พระพุทธรูปสำคัญวันปีใหม่
ในวันปีใหม่ทุกปีนั้น พระพุทธสิหิงค์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครนั้นตามประเพณีจะมีพิธีอัญเชิญเสด็จออกให้ประชาชนทำการสักการบูชาสรงน้ำตามจารีตประเพณีของไทยในวันสงกรานต์อันเป็นวันขึ้นปีใหม่มาแต่โบราณทุกปี ภายหลังวันขึ้นปีใหม่ ๑ มกราคม พระพุทธสิหิงค์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์มงคลในวันขึ้นปีใหม่ที่ทุกคนต้องสักการะกราบไหว้เช่นเดียวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ประวัติความเป็นมาของพระพุทธสิหิงค์นั้น ตามตำนานของพระโพธิรังษี พระเถระปราชญ์ชาวเชียงใหม่ แต่งเป็นภาษามคธ เมื่อราวปี พ.ศ.๑๙๖๐ นั้น ได้กล่าวว่า “พระพุทธสิหิงค์นี้ พระเจ้ากรุงลังกา ๓ พระองค์ ได้ร่วมกันกับพระอรหันต์ที่อยู่ในเกาะลังกาสร้างขึ้นเมื่อราว พ.ศ.๗๐๐ และประดิษฐานอยู่เกาะลังกามาได้ ๑,๑๕๐ ปี ต่อมาพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (พ.ศ.๑๘๒๐-๑๘๖๐)ทรงรู้ถึงพุทธลักษณะอันงดงามของพระพุทธสิหิงค์ จากพระภิกษุชาวลังกาที่เดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทย จึงโปรดเกล้าฯให้พระยานครศรีธรรมราชแต่งทูตเชิญพระราชสาส์น ไปขอประทานพระพุทธสิหิงค์ จากพระเจ้ากรุงลังกา ซึ่งกรุงลังกาได้ถวายมาตามพระราชประสงค์ อัญเชิญมาประดิษฐานยังเมืองสุโขทัย และเมืองต่างๆ ในประเทศไทยอีกหลายแห่ง เช่น พิษณุโลก กรุงศรีอยุธยากำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่และกรุงเทพฯ ในที่สุด
พระพุทธสิหิงค์
สำหรับความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธสิหิงค์นั้นมีตำนานกล่าวว่า “การสร้างนั้นได้ประกอบขึ้นด้วยแรงอธิษฐาน ๓ ประการ คือ ๑.คำอธิษฐานของพระอรหันต์ผู้ร่วมพิธีสร้าง ๒.แรงอธิษฐานของพระเจ้ากรุงลังกาผู้สร้างทั้งสามพระองค์ ๓.อานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทำให้เชื่อว่าการที่พระพุทธสิหิงค์เสด็จประทับอยู่ที่ใด พระพุทธศาสนาย่อมรุ่งเรืองดังดวงประทีปเสมือนหนึ่งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่”พระพุทธสิหิงค์จึงเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญยิ่งมากกว่าจะมีพุทธศิลป์ที่สร้างได้สัดส่วนและงดงามที่สุดแล้ว ยังเป็นที่นิยมการพระพุทธสิหิงค์ให้ปรากฏขึ้นหลายพระองค์ในภูมิภาคต่างๆ พระพุทธสิหิงค์ที่ได้รับการนับถือมาแต่โบราณและมีความสำคัญนั้นมีอยู่ด้วยกัน ๓ องค์ คือ
พระพุทธสิหิงค์ เชียงใหม่
๑.พระพุทธสิหิงค์ขัดสมาธิราบ ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ, ๒.พระพุทธสิหิงค์ขัดสมาธิเพชร แบบสิงห์ ๑ หรือแบบล้านนา ที่วิหารลายคำวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่, ๓.พระพุทธสิหิงค์ขัดสมาธิเพชรแบบนายขนมต้ม ที่หอพระพระพุทธสิหิงค์จังหวัดนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ยังมีพระพุทธสิหิงค์องค์สำคัญในที่อื่นๆ อีก เช่น พระศากยสิงค์ที่ระเบียงวิหารคดรอบพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตร พระสิหิงค์ที่วัดโคกขาม เมืองสมุทรสาคร เป็นต้น พระพุทธสิหิงค์โดยทั่วไปนั้นมีพุทธศิลปะแบบสมัยเชียงแสน หรือล้านนาแตกต่างตรงสังฆาฏิสั้นลายอันซ้อนกันเรียกว่า สังฆาฏิแฉกเป็นพระพุทธรูปที่เราเรียกรู้กันคือ พระสิงห์ นั่นเองวันปีใหม่ปีนี้กรมศิลปากรได้อัญเชิญพระปฏิมาแห่งแผ่นดิน :พิพิธทศปฏิมาอารยศิลป์โดยอัญเชิญพระพุทธรูปมงคลโบราณที่มีความศักดิ์สิทธิ์ของประเทศไทย คือ พระพุทธสิหิงค์พระพุทธปฏิมาที่มีความสำคัญประจำพระราชวังบวรสถานมงคล(วังหน้า) เป็นพระประธานและพระพุทธรูปพุทธศิลป์นานาประเทศอีก ๙ องค์ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ให้ประชาชนสักการะเนื่องในเทศกาลปีใหม่ ๒๕๖๓ ได้แก่ พระพุทธรูปปางประทานอภัยสลักจากศิลา ศิลปะอินเดีย, พระอมิตาภพุทธเจ้าศิลปะญี่ปุ่น, พระพุทธรูปสมาธิ ศิลปะลังกา, พระพุทธศากยมุนี ศิลปะจีน, พระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัยศิลปะเมียนมา, พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะลาว, พระพุทธศากยมุนี ศิลปะเวียดนามเหนือ, พระพุทธรูปมารวิชัย สมัยมัณฑเลย์ ศิลปะเมียนมา และ พระพุทธรูป ทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะช่างเมืองพระตะบอง กัมพูชา เป็นต้น เช่นเดียวกันทุกพิพิธภัณฑ์ทั่วประเทศได้ร่วมกันอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญและสิ่งมงคลมาให้สักการบูชาซึ่งล้วนเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสิริมงคลและสิ่งยึดมั่นของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นจะบันดาลอานุภาพให้สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขในใจให้เกิดความมานะบากบั่นไม่ท้อแท้ ทำให้จิตที่สิ้นหวังกลับสดชื่นมีความเข้มแข็ง และกล้าหาญที่จะอยู่บนโลกนี้ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี