ข่าวใหญ่ด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวของโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนีไม่พ้นเรื่องของโทมัส คุก กลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของอังกฤษประกาศ ที่ดำเนินธุรกิจมาเก่าแก่ยาวนานถึง 178 ปี ต้องล้มละลายเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมการบริษัทออกแถลงการณ์ว่า หลังการประชุมแล้ว มีมติว่าไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเข้าสู่กระบวนการบังคับให้ชำระบัญชีโดยให้มีผลทันที และได้ยื่นเรื่องต่อศาลสูง ซึ่งศาลมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์แล้ว ขณะที่นายปีเตอร์ แฟงเฮาเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ กล่าวขอโทษผู้โดยสาร พนักงาน และหุ้นส่วนทุกฝ่าย บริษัทมีพนักงาน 22,000 คนทั่วโลก ในจำนวนนี้ 9,000 คน อยู่ในสหราชอาณาจักร แน่นอนว่าทั้งหมดหัวใจหล่นไปที่ตาตุ่ม เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้ ตัวเองจะต้องตกงานเมื่อใด
การล้มละลายของบริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่ ยังทำเอาลูกค้ากว่า 6 แสนคนของโทมัส คุก ที่กำลังสนุกสนานกับการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเคว้งทันที เพราะไม่รู้จะได้กลับบ้านหรือเปล่า ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกว่า 150,000 คน งานหนักตกอยู่กับรัฐบาลและสำนักงานการบินพลเรือน (CAA) ต้องเช่าเครื่องบินเหมาลำหลายสิบลำไปรับชาวอังกฤษที่ตกค้างอยู่ในต่างประเทศกลับบ้านโดยไม่คิดค่าบริการตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนถึง 6 ตุลาคม เป็นการพาพลเมืองกลับบ้านในช่วงไร้สงครามครั้งใหญ่ที่สุด และเกือบสองเท่าของเมื่อครั้งสายการบินโมนาชล้มละลายในปี 2560 คาดว่าต้องใช้งบประมาณในการนี้ราว 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 22,850ล้านบาท) โดยลูกค้าซึ่งจองตั๋วกลับสหราชอาณาจักรในช่วง 2 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ จะได้กลับบ้านใกล้กับวันจองกลับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลูกค้าของโทมัส คุก จะได้กลับบ้านด้วยเที่ยวบินพิเศษ หรือเที่ยวบินใหม่กับสายการบินอื่นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลูกค้าบางคนอาจจะต้องจองตั๋วกลับบ้านเองแล้วค่อยมาเรียกเงินคืน
โทมัส คุก ตั้งขึ้นโดยนายคุกช่างทำตู้ในมณฑลเลสเตอร์เชอร์ ในปี 2384 เพื่อการเดินทางระยะสั้นในประเทศ เพื่อให้คนชนชั้นแรงงานได้พักผ่อนในรูปแบบที่เหมาะสม แทนการดื่มเหล้าซึ่งเขามองว่า เป็นรากเหง้าของปัญหาสังคมในยุควิกตอเรีย เขาได้ใช้ประโยชน์จากทางรถไฟสายใหม่ของสหราชอาณาจักร ด้วยการจัดการเดินทางระยะทาง 12 ไมล์ (ประมาณ 19.3 กม.)จากเลสเตอร์ (Leicester) ไปยังลัฟโบโรห์(Loughborough) ด้วยราคา 1 ชิลลิงต่อหัว (ประมาณ 3 ปอนด์ ในปัจจุบัน หรือราว 114 บาท) เป็นการเดินทางที่รณรงค์ห้ามการดื่มเหล้า การท่องเที่ยวเส้นทางนี้ประสบความสำเร็จมาก ทำให้ โทมัส คุก จัดการเดินทางอีกหลายครั้งในช่วงหน้าร้อนปีต่อๆ มา ในฐานะของโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการวางรากฐานทางธุรกิจของเขา
โทมัส คุก ถูกขายต่อให้หลายบริษัทจนกระทั่งมีการควบรวมกับบริษัทท่องเที่ยวกลายเป็นโทมัส คุก กรุ๊ป ในปี 2550 แต่วิกฤติเกิดขึ้นจนเป็นที่มาของการล้มละลาย เพราะบริษัทไม่สามารถหาเงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,615 ล้านบาท) ให้ได้ภายในสองสุดสัปดาห์ก่อน ตามที่รอยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ และธนาคารเจ้าหนี้หลายแห่งยื่นคำขาด แม้ฝ่อซุน (Fosun) บริษัทยักษ์ใหญ่ของจีนด้านการลงทุนนานาชาติ และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโทมัส คุก ได้บรรลุข้อตกลงในการช่วยเหลือ โทมัส คุก มูลค่า 900 ล้านปอนด์ แต่ข้อเรียกร้องจากธนาคารเจ้าหน้าที่ที่ต้องการให้เพิ่มเงินทุนสำรองอีก 200 ล้านปอนด์ ทำให้ข้อตกลงนี้ประสบปัญหา บริษัทพยายามเจรจากับผู้ให้กู้ยืมเงินเพื่อให้ข้อตกลงช่วยเหลือบริษัทลุล่วงไปได้ รวมถึงการขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งเป็นทางออกที่พรรคแรงงานและกลุ่มสหภาพต่างๆสนับสนุน แต่ก็ไม่สำเร็จ นายโดมินิก ราบบ์รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ยอมรับว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือบริษัทที่กำลังจะล้มละลายอย่างเป็นรูปธรรมนอกเสียจากว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศในเชิงยุทธศาสตร์
โทมัส คุก บอกว่า การล้มละลายเกิดจากปัญหาหลายประการ รวมถึงปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศปลายทาง อาทิ ตุรกี, วิกฤติคลื่นความร้อนที่ดำเนินยาวนานเมื่อฤดูร้อนที่แล้วและลูกค้าที่เลื่อนการจองทริปไปเที่ยวออกไปเพราะเบร็กซิท นอกจากนี้ บริษัทยังต้องเผชิญการแข่งขันอย่างสูงจากบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์รายอื่นๆ และสายการบินต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็หันไปวางแผนท่องเที่ยวด้วยตัวเองกันหมดแล้ว ไม่ใช้บริการบริษัทนำเที่ยวอีกต่อไป
สะท้อนความไม่พร้อมของบริษัทในยุคศตวรรษที่ 21 ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับผู้บริโภค ที่เป็นลูกค้าของตัวเอง
@koopnot01
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี