กระทงประกวด
ด้วยประเพณีลอยกระทงนั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จนถือเอาเพลงลอยกระทง เป็นเพลงยอดฮิตของนานาประเทศเมื่อพูดถึงประเทศไทย ประเพณีนี้ไม่ได้เป็นแค่การลอยกระทงจุดโคมลอยเท่านั้น ในพระราชพิธีสิบสองเดือนสมัยอยุธยานั้นนับเป็นประเพณีทางน้ำที่เป็นพระราชพิธีมีการแสดงต่างๆ และเป็นประเพณีของชาวบ้านที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่เดือน ๑๑ จนถึงเดือนอ้าย ดังปรากฏความ (ตามอักขระแบบเก่า) ว่า “เดือน ๑๑ อาสยุชแข่งเรือ การอาสยุชพิทธีมีหม่งครุ่มซ้ายขวา ระบำหรทึกอินทเภรีดนตรี เช้าธรงพระมหามงกุฎราชาประโภก กลางวันทรงพระสพรรณมาลา เอย็นทรงพระมาลาสุกหร่ำสภักชมภู สมเดจ์พระอรรคมเหษีพระภรรยาธรงพระสุวรรณมาลานุ่งแพรลายทองธรงเสื้อ พระอรรคชายาทรงพระมาลาราบนุ่งแพรดารากรธรงเสื้อ ลูกเธอหลานเธอทรงศิรเพศมวยธรงเสื้อ พระสนมใส่สนองเกล้าสภักสองบ่าสมรรถไชยเรือต้นสรมุกขเรือสมเดจ์พระอรรคมเหษี สมรรถไชยไกรสรมุกขนั้นเป็นเรือเสี่ยงทาย ถ้าสมรรถไชแพ้ไซ้เข้าเหลีอเกลีออี่มศุกขเกษมเปรมประชาถ้าสมรรถไชยชำนะไซ้จะมียุข
กระทงแบบต่างๆ
-เดือน ๑๒ พิทธีจรองเปรียงลดชุดลอยโคม การพิทธีตรองเปรียง ลดชุดลอยโคมลงน้ำตั้งระทาในดอกไม้ในพระเมรุ์ ๔ ระทา หนัง ๒ โรงเสดจ์ลงเรือเบญจา ๕ ชั้น พระธี่นั่งชั้น ๔ นั้นสมเดจ์พระอรรคมเหษีแม่หยัวเจ้าเมืองชั้น ๓ ลูกเธอชั้น ๒ หลานเธอชั้นหนึ่ง พระสนมห่มชมภูใส่สุกหร่ำประธีปทัง ๕ ชั้น เรือปลาลูขุนเฝ้าหน้าเรือเบญจา เรือตะเข้แนมทังสองข้าง ซ้ายดนตรีขวามโหรี ตั้งเรือเอนเปนตั้งแพนโคมทุกลำ ถ้าเสดจ์ลงเป่าแตรโห่ ๓ ลา เล่นหนังระบำ เลี้ยงลูกขุนแลฝ่ายใน ครั้นเลี้ยงแล้วตัดถมอแก้เอน โห่ ๓ ลา เรือเอนตั้งแพนแห่ ตัดถมอลอยเรือพระธี่นั่งล่องลงไปส่งน้ำ ครั้นถึงพุทไทสวรรคจุดดอกไม้เล่นหนังเสดจ์ลงเรือสมรรถไชย กับสมเดจ์พระภรรยาเจ้าทัง ๔ ลูกเธอหลานเธอพระสนมลงเรือประเทียบขึ้นมาข้างเกาะแก้ว
กระทงสายจากกะลา
-เดือน ๑ ไล่เรือ เถลีงพิทธีตรียำพวายพระราชพิทธีไล่เรือ ธรงพระมาลาสุกหร่ำ สมเดจ์พระมเหษีทรงสุกหร่ำนั่งบนธี่นั่ง ลูกเธอหลานเธอใส่เศิยรเพศมวย พระยนมใส่สนองเกล้า นั่งหน้าสองนั่งหลังสอง ม่านพันเสาพนักเพียงอก สภักสใบสองบ่าเชิงทอง พญามหาเสนตีฆ้อง ครั้นถึงท้ายบ้านรุนเสดจ์ออกยืนธรงพัชนี ครั้นถึงประตูไชยธรงส้าวสนานตรียำพวาย พระศรีอรรคราชทูลผ้า พระพลเทพทูลน้ำ พระราชบโรหิตพระครูอภิรามถวายน้ำสังข์ พระมเหธรพระพิเชดถวายน้ำกลด พระญาณประกาศถวายโสลก พระอิศวรรักษาถวายพรขุนวิสุทธโภชถวายเข้าตอกดอกไม้เข้าเม่าเข้าพอง วังรับเข้าเม่าต้น”
กระทงอวดประกวดฝีมือ
จากความที่อ่านยากเย็นนี้ชี้ให้เห็นประเพณีทางน้ำสมัยอยุธยานั้นเป็นพระราชพิธีของพระเจ้าแผ่นดินและงานของชาวบ้านที่ผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง กล่าวคือตั้งแต่เดือน ๑๑ นั้น มีประเพณีแข่งเรือเสี่ยงทาย เดือน ๑๒ ประเพณีจองเปรียง ลดโคมลอยฟ้า ลงเรือลอยกระทงส่งน้ำ จุดดอกไม้เล่นหนังและเดือนอ้าย ประเพณีไล่เรือเถลิงพิธีตรียัมปวายถวายน้ำ สืบต่อเป็นวัฒนธรรมทางน้ำ ด้วยน้ำนั้นมีความสำคัญต่อการเกษตรกรรมและการคมนาคมของแผ่นดิน ดังนั้นทั้งพิธีของหลวง และประเพณีชาวบ้าน จึงถูกรักษา สืบสานต่อยอดประเพณีกันมาจนถึงปัจจุบัน โดยยังมีการแข่งเรือยาวฝึกฝีพายเป็นกำลังรบและใช้เสี่ยงทายชัยชนะ ยังมีพิธีลอยโคม ลอยกระทง และไหลเรือไฟไล่น้ำ กัน แม้จะแปรเปลี่ยนเถิดเทิงให้เป็นงานการท่องเที่ยวมากกว่าประเพณีอย่างสมัยอยุธยาก็ตาม ไม่ว่ากัน ถือว่า...การลอยกระทงนั้นยังไม่หายไป แต่ก็ทำกระทงกันจนเลยเถิดผิดจากความหมายเดิม คือ “กอนโทง” ภาษาขอมแปลว่า ภาชนะใส่อาหารที่ทำด้วยใบตองก็คือ กระทงใส่อาหาร สำหรับบูชาเซ่นไหว้ ก็คงจะหลงทางไปจนกลายเป็นวันเสียสาวเสียตัวบ้าง...ก็เป็นเรื่องของคน...ไม่ใช่กระทงที่ต่างพากันออกแบบกันเสียจนไม่รู้ว่า กระทง นั้น สำหรับใช้ใส่อาหารลอยน้ำบูชาคุณของแม่น้ำ และคงไม่สร้างกระทงใหญ่โตเพื่อประกวดอวดฝีมือให้เสียความหมาย บางแห่งประกวดนพมาศใส่กระทงเสริมกันให้ครึกครื้น จนลืมภูมิประเพณีทางน้ำที่มีแต่โบราณไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี