ประเทศไทยวันนี้ขอบอกว่า เป็น ช่วงที่“หาอะไรยึดมั่นเอาไว้ให้เป็นหลักยากมาก” เพราะเราไม่รู้ความจริงที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นแก่นสารจากผู้ที่เคยได้รับความเชื่อถือในทุกๆ มิติของสังคมเลย อาทิ คนส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ชีวิตอยู่ยากเพราะเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจกันไปทุกหย่อมหญ้า แต่คนส่วนน้อยที่เป็นผู้บริหารประเทศบอกว่า เศรษฐกิจของประเทศรุ่งโรจน์ไปได้สวย, หรือเรื่องของ ข่าวสารที่ถูกเผยแพร่สู่สังคมที่เรียกกันว่าสังคมก้มหน้า ต่างกระจายเรื่องราวต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องแพร่กระจายออกไปยังมวลชนอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นความเชื่อของคนส่วนใหญ่ แต่วันดีคืนร้ายก็มีคนกลุ่มน้อยอันเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมผู้นำชุมชนออกมาบอกว่า สิ่งนั้นไม่เป็นความจริง สิ่งนั้นเชื่อถือไม่ได้ ทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างในสังคมจึงกลายเป็น “สิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง” เกลื่อนกลาดครอบคลุมไปทั้งประเทศ
เลยทำให้ต้องหันมามอง แวดวงวรรณกรรมประเภทหนึ่ง ที่ ผมเข้าใจว่า วันนี้ คงจะต้องกลายเป็น หนังสือดีเด่นของสังคมไทยยุคนี้นั่นคือ หนังสือ “ทำนายอนาคต” ซึ่งเป็น ศาสตร์แขนงหนึ่ง ที่เป็นมรดกตกทอดอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์มานับเป็นพันๆ ปีแล้ว
แต่ก่อนอาจจะไม่ค่อยมีคนเชื่อถือมากมายนักเพราะความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในคำทำนาย มีทั้งถูกและผิด แต่เมื่อวันนี้ เรื่องราวต่างๆ ในสังคม มีความ ถูกและผิด ที่ เลวร้าย ยิ่งกว่า ศาสตร์คำทำนายเสียอีก น้ำหนักของ ความเชื่อถือ จึงถูกเทใส่ลงไปในศาสตร์ของคำทำนายเพิ่มมากขึ้นเพราะมองเห็น ความเป็นไปได้มากกว่า ข่าวสารที่เกิดขึ้นในสังคม
“คัมภีร์ปีชวด” เป็น ศาสตร์การทำนายอนาคต จัดทำขึ้นโดย “ซินแส” ที่จัดพิมพ์ออกมาจำหน่ายทุกปี นับมาถึงวันนี้ นับได้เป็น ปีที่ 24 แล้ว
เนื้อหาภายในเล่มจะประกอบไปด้วยการทำนายชะตาดวงเมือง(ประเทศไทย)ว่าในปีชวด(ปีนี้) ชะตาเมืองจะมีการผันแปรไปอย่างไรบ้างมีการบอกกล่าวให้ทราบถึง เทพเจ้าของจีน หลายๆ องค์ว่า มีความเป็นมาอย่างไร มีเรื่องราวของ ดวงชะตาชีวิตของคน ในแต่ละปี นักษัตร ว่า ในปีชวดปีนี้ แต่ละที่มีดวงวันเกิดในแต่ละคนจะ พบพานกับความเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิตอย่างไรบ้าง เริ่มตั้งแต่ ปี ชวด จนครบ 12 ราศี แบบเดือนต่อเดือนอย่างละเอียด ซึ่งจะบอกให้ ทุกคนได้ทราบว่า ตัวเองจะต้องเจอะเจอกับอะไร แถมยังหาทางออกสำหรับคน จะต้องเจอกับสิ่งไม่ดีให้มีหนทางแก้ไข ที่จะทำให้สิ่งที่ไม่ดีนั้น หรือสิ่งที่ร้ายนั้นลดทอนความเลวร้ายลงไปได้ ด้วยการแนะนำให้ทำบุญทำกุศลในแต่ละพิธีกรรม
ไม่เพียงเท่านั้นนะครับ หนังสือเล่มนี้ เรียกว่า มีทุกอย่างที่เหมือนจะ แนะนำชีวิตของคุณให้อยู่ได้อย่างสงบสุขและจะคอยเป็นเพื่อนบอกกล่าวให้คุณทำแต่ในสิ่งที่ดีๆ เพื่อให้เกิดความสบายใจและความสมหวัง บอกกันตรงๆ มีหนังสือเล่มนี้แล้ว อุ่นใจกว่ามีรัฐบาลชุดนี้อีก...จริงๆ นะเนี่ย ราคาเล่มละ 169 บาท
อ่านให้จบแล้วจะรู้ว่าทำไมมนุษย์จึงไม่เหมือนกัน เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการร่วมกันทำ
“ศักยภาพแกร่งยกทีม”เป็นหนังสือแนววิชาการที่จะทำให้คนอ่านได้รับรู้ถึง สิ่งที่อยู่ภายในจิตวิญญาณของมวลมนุษย์ที่เรียกกันว่า ศักยภาพ ของแต่ละคนว่า มีประสิทธิภาพแตกต่างกันอย่างไรซึ่งเมื่ออ่านแล้วทุกคนจะเข้าใจได้ทันทีว่า ทำไม มนุษย์จึงมีความแตกต่างกันในแต่ละคน เป็นงานเขียนของ “ SHAWN ACHOR”แปลเป็นไทยโดย “อนุชยาน์ นนทการติวงศ์” จัดจำหน่ายโดยบริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น ที่หาซื้อได้ง่ายเพียงแค่ดาวน์โหลด SE-ED Application ผ่าน Huawei AppGallery ซึ่งภายในแอพพลิเคชั่น SE-ED นั้น ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ทั้งหนังสือ, E-book, Audiobook และอื่นๆ อีกมากมาย
เรียนภาษาอังกฤษจากนิยายการ์ตูน สำหรับเด็กที่ต้องการจะเก่งด้านภาษา
“ไม่ยากถ้าอยากเก่ง GrammarX2” หนังสือการ์ตูนเกาหลี ที่มีเป้าหมายเพื่อ ปลุกเร้าให้เด็กๆ หันมาสนใจวิชาภาษาอังกฤษ ด้วยเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนที่กล่าวถึง พิธีกรสาวน้อยคนหนึ่ง ปลอมตัวมาจัดรายการแทนพี่สาว เพื่อจะสืบสาวถึงเหตุการณ์ที่มีคนถูกทำร้าย โดยมีนางฟ้าคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ อ่านแล้วทำให้เกิดความสนุกสนานชวนให้น่าติดตาม จัดจำหน่ายในราคา 158 บาท ออกมาเผยแพร่ในหลายๆ ตอนแล้ว โดยแยกอออกเป็น แต่ละหัวข้อที่ต้องการจะให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ สำหรับในเล่มนี้ มุ่งเน้นในเรื่องของการเรียนรู้ในเรื่องของ Grammar โดย เร่งรัดให้เด็กได้รับความรู้แบบ ทวีคูณ
เที่ยวชมทะเลขุนเขาที่แม่ฮ่องสอน ไม่มีที่ไหนจะงามและมากเท่ากับสบเมย
หากจะพูดถึงจังหวัดที่เต็มไปด้วยขุนเขา คงไม่มีที่ไหนเกินไปกว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ได้ชื่อเป็น ดินแดนของทะเลขุนเขาที่ “สุรศักดิ์ ตันตะโยธิน” เขียนเอาไว้ใน “นิตยสาร อสท.” ฉบับล่าสุด ไว้ว่า หากพูด “ถึงเมืองแห่งทะเลขุนเขาคงหนีไม่พ้นแม่ฮ่องสอน และถ้าถามว่า แล้วอำเภอไหนของแม่ฮ่องสอนที่มีภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูง คำตอบคือสบเมย” จากนั้นเรื่องราวอย่างละเอียดพร้อมภาพของสบเมยก็ปรากฏอยู่ในนิตยสารเล่มนี้ จนอยากไปเห็นด้วยตัวตาเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง อาทิ ชายแดนชีวิตและทิศทางของบ้านปางห้า”เขียนโดย “ฐากูร โกมารกุล ณ นคร”, เรื่อง ออนเซ็นน้ำแร่และสายหมอกที่แจ้ซ้อน เขียนโดย“สมศักดิ์ ลำพงศ์พันธ์” จำหน่ายเล่มละ 85 บาท
สร้างวินัยเชิงบวกให้ลูกรัก กลยุทธ์พัฒนาทักษะตั้งแต่เริ่มแรก
“นิตยสาร Baby&Kid” ฉบับล่าสุด นำเสนอเรื่องเด่นของเล่ม จากงานเขียนของ “นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์” จิตแพทย์ แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นคุณหมอผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาเด็กและครอบครัว ด้วยการกล่าวถึง กลยุทธ์พัฒนาทักษะ การสร้างวินัยเชิงบวกให้ลูกรัก ที่ผู้เขียนกล่าวว่า “...เพราะการเลี้ยงลูกในยุคปัจจุบันอาศัยแค่ความรักอย่างเดียวคงไม่พอ ถ้าอยากให้ลูกเก่ง ดี มีความสุขอย่างรอบด้าน คุณพ่อคุณแม่ต้องมีทักษะอื่นๆ ในการเลี้ยงลูกด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ 101 การสร้างวินัยเชิงบวก เขียนโดย “ผศ.ดร.ปนัดดา ธนเศรษฐกร” และเรื่องกลใดสูตรเด็ดฝึกวินัยคุณหนูวัยเตาะแตะ โดย ธัชชา สุภาพ เป็นต้น ราคาเล่มละ 120 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี