วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ให้ภูมิคุ้มกันร่างกาย ต่อสู้กับมะเร็ง  แนวทางใหม่ในการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด

ให้ภูมิคุ้มกันร่างกาย ต่อสู้กับมะเร็ง แนวทางใหม่ในการรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด

วันพุธ ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.
Tag : มะเร็ง โรคมะเร็ง ภูมิคุ้มกันบำบัด รักษามะเร็ง
  •  

 

ในแต่ละปีมะเร็งเป็นโรคที่พรากชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกปี 2561 รายงานว่า ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งกว่า 9.6 ล้านราย ขยับเข้ามาใกล้ตัวอีกนิด ในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1มีผู้เสียชีวิต 78,540 คนต่อปี มีผู้ป่วยรายใหม่ 122,757 คน และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโรคมะเร็งไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ป่วยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังส่งกระทบถึงครอบครัวและสังคมรอบข้างทั้งในแง่ของร่างกาย จิตใจ ความสัมพันธ์ ไปจนถึงส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ทั้งนี้ ด้วยความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และความมุ่งมั่นในการค้นคว้าวิจัยหาวิธีรักษาโรคมะเร็งแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการค้นพบวิธีการรักษาโรคมะเร็งแนวทางใหม่ที่เรียกว่า “ภูมิคุ้มกันบำบัด”


รศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์ หัวหน้าสาขาวิชามะเร็งวิทยาภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายว่า ภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy คือการใช้ภูมิคุ้มกันของร่างกายมาเป็นหน่วยรบต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยปกติร่างกายของเรามีเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่หลักในการสร้างภูมิคุ้มกันซึ่งทำหน้าที่จัดการสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย เซลล์เม็ดเลือดขาวที่ทำหน้าที่หลักในการสร้างภูมิคุ้มกันมะเร็งเรียกว่าเม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์ ส่วนเซลล์มะเร็งคือเซลล์ที่มีการกลายพันธุ์และถือเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกายเช่นกัน แต่เซลล์มะเร็งมีความสามารถในการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งในที่สุด ต่อมามีการค้นพบกลไกที่เซลล์มะเร็งใช้หลบภูมิคุ้มกัน จึงทำให้สามารถหาวิธีนำภูมิคุ้มกันมาใช้เป็นแนวทางใหม่ในการรักษาโรคมะเร็งได้

สิ่งที่ทำให้ภูมิคุ้มกันบำบัดต่างจากการรักษามะเร็งชนิดอื่นๆ คือ ภูมิคุ้มกันบำบัดไม่ได้ทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง แต่กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ไปทำลายเซลล์มะเร็งอีกที ในขณะที่การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือยามุ่งเป้ามีผลทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรงเป็นหลักภูมิคุ้มกันบำบัดมีหลักๆ 3 ชนิด คือ แอนติบอดี เซลล์รักษา และวัคซีนรักษามะเร็ง แต่ในที่นี้จะขอพูดถึงภูมิคุ้มกันบำบัดชนิดแอนติบอดีที่ยับยั้งเช็คพอยต์ หรือ Checkpoint Inhibitor

รศ.นพ.เอกภพ สิระชัยนันท์

เช็คพอยต์ เป็นกลไกปกติของเซลล์ร่างกาย มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีการกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่มากเกินไป เช็คพอยต์ที่อยู่บนผิวเซลล์มะเร็งและเซลล์เม็ดเลือดขาวจะคอยจับกัน ทำหน้าที่เปรียบเสมือนแม่กุญแจและลูกกุญแจที่จะล็อกไม่ให้เม็ดเลือดขาวเข้าทำลายเซลล์มะเร็งได้ ยายับยั้งเช็คพอยต์ซึ่งเป็นยากลุ่มแอนติบอดีจะทำหน้าที่คอยกันไม่ให้แม่กุญแจและลูกกุญแจจับกัน และเปิดโอกาสให้เม็ดเลือดขาวเข้ากำจัดเซลล์มะเร็ง ยายับยั้งเช็คพอยต์ที่มีใช้ในประเทศไทย ได้แก่ ยายับยั้งซีทีแอลเอโฟร์ (CTLA-4), ยายับยั้งพีดี วัน (PD-1)และยาที่ยับยั้งพีดีแอล วัน (PD-L1)

ยายับยั้งเช็คพอยต์มีงานวิจัยประสิทธิภาพและได้รับการรับรองให้ใช้รักษามะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมา มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และมะเร็งเต้านมชนิดทริปเปิลเนกาทีฟ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยายับยั้งเช็คพอยต์ไม่สามารถใช้รักษาโรคมะเร็งได้ทุกชนิด เพราะข้อบ่งชี้ในการรักษาของมะเร็งแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับระยะของโรค และลักษณะของโรค ผู้ป่วยสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้

การใช้ยายับยั้งเช็คพอยต์อาจมีผลข้างเคียงได้เช่นกัน โดยอาจเกิดการอักเสบของอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะจากการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน อวัยวะที่มักพบการอักเสบ ได้แก่ ผิวหนัง อาจมีอาการเป็นผื่นหรือคัน ลำไส้ มีอาการถ่ายท้อง ปวดท้อง ปอด มีอาการเหนื่อย ไอ ตับ มีค่าเลือดผิดปกติ ตัวเหลืองตาเหลือง และระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง และต่อมไทรอยด์ มีอาการฮอร์โมนขาดหรือเกินผิดปกติ แต่อาการส่วนมากจะอยู่ในระดับเบาถึงปานกลาง และสามารถแก้ไขได้ อาการอักเสบเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ อาจจะเป็นตอนเริ่มให้ยา หรือหลังจากหยุดยาไปแล้ว แต่ส่วนมากจะเกิดภายในหนึ่งสัปดาห์ถึง 2-3 เดือนแรก

สำหรับการรักษาอาการข้างเคียงสามารถแบ่งได้ 3 ระดับตามความรุนแรงของอาการ ในผู้ป่วยที่อาการข้างเคียงมีความรุนแรงอยู่ในระดับ 1 (ระดับเบา) หรือระดับ 2 (ระดับกลาง) ส่วนมากจะใช้วิธีรักษาตามอาการ และไม่จำเป็นต้องหยุดยายับยั้งเช็คพอยต์ ผู้ป่วยที่อาการข้างเคียงมีความรุนแรงอยู่ในระดับ 2 ที่มีอาการต่อเนื่อง อาจจำเป็นต้องหยุดยาและรักษาตามอาการจนกว่าจะดีขึ้น ส่วนการรักษาในระดับสุดท้าย เป็นการรักษาสำหรับผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของอาการข้างเคียงในระดับ 3 (ระดับรุนแรง) หรือระดับ 4 (ระดับรุนแรงมาก) โดยจะต้องหยุดการใช้ยาทันที และอาจจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาร่วมประเมินการรักษาในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์แบบกินหรือแบบฉีด หรือยากดภูมิคุ้มกันในการรักษาอาการข้างเคียงชั่วคราว

การรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัดจึงเป็นตัวเลือกในการรักษาโรคมะเร็งแนวทางใหม่ที่น่าสนใจ เป็นการนำสิ่งที่มีอยู่ในร่างกายของเรามาสู้กับโรค นำจุดแข็งของภูมิคุ้มกันในการทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยตรงมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และอาจเป็นความหวังครั้งใหม่ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งเป็นโรคที่มีอาการและลักษณะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แม้แต่มะเร็งชนิดเดียวกัน ยังมีรายละเอียดในการรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อค้นหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด เพื่อหาทางเอาชนะโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • BDMS Wellness Clinic ผนึกโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ  ส่ง ‘เสียง’ จากความใส่ใจ สร้างความตระหนักรู้ถึงโรคมะเร็งเต้านม BDMS Wellness Clinic ผนึกโรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ส่ง ‘เสียง’ จากความใส่ใจ สร้างความตระหนักรู้ถึงโรคมะเร็งเต้านม
  • มหันตภัยร้าย โรคอ้วน น้ำหนักเกินเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง มหันตภัยร้าย โรคอ้วน น้ำหนักเกินเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง
  • APCO เปิดตัวนวัตกรรมไทย ‘มังคุดเสริมฤทธิ์’  ต้านโรคร้ายดัวย 3 พลังธรรมชาติ APCO เปิดตัวนวัตกรรมไทย ‘มังคุดเสริมฤทธิ์’ ต้านโรคร้ายดัวย 3 พลังธรรมชาติ
  • ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ ‘มะเร็งตับ’ พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย ภาวะไขมันพอกตับ ต้นตอสู่ ‘มะเร็งตับ’ พบมากเป็นอันดับ 1 ของคนไทย
  • มะเร็งปอด อาจเกิดได้ในผู้หญิงแม้ไม่สูบบุหรี่  โรช เน้นย้ำการตรวจคัดกรอง เพื่อการรักษาที่ได้ผล มะเร็งปอด อาจเกิดได้ในผู้หญิงแม้ไม่สูบบุหรี่ โรช เน้นย้ำการตรวจคัดกรอง เพื่อการรักษาที่ได้ผล
  •  

Breaking News

ดับฝันขาโจ๋!!! 'พิชัย'รับทบทวนเงินหมื่นเฟส 3 เซ่นพิษภาษีทรัมป์

ตำรวจเตรียมนำตัว 'สจ.กอล์ฟ' พร้อมลูกน้องรวม 7 คนฝากขังต่อศาลจังหวัดสงขลา

‘โฮเซ มูฮิกา’อดีตปธน.'อุรุกวัย'ผู้สมถะ ถึงแก่อสัญกรรมในวัย89ปี

ล่าแม่ใจยักษ์! ชายต่างด้าวเล่าเห็นกับตา 'ตัวเงินตัวเงิน'ลากซากทารกมากิน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved