การสร้างบริโภคนิสัยที่ดีจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการที่จะมีสุขภาพดีไปตลอดชีวิต เพราะการกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้นจะสามารถป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ให้ห่างไกลจากตัวเราได้ต้องคำนึงถึงคุณภาพของอาหารเป็นหลักอยู่เสมอไม่ใช่ราคาหรือความอร่อย อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีคือ อาหารที่มีไขมันต่ำโดยเฉพาะไขมันอิ่มตัวขณะเดียวกันก็ต้องมีคอเลสเตอรอลต่ำและมีเส้นใยอาหารสูงประกอบด้วยผักผลไม้ และน้ำสะอาด การกินอาหารให้พอประมาณ ครบทุกหมวดหมู่และหลากหลายอีกด้วย
หลักในการกินเพื่อสุขภาพดี ของ อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ กรรมการบริหาร มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ แนะนำว่า การปฏิบัติตัวเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีขณะเดียวกันก็มีความสุขกับการกินได้ ด้วยหลักการง่ายๆ ดังนี้
1.ยืดหยุ่น ผ่อนสั้นผ่อนยาว คือ ไม่จำเป็นจะต้องกินอาหารในปริมาณเท่าๆ กันทุกมื้อ ทุกวัน เพราะในความเป็นจริงแล้ว เราอาจกินบางมื้อมาก บางมื้อน้อยก็ได้ เพียงแต่ถ้ามื้อไหนกินมาก ก็พยายามใช้แรงงานตัวเองเพิ่มขึ้น เช่น เดินเพิ่มขึ้นวันละ 30 นาที หรือถ้ารู้ตัวว่ากินอาหารไขมันสูงในมื้อเย็น ในมื้อเช้าและมื้อเที่ยงก็ให้เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำและกินให้น้อยลงภายใน 1 สัปดาห์ เราอาจจะลดหรือเพิ่มปริมาณอาหารในแต่ละมื้อก็ได้ ขอเพียงจัดให้เหมาะสมกับค่าเฉลี่ยพลังงานที่ได้จากอาหารทั้งสัปดาห์ให้คงที่อยู่นั่นเอง
2.เลือกกินอย่างฉลาด คืออยากกินอะไรก็กินได้ แต่ต้องรู้จักปริมาณในการกิน ถ้าเป็นอาหารที่กินมีไขมัน เกลือ หรือน้ำตาลสูง ก็ควรจะกินในปริมาณที่น้อยลง แล้วเลือกกินอาหารที่มีใยอาหารสูงร่วมด้วย เช่น ผัก ผลไม้
เป็นต้น
3.ปรับเปลี่ยนบริโภคนิสัยอย่างค่อยเป็นค่อยไป คือการปรับเปลี่ยนนิสัยการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ มาเป็นการกินแต่อาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายให้มากขึ้น แม้ว่าการเปลี่ยนบริโภคนิสัยจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถทำได้เลย เพียงเพียรพยายามทำวันละเล็กละน้อย ค่อยเป็นค่อยไป ข้อสำคัญคือต้องทำอย่างสม่ำเสมอก็จะประสบผลสำเร็จได้
4.เลือกกินอย่างมีสติ เราสามารถทดลองอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ ได้เสมอ แต่อย่าลืมพิจารณาชนิดของอาหารนั้นๆ และปริมาณที่ควรกินโดยใช้พีระมิดอาหารเป็นแนวทางซึ่งจะเน้นการกินอาหารจำพวก ผัก ผลไม้ นม และลดปริมาณเกลือ น้ำตาล รวมทั้งไขมันลง เพียงเท่านี้คุณก็จะเป็นผู้ที่มีความชาญฉลาดในการกิน ทั้งยังได้เอร็ดอร่อยกับอาหารมากมายหลากหลายชนิดโดยได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์และถูกต้องตามหลักของการกินเพื่อสุขภาพที่ดีได้
5.ขยับกายเคลื่อนไหวอยู่เสมอ การทำตัวให้กระฉับกระเฉงทำได้หลายวิธีเช่น ออกกำลังกายทุกวัน อาจจะวิ่งเดิน เล่นกีฬา ว่ายน้ำ หรือการทำงานบ้าน ล้างรถ ทำสวน เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานในชีวิตประจำวัน แม้แต่การเดินเพียง 10 นาที หลังอาหารเที่ยงทุกวันก็สามารถทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉงไม่เฉื่อยชาได้ซึ่งจะมีผลในการเพิ่มระบบการเผาผลาญในร่างกายเราให้ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วนและโรคกระดูกพรุนลงได้
ทั้งนี้ไม่ควรละเลยการดูแลสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย คือ การพักผ่อนอย่างพอเพียง การออกกำลังกายที่เหมาะสมสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงหรือปล่อยวางจากความเครียด ทำจิตใจให้เบิกบานแจ่มใส หัดมองโลกในแง่ดี เป็นต้น
ข้อมูลจาก รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรของสหประชาชาติ คณบดีผู้ก่อตั้งวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า แนวโน้มระบบสุขภาพของโลกเน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคมากกว่าการรักษาโรค รวมทั้งมุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดียืนยาวอย่างมีสุข มากกว่าการแค่มีอายุยืนยาว โดยแนวทางการส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดียืนยาว เริ่มมาจากการกินอาหารที่เหมาะสม ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่สำคัญในการช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง และร่างกาย นอกจากนี้การส่งเสริมสุขภาพด้วยอาหารฟังก์ชั่นและสมุนไพร ก็เป็นอีกทางเลือกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
หนึ่งในอาหารฟังก์ชั่นที่มีประวัติการบริโภคในแถบเอเชียมาอย่างยาวนานคือ ซุปไก่สกัด ซึ่งพร้อมให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้เร็ว เนื่องจากเป็นโปรตีนที่ผ่านการย่อยให้ได้กรดอะมิโน และไดเปปไทด์ที่จำเพาะ ได้แก่ คาร์โนซีนและแอนเซอรีน ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ประสาท โดยผลการวิจัยทางคลินิกของ ศ.นพ.โคกะ โยชิฮิโกะ จากภาควิชาประสาทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคียวริน ประเทศญี่ปุ่น เกี่ยวกับเปปไทด์ในซุปไก่สกัด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ซึ่งศึกษาในกลุ่มคนที่ดื่มซุปไก่สกัดทุกวันติดต่อกันเป็นระยะเวลา 7 วัน และตรวจวัดผลด้วยเทคโนโลยี Near-Infrared Spectroscopy (NIRS) พบว่า ซุปไก่สกัดช่วยให้เลือดนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับความจำการคิด ตัดสินใจได้ดีขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง
นอกจากอาหารฟังก์ชั่นแล้ว ยังมีสมุนไพรที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพสมอง เช่น ขมิ้นชัน ที่มีสารเคอร์คิวมินอยส์ สารสำคัญที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ช่วยชะลอความเสื่อม ป้องกันตับ น้ำมันจมูกข้าว ที่มีโทโคไทรอีนอล, เบต้าแคโรทีน, และไวตามินอี เป็นต้นที่ช่วยปกป้องเซลประสาทโดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารแกมมาโอไรซานอลที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ทำให้อวัยวะต่างๆ มีเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ในปัจจุบันนี้มีอาหารฟังก์ชั่นและสมุนไพรมากมาย ที่มีงานวิจัยว่าช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การค้นพบนี้เปรียบเหมือนเป็นกุญแจสำคัญไปสู่ทางเลือกใหม่เพื่อการมีสุขภาพที่ดียืนยาวอย่างมีสุขและเป็นเทรนด์ใหม่ของการชะลอวัยในโลกยุคปัจจุบัน
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี