เมื่อพูดถึงปีนักษัตร ประจำพุทธศักราช 2563 ก็คือ ปีชวด ซึ่งมีสัตว์ประจำนักษัตรคือหนู ดังนั้นคนไทยและคนชาติอื่นๆ ที่มีความเชื่อถือศรัทธาในเรื่องการทำบุญกับสถานที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับปีเกิดของตนที่ตรงกับปีนักษัตรนั้นๆ ก็จะพากันไปกราบไหว้ขอพรจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำปีนักษัตร เพื่อความเป็นสิริมงคล และความวัฒนาสถาพรแก่ตนเอง
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำปีนักษัตร ปีชวด ที่คนไทยต่างให้ความเคารพนับถือมากที่สุดคือพระธาตุจอมทอง ณ วัดพระธาตุ
ศรีจอมทองวรวิหาร อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นผู้ที่มีปีเกิดตรงกับปีชวดส่วนหนึ่งก็มักจะพากันไปกราบไหว้บูชา ทำบุญทำทานที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง (วัดพระธาตุจอมทองอยู่บนถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ 58 กิโลเมตร)
ประวัติ/ตำนานพระธาตุจอมทอง
บริเวณที่ตั้งวัดและพระธาตุอยู่บนเนินดินสูงประมาณ 10 เมตร คนโบราณเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าดอยจอมทอง สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างในยุคราวพุทธศตวรรษที่ 20 แต่ต่อมาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมา จนสุดท้ายปรากฏว่ามีลักษณะของศิลปกรรมภายในวัดอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 24 ซึ่งตรงกับยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ หากอ้างตามตำนานก็จะพบว่าเจ้าเมืองอังครัฏฐะ สร้างสถูปไว้บนยอดดอยจอมทองเพื่อหวังให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีหลักฐานยืนยันว่าพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานไว้คือพระบรมธาตุส่วนที่เป็นพระเศียรเบื้องขวาของสมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้า มีขนาดประมาณเม็ดพุทรา สัณฐานกลมเกลี้ยง สีขาวนวลคล้ายสีดอกบวบหรือสีดอกพิกุลแห้ง ถูกบรรจุไว้ในพระโกศ 5 ชั้นประดิษฐานภายในพระวิหารจตุรมุข
ประวัติการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุ
ปี พ.ศ. 2042 พระธัมมปัญโญเถระ เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ในใจกลางพระเกศโมลีของพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร ต่อมา พ.ศ. 2058 พระมหาสีลปัญโญ เจ้าอาวาสของวัดได้นำพระบรมสารีริกธาตุออกมาให้พระรูปหนึ่งจากพม่าได้กราบนมัสการจากนั้นความเรื่องนี้ได้แพร่ไปถึงพระเจ้าดิลกปนัดดาธิราช(พระเมืองแก้ว) เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ดังนั้นในปี 2050พระเมืองแก้วจึงให้ก่อสร้างวิหารจตุรมุข และปราสาทภายในวิหารหลวง แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐาน และประดิษฐานมาตราบจนปัจจุบัน
พระธาตุจอมทอง พระธาตุประจำปีชวด
อ้างอิงตามคติความเชื่อเรื่องการไหว้พระธาตุประจำปีเกิดตามปีนักษัตร ว่ากันว่าเมื่อคนเราถึงแก่ความตาย ดวงวิญญาณของผู้ตายจะไปอยู่ ณ ที่พระธาตุประจำปีเกิดของแต่ละคน ดังนั้นผู้ที่เกิดในปีนักษัตรใดๆ จึงต้องไปกราบไหว้บูชาสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของตน และตามคดีโบราณของชาวเหนือเชื่อกันว่าคนเกิดปีชวด หรือปีหนูจะต้องไปกราบไหว้บูชาพระธาตุจอมทอง เพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเอง
การถวายบูชาพระบรมธาตุจะใช้เครื่องหอม ข้าวตอก ดอกไม้ และจะสรงพระธาตุด้วยน้ำสะอาดซึ่งอาจเจือด้วยน้ำอบน้ำหอม พระบรมธาตุส่วนใหญ่จะบรรจุอยู่ใต้ฐานพระเจดีย์หรือพระธาตุ ดังนั้นการสรงน้ำจึงกระทำโดยการราดรดน้ำสะอาดบนองค์พระเจดีย์ หรือพระธาตุ
หากคุณผู้อ่านรายใดที่สนใจจะร่วมเดินทางไปกราบนมัสการพระธาตุจอมทอง และท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ที่สวยงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเดือนมกราคม 2563 โปรดติดต่อทัวร์คุณแหน บริษัท World Express จำกัด หนังสือพิมพ์แนวหน้า นำเที่ยวแบบสบายๆ แต่เน้นสาระ โดย Mr.Flower โปรดติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615
และขอเรียนแจ้งให้ทราบถึงทริปบริจาคโคกระบือที่ผู้อ่านแนวหน้าร่วมสมทบทุน เพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือจากโรงฆ่าสัตว์ในเชียงราย แล้วนำไปมอบให้เกษตรกร โดยผู้คัดเลือกเกษตรกรผู้เหมาะสมที่จะรับโคกระบือไปเลี้ยงดูจนกว่าสัตว์จะถึงแก่อายุขัยตามธรรมชาติคือพระมหาวุฒิชัยวชิรเมธี (ท่าน ว. วชิรเมธี) แห่งสถานปฏิบัติธรรมไร่เชิญตะวันเชียงราย คณะของเราจะเดินทางวันที่ 28-30 มกราคม 2563 โดยสายการบินไทยสมายล์ พักที่โรงแรมเวียงอินทร์ ริมน้ำกก หากคุณสนใจร่วมทริปนี้ โปรดติดต่อ 091-7233615 ภายในวันที่ 8 มกราคม 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี