็นผ้าที่มีเสน่ห์ ชวนจินตนาการถึงเรื่องราวในทุกแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ห่างไกลหรือดินแดนอันลี้ลับ แต่ก็มีความสมจริงและน่าตื่นเต้น เรื่องเล่าเหล่านี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในการเพิ่มคุณค่าได้อย่างหรูหราและร่วมสมัย ผู้สวมใส่จึงรู้สึกพิเศษกว่าการใส่ชุดทั่วไป การสวมใส่ผ้าไทยจึงเสมือนการสวมใส่เรื่องราวแห่งเอกภพที่ผ่านการสร้างสรรค์ถักทอขึ้นด้วยมือและแฝงไว้ซึ่งองค์ความรู้และวัฒนธรรมที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โดยชุดไฮไลท์คอลเลคชั่นนี้เป็นชุดราตรียาวทีเลือกใช้ผ้าหลากหลายเพื่อสื่อถึงความแตกต่างที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เลือกใช้ 3 โทนสีหลักเพื่อสื่อสารถึงความแตกต่าง ได้แก่ โทนสีเทาโทนสีแดงก่ำม่วง และโทนสีน้ำตาลเข้ม ผสานรูปแบบลวดลายและลายเส้นที่แตกต่างกันเข้าไว้ด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์เป็นความพิเศษของชุดไฮไลท์นี้
สำหรับแรงบันดาลใจในการออกแบบคอลเลคชั่นนี้ของแบรนด์ SORAPOL มาจาก “ลายข้าวหลามตัด” (Diamond Pattern) ซึ่งลายข้าวหลามตัดนี้เป็นลายที่เราเห็นอยู่ในผ้าไทยมานานกว่าร้อยปี เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของลายไทยที่ถูกสร้างสรรค์สืบต่อกันมาจนกลายเป็นตำนานที่เสมือนเป็นตัวแทนของความเป็นไทยอย่างแท้จริง นำองค์ประกอบของลายข้าวหลามตัดมาผสมผสานกับเทคนิคสมัยใหม่ เพื่อนำเสนอเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยชุดไฮไลท์เป็นการนำผ้าทอมือของไทยมาตัดเย็บด้วยเทคนิคการทำรูปทรงโดยใช้เลเซอร์และประยุกต์เข้ากับการใช้ผ้าจากอิตาลีด้วยเช่นกัน ซึ่งเปรียบเสมือนการหลวมรวมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี