สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) โดย สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับอำเภอวังน้ำเขียว สภ.วังน้ำเขียว และส่วนราชการ องค์กรส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอวังน้ำเขียว จัดกิจกรรมการกุศลวิ่งเชิงอนุรักษ์ “วิ่งชีวมณฑล @ สะแกราช 2019” เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2562 โดยมีวัตถุประสงค์มอบรายได้เพื่อการกุศลของกิ่งกาชาดวังน้ำเขียวและสาธารณประโยชน์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
กิจกรรม ประกอบด้วย เส้นทางการวิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร และ 10 กิโลเมตร ได้รับความสนใจจากนักวิ่งเชิงอนุรักษ์เข้าร่วมกิจกรรมคับคั่ง เป็นการวิ่ง-เดิน เพื่อสุขภาพ ไม่มีการแข่งขัน เริ่มจากโรงเรียนบ้านวังน้ำเขียว (พ่วงโพธิ์อุปถัมภ์) โดยวิ่งข้ามถนน 304 เข้าไปภายในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช หน่วยงานในสังกัดของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลของโลกและเป็นแห่งแรกของไทยถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น ในเส้นทางการวิ่งที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติของป่าเขา ต้นไม้ที่เขียวขจีอุดมสมบูรณ์ นักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมได้รับอากาศบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง ผู้ที่วิ่งเข้าเส้นชัยทุกท่านได้รับเหรียญที่ระลึกจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2510 โดยมีภารกิจการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา จนถึงขณะนี้มีผลงานวิจัยในพื้นที่แห่งนี้มากกว่า 500 เรื่อง ขณะเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2519 สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ภายใต้โครงการ MAB (Manand Biosphere Program) ให้เป็นแหล่งสงวนชีวมณฑลแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็น 1 ใน 7 แห่งของเอเชียในขณะนั้น และในปัจจุบันสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช วว. ตั้งอยู่ในเขตแกนกลางพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช ในปี 2562 ได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมระดับดีเยี่ยม ภายในสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ปกคลุมด้วยป่าไม้สำคัญ 2 ชนิด ได้แก่ ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง พันธุ์ไม้ที่สำคัญของป่าดิบแล้งชนิดนี้ประกอบด้วย ตะเคียนหิน ตะเคียนทองกระเบากลัก เป็นต้น ส่วนป่าเต็งรัง ประกอบด้วยเต็ง รัง เหียง พะยอม เป็นต้น ป่าทั้งสองชนิดครอบคลุมเนื้อที่ประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ นอกนั้นเป็นป่าชนิดอื่น เช่น ป่าไผ่ป่าปลูก และทุ่งหญ้า นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายชีวภาพ ของชนิดพันธุ์พืช สัตว์และสิ่งมีชีวิตจำพวกเห็ดราจากการศึกษาความหลากหลายของเห็ด (Mushroom)ในพื้นที่เบื้องต้น จำแนกได้ 94 ชนิด 32 วงศ์ จากตัวอย่างสัณฐานวิทยาของเห็ดราขนาดใหญ่(Macro fungi) มากกว่า 330 สัณฐาน นอกจากนี้ยังมีสัตว์ 486 ชนิด ประกอบด้วย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 79 ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก 29 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน(Reptiles) 88 ชนิด นกและสัตว์ปีก 290 ชนิด โดยมี “ไก่ฟ้าพญาลอ” นกประจำชาติไทยเป็นจุดเด่นซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้
ความสำคัญของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชในด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม ได้แก่ เป็นสถานที่เพื่อการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาป่าเขตร้อน(ป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง) จนถึงขณะนี้การวิจัยในพื้นที่แห่งนี้มีจำนวนไม่น้อยกว่า 500 เรื่อง ความรู้ดังกล่าวได้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาแก่นักวิชาการและยังได้นำไปช่วยเหลือในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนอีกด้วย, เป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติ สำหรับนักเรียน นักศึกษาที่ใช้พื้นที่ป่าไม้ ในเขตสถานีฯ เป็นสถานที่เพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านธรรมชาติของป่าไม้ นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบของพื้นที่ป่าไม้ของสถานีฯ ยังมีหมู่บ้านจำนวน 9 หมู่บ้าน ที่อยู่กับป่าไม้ ได้อย่างสมดุลซึ่งเป็นสถานที่เพื่อการวิจัยทางด้านสังคมเศรษฐกิจกับป่าไม้ได้อีกด้านหนึ่ง ซึ่งปีหนึ่งมีจำนวนมาก, เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล (UNESCOBiosphere Reserves) แห่งหนึ่งของโลกที่ทำหน้าที่ดำเนินการอนุรักษ์ พัฒนา และการสนับสนุนการศึกษาวิจัยที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายนานาชาติทั่วโลก, เป็นสถานที่ศึกษาธรรมชาติและพักผ่อนหย่อนใจ ทางด้านธรรมชาติ ของป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง พรรณพืชและพันธุ์สัตว์นานาชนิด และเป็นศูนย์การประชุมและสัมมนาเนื่องจากมีความพร้อมทั้งที่พักสถานที่ประชุมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี