ที่ใดแล้ง ที่ใดร้อน ธ ทรงผ่อนแล้งร้อนคลาย
ธ ทรงเป็นประดุจสายธารธาราพาชุ่มเย็น
รอยพระบาทที่ดำเนินคือรอยเดินดับทุกข์เข็ญ
ปวงไทยอยู่ร่มเย็น ด้วยทรงเป็นพระทรงธรรม
ณ ที่ซึ่งแห้งแล้งกันดารจนแทบจะไม่มีมนุษย์และสัตว์รวมถึงพันธุ์พืชใดๆ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย แต่ครั้นเมื่อความเดือดร้อนของพสกนิกรได้ทราบไปถึงพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จพระราชดำเนินไปทรงดับความทุกข์ความร้อนให้กับพสกนิกรของพระองค์ โดยพระราชทานศาสตร์พระราชาให้ชาวบ้านเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา เพราะทรงตระหนักดีว่าปัญหาทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ครั้นเมื่อได้ใช้ความพยายามแก้ไขปัญหาจนหมสิ้นไปแล้ว ความอิ่มเอมเปรมปรีดิ์ และความภาคภูมิใจก็จะบังเกิดขึ้นกับนักต่อสู้ทุกคน เพราะเขาได้ต่อสู้จนเอาชนะปัญหา แล้วสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตนเอง
ใครจะเชื่อว่า ณ ดินแดนที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความเขียวขจี อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารสารพัดชนิด แต่เมื่อย้อนหลังไปเมื่อไม่นานมานี้
บริเวณนี้แห้งแล้งกันดาร ขาดน้ำอย่างหนัก แถมดินยังเสื่อมสภาพจนไม่สามารถปลูกพืชใดๆ ที่ใช้เป็นอาหารสำหรับคนและสัตว์ได้ ยกเว้นก็แค่เพียงหญ้า
ที่ดินพื้นที่ 250 ไร่ ที่ชื่อ โครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเพชรบุรี คือที่ดินกันดารที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อจากชาวบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2551 จากเดิมซึ่งเคยเป็นพื้นที่แห้งแล้ง แต่ปัจจุบันคือแปลงผักขนาดใหญ่ แปลงนาทดลองสวนไม้ผลสารพัดชนิด สวนกล้วย สวนมะนาว สวนยางพาราสวนชมพูเพชรฯ ไร่สับปะรดเพชรฯ สวนยางนา ไร่ปลูกหญ้าแพงโกลา หญ้าที่ใช้สำหรับเลี้ยงวัวนม และยังมีคอกปศุสัตว์รวมถึงมีแหล่งพลังงานที่มีกำเนิดมาจากแรงลม แล้วที่สำคัญคือมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย แต่ที่มากกว่านั้นคือ ณ ที่แห่งนี้คือบ้านของพ่อ พ่อที่คนไทยไม่เคยลืมพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
เมื่อผืนดินที่เคยแห้งแล้งกันดารค่อยๆ กลับมามีชีวิตชีวาเพราะมีแหล่งน้ำเข้ามาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น จากนั้นต้นไม้ต้นไร่ก็ค่อยๆ เจริญงอกงามขึ้นเป็นลำดับ แล้วผู้คนก็กลับเข้าไปอยู่อาศัยทำมาหากินในที่ดินผืนนี้
ถามว่าทำไมชื่อโครงการนี้จึงมีนามว่าชั่งหัวมันก็มีคำตอบว่า เนื่องมาจากหัวมันเทศที่ชาวบ้านนำไปทูลเกล้าฯ ถวาย ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนำหัวมันเทศนั้นไปวางไว้บนตาชั่งในห้องทรงงาน ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวัล หัวหิน แล้วหลังจากนั้นหลายวัน เมื่อเสด็จกลับไปยังห้องทรงงานทรงพบว่าหัวมันเทศแตกใบอ่อน จึงมีพระราชดำริว่าหัวมันเทศวางไว้บนตาชั่งที่ไม่มีดินและน้ำ ยังสามารถงอกได้ ดังนั้นที่ดินที่ทรงซื้อไว้ก็น่าจะปลูกมันเทศได้ จึงพระราชทานหัวมันเทศนั้นไปปลูกที่โครงการ แล้วพระราชทานชื่อว่าโครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ
เมื่อช่วงประมาณปลายเดือนสิงหาคม Mr.Flower นำคณะผู้อ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้ากลุ่มเล็กๆ ไปที่โครงการชั่งหัวมัน ไปเพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าพ่อของแผ่นดินไทยทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประเทศไทย และเพื่อคนไทยให้มีอยู่มีกินอย่างอุดมสมบูรณ์อย่างไรบ้าง เพราะการพูดถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านนั้นไม่มีทางทำให้ผู้คนซาบซึ้งเหมือนกับได้ไปเห็นด้วยตาของตนเอง
ในโครงการชั่งหัวมันนี้มีเรือนที่ประทับทรงงานของพ่อเป็นบ้านไม้สองชั้น ปลูกสร้างแบบธรรมดาและเรียบง่ายมากที่สุดทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานที่โครงการชั่งหัวมัน จะประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถ และทรงงาน ณ เรือนหลังนี้ วันนี้บ้านของพ่อหลังนี้ก็ยังคงอยู่ หลายคนเมื่อได้ไปเห็นแล้วก็เกิดอาการน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความคิดถึงพระองค์ท่าน
ภาพที่นำมาฝากคุณวันนี้ แสดงให้คุณเห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของโครงการชั่งหัวมันได้เป็นอย่างดี แต่มีภาพวัวเพศผู้ที่ผมตั้งใจนำมาฝากคุณ เพราะวัวตัวนี้ได้รับพระราชทานชื่อว่าคุณตุ่ม เป็นวัวที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานชื่อให้เมื่อวันที่เขาถือกำเนิด ซึ่งเป็นวันที่เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมโครงการนี้
และที่ต้องขอเชิญชวนให้ทุกท่านที่ไปเยี่ยมชมโครงการ ได้โปรดช่วยกันอุดหนุนสินค้าเกษตรสารพัดชนิด รวมถึงนมสด ขนม และผักผลไม้สด ขอย้ำว่าผักผลไม้
ที่นี่ปลอดสารเคมีทั้งปวง ส่วนแรงงานในโครงการก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบโครงการ
คุณๆ สามารถเข้าชมโครงการชั่งหัวมันฯ ได้ทุกวันในเวลาราชการ โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม และยังมีบริการรถไฟฟ้านำคุณชมโครงการฟรีอีกด้วย ขอบอกสั้นๆ ว่าอยากให้คุณไปชมบ้านของพ่อหลังนี้ แล้วจะรู้ว่าพ่อของแผ่นดินไทยรักคุณและรักประเทศไทยมากเพียงใด หรือถ้าหากต้องการให้ Mr.Flower พาคุณไปเที่ยว โปรดติดต่อ091-7233615 ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี