โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ทั้งในเพศชายและหญิง โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา พบผู้มีภาวะหัวใจวายทุกๆ 40 วินาที และทุกนาทีมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1 คน
สำหรับประเทศไทยพบแนวโน้มผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากปัจจัย ทั้งที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เพศ อายุกรรมพันธุ์ และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย แม้โรคหัวใจจะเป็นอันตรายถึงกับชีวิต แต่ก็สามารถป้องกันได้โดยการปรับพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงโรคหัวใจ และเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ
สำหรับปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ นพ.ประพนธ์ ดิษฐ์รุ่งโรจน์ อายุรศาสตร์ รพ.สมิติเวช ให้ความรู้ว่า
l อายุที่มากขึ้น อวัยวะต่างๆ ย่อมเสื่อมไปตามสภาพ
l เพศชายมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้มากกว่าเพศหญิง
l เบาหวาน ผู้ที่เป็นเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ 2-4 เท่า
l ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตที่มากกว่า 140/90 มม./ปรอท จะเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงตั้งแต่อายุน้อยกว่า 50 ปี จะเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่าคนปกติ
l ไขมันในเลือดสูง
l ภาวะอ้วน ในผู้หญิงที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 21 จะมีผลต่อสุขภาพหัวใจ และหาก BMI มากกว่า 30แสดงว่าคุณเป็นโรคอ้วน และมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
การวัดรอบเอวจะช่วยให้ทราบความเสี่ยงของโรคหัวใจได้
- การสูบบุหรี่ ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจมากกว่าผู้ชายที่สูบบุหรี่ และความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว ในผู้หญิงที่สูบบุหรี่ 3-5
มวน/วัน และในผู้ชายที่สูบบุหรี่ 6-9 มวน/วัน การสูบบุหรี่เพิ่มอัตราการตายจากโรคหัวใจถึง 300 %
- อาหารไขมันสูง ในอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนื้อวัวติดมัน เนื้อแกะ เนื้อหมู (รวมถึงเบคอนและแฮม) เนื้อไก่ที่มีหนัง ไขมันวัว (tallow) น้ำมันหมูครีม เนย ชีส และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็มส่วน หรือพร่องมันเนย เป็นสาเหตุของโรคหัวใจประมาณ 31% ในประชากรโลก
- พันธุกรรม หากพบว่าในครอบครัวสายตรงที่มี ผู้ชายอายุน้อยกว่า 55 ปี หรือผู้หญิงอายุน้อยกว่า 65 ปี เป็นโรคหัวใจ เท่ากับคุณจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้มากกว่าคนทั่วไป
สำหรับอาการ ที่ควรนึกถึงโรคหัวใจ 1.เจ็บหน้าอก ซึ่งอาการเจ็บแน่นหน้าอก 3 ลักษณะที่พึงสังเกตว่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ได้แก่ เจ็บ
แน่นหน้าอกตรงกลางเหมือนมีอะไรมาทับ ร้าวไปที่กราม แขน ไหล่ หรือลิ้นปี่, เจ็บแน่นหน้าอกที่สัมพันธ์กับการออกแรง หรือออกกำลังกาย, อาการเจ็บแน่นหน้าอกดีขึ้นเมื่อนั่งพัก หรือเมื่ออมยาขยายหลอดเลือดใต้ลิ้น 2.ใจสั่น 3.หัวใจเต้นเร็ว 4.อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย 5.ขาบวม6.อาการวูบ หรือหน้ามืด
หากมีอาการข้างต้น ให้คิดไว้เสมอว่าอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจค่อนข้างชัดเจน แพทย์จะส่ง ตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคหัวใจ และทำการรักษาต่อไปควรมาตรวจคัดกรอง เพื่อให้แน่ใจว่ามีปัญหาโรคหัวใจหรือไม่ กับแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี